เพื่อให้การมุ่งตอบสนองการให้บริการลูกค้า เป็นไปตามวัตถุประสงค์และนโยบายของบริษัทฯ กระผมและผู้บริหารจึงมีนโยบายที่กระจายอำนาจการบริหารงาน เพื่อให้การดำเนินงานมีความกระชับและรวดเร็วยิ่งขึ้น เพราะในปัจจุบันและอนาคตต้องถือว่าความรวดเร็วที่จะตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคคือ “หัวใจของการแข่งขัน” ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องให้ความสำคัญโดยเฉพาะงานบริการดั่งเช่น ธุรกิจรับสร้างบ้าน ที่มีความยุ่งยากและสลับซับซ้อนในการบริหารจัดการงานอยู่มาก เนื่องเพราะลักษณะของงานสร้างบ้านที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป โดยทำการปรับโครงสร้างองค์ใหม่ออกเป็น 6 ฝ่าย 12 แผนก 3 สายงาน และ 5 สาขา พร้อมแต่งตั้ง คุณนิรัญ โพธิ์ศรี เป็นผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการค้า และ คุณธีรพงศ์ เทพมาลัย เป็นผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม มารับผิดชอบการบริหารงาน ซึ่งทั้ง 2 ท่านถือเป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ที่จะมาร่วมกันผลักดันนโยบายของบริษัทฯต่อไป


          ดังนั้นการปรับโครงสร้างการบริหารองค์กรครั้งนี้ จึงต้องมีการจัดระบบการสื่อสารภายในองค์กร ที่เกี่ยวข้องกับผู้บริหารและพนักงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การสั่งงาน การประสานงาน และการตัดสินใจเป็นไปในทิศทางเดียวกันและมีความเข้าใจตรงกัน อีกส่วนหนึ่งก็เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะรองรับการขยายงานในอนาคต หรือสามารถรองรับงานได้เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมไม่น้อยกว่า 3 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณงานที่มีอยู่ในในปัจจุบัน และนั่นหมายถึงว่าหากมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการรับสร้างบ้านเพิ่มขึ้น จะไม่ส่งผลกระทบใดๆต่อการให้บริการ


          หลายท่านที่อยู่ระหว่างสร้างบ้านหรือบางท่านอาจเคยได้ยินเสียงต่อว่าต่อขาน ผู้ประกอบการหลายๆรายจากเพื่อนๆ ญาติๆ หรือบุคคลที่รู้จักบ่นให้ฟังดังเช่น “ไม่มีโฟร์แมนหรือผู้ควบคุมงานก่อสร้าง เข้ามาควบคุมช่างระหว่างทำงานก่อสร้าง เมื่อการทำงานหรืองานก่อสร้างเกิดความผิดพลาดหรือไม่เป็นไปตามสัญญา เจ้าของบ้านก็จะรู้สึกโกรธและไม่พอใจผู้ประกอบการ ที่ไม่ปฏิบัติตามที่โฆษณาและให้สัญญาไว้”

          ข้อความข้างต้น ท่านอาจจะรู้สึกว่าผู้ประกอบไม่ให้ความสำคัญแต่กลับเห็นเป็นเรื่องปกติ ซึ่งที่จริงแล้วผู้ประกอบการก็มิได้มีเจตนาจะละเลย เพียงแต่ไม่สามารถควบคุมพนักงานให้ปฏิบัติหน้าที่ได้ตามนโยบายและตามที่ได้มอบหมายงานไว้ และในมุมตรงข้ามฝ่ายโฟร์แมนหรือผู้ควบคุมงานก่อสร้าง ก็ดูจะยากลำบากที่จะปฏิบัติตาม เพราะระบบการทำงานที่ไม่เอื้อต่อการติดต่อสื่อสารภายในองค์กร นั่นเป็นเพราะว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ไม่มีระบบการบริหารจัดการและควบคุมการสื่อสารภายในองค์กรที่มีประสิทธิภาพ และเกิดผลกระทบโดยตรงกับลูกค้าที่มาใช้บริการ


         เหล่านี้คือปัญหาและเงื่อนไขของผู้ประกอบการรับสร้างบ้าน ซึ่งทีมผู้บริหารของ ปทุมดีไซน์ เห็นถึงความสำคัญและมุ่งมั่นพัฒนามาโดยตลอด เพื่อมิให้ต้องประสบกับปัญหาและเสียงต่อว่าต่อขาน โดยที่ปัจจุบันทีมงานทุกคนทั้งที่ปฏิบัติงานอยู่ภายในสำนักงาน หรือตามโครงการก่อสร้าง หรือปฏิบัติงานอยู่ที่บ้าน สามารถที่จะติดต่อและสื่อสารถึงกันได้ตลอดเวลา ด้วยอุปกรณ์และเครื่องมือสื่อสารที่ทันสมัย เพื่อนำมาใช้สำหรับการติดต่อสื่อสารที่รวดเร็วทั้งในระบบข้อความ ภาพ และเสียงที่สามารถจะสื่อสารถึงกัน ในเวลาเดียวกัน และพร้อมๆกันได้ทุกคน  ไม่ว่าพนักงานแต่ละคนจะปฏิบัติหน้าที่อยู่ ณ จุดใด ฉะนั้น จึงทำให้การทำงานมีความตื่นตัว สามารถที่จะช่วยเหลือและปฏิบัติหน้าที่ทดแทนกันได้ ซึ่งปัจจุบันสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ทั้ง โทรศัพท์มือถือ, วิทยุสื่อสารเฉพาะกลุ่ม, Team work Solution หรือระบบปฏิบัติการบน Internet เป็นต้น

 
          การที่ทีมผู้บริหาร ปทุมดีไซน์ ให้ความสำคัญและลงทุนเกี่ยวกับการสนับสนุนการสื่อสารภายในองค์กร มาโดยตลอด ก็เพราะได้ศึกษาปัญหาและเข้าใจดีถึงความต้องการของผู้บริโภค พร้อมๆกับเล็งเห็นถึงประโยชน์ที่จะได้รับทั้งในแง่ความเชื่อมั่น และการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค รวมทั้งความสะดวกในการปฏิบัติงานของพนักงานในองค์กร และก็หวังว่า...จะเห็นผู้ประกอบการรายอื่นๆมีความตื่นตัว หันมาให้ความสำคัญในเรื่องการจัดระบบองค์กรและการสื่อสารภายในองค์กร ให้สมกับเป็นมืออาชีพดังที่โฆษณาไว้ อย่า...ปล่อยให้ลูกค้ารู้สึกว่าผู้ประกอบการเห็นปัญหาเป็นเรื่องปกตินะครับ