ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
  • ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
นิตยสารบ้านสุขใจ
Line
01 ต.ค.2549

ตุลาคม 2549 ครั้งที่ 3

Line

เดือนตุลาคม 2549(ครั้งที่ 3)

          ตลอดช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนตุลาคม กระผมใช้เวลาที่มีกับการทบทวนเกี่ยวกับบทบาทและผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ตลอดปี 2549 ที่ผ่านมา ในฐานะหนึ่งที่เป็นผู้นำองค์กรแห่งนี้ และอีกในฐานะหนึ่งที่มีส่วนร่วมต่อการพัฒนาภาพรวม ของธุรกิจรับสร้างบ้าน หรือในฐานะเลขาธิการสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านมา 2 สมัยติดต่อกัน ซึ่งเมื่อได้ทำการเปรียบเทียบข้อมูลและสถิติต่างๆ ทั้งในส่วนของบริษัทฯเองและตลาดรับสร้างบ้านโดยรวมในช่วง 2-3 ปีย้อนกลับไป พบว่าบริษัทฯมีการเปลี่ยนแปลงทั้งในแง่บวกและลบ โดยเฉพาะกราฟแสดงยอดขายหรือส่วนแบ่งตลาดของบริษัทฯนั้น มีมูลค่าลดลงสวนทางกับมูลค่าของตลาดรวมรับสร้างบ้านที่เติบโตเพิ่มขึ้น แต่ในแง่ของมูลค่าเพิ่มและมาตรฐานการผลิต หรือการก่อสร้างกลับพบว่ามีแนวโน้มที่ดีขึ้น ตลอดจนข้อมูลและงานวิจัยจากหลายๆหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับภาคธุรกิจอสังหาฯ ได้บ่งชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มและทิศทางการเติบโตของธุรกิจรับสร้างบ้านในอนาคต

          แม้สถิติตัวเลขจะบ่งชี้ว่ายอดขายของบริษัทฯลดลงใน 2 ปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่กระผมและทีมผู้บริหารจะวิตกกังวล มากนัก ทั้งนี้เพราะตามแผนงานของบริษัทฯที่วางไว้ เพื่อจะก้าวขึ้นติดอันดับ Top 5 ของกลุ่มบริษัทรับสร้างบ้านชั้นนำภายในปี 2550 นั้น แผนงานส่วนหนึ่งถูกกำหนดไว้ โดยบริษัทฯจะต้องเป็นผู้มีบทบาทและมีส่วนร่วมที่สำคัญ ในการที่จะสร้างการรับรู้และการเติบโตของภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้านสู่ผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น ซึ่งถือว่าบริษัทฯสามารถผลักดันเรื่องดังกล่าวได้อย่างเห็นผลชัดเจน นับว่าคุ้มค่าอย่างมากหากเปรียบเทียบกับยอดขายของบริษัทฯ ที่ลดลงเพียงเล็กน้อยกับตัวเลขการเติบโตของภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้านในปัจจุบัน

          ในปี 2550 ที่จะถึงนี้ นับเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของแผนงานบริษัทฯที่จะก้าวขึ้น Top 5 ดังนั้นปีนี้จึงเป็นปีที่บริษัทฯจะหันกลับมาเน้นและให้ความสำคัญภายในองค์กรมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านๆมา โดยเฉพาะตลอดช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาของปี 2549 ทีมผู้บริหารได้ทุ่มเวลาเวลาทำการศึกษาจุดอ่อนและจุดแข็งต่างๆของบริษัทฯ พร้อมทั้งเร่งพัฒนาปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิต ปรับปรุงโครงสร้างการบริหารงาน และระบบการบริหารจัดการภายในองค์กร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและมีความพร้อมที่จะก้าวไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ สามารถรองรับปริมาณงานที่จะเพิ่มขึ้น และแชร์ส่วนแบ่งตลาดที่เสียไปกลับคืนมาในช่วงโค้งสุดท้ายของแผนงานบริษัทฯหรือในปี 2550 ที่จะถึงนี้

          ผลจากการที่บริษัทฯได้พยายามส่งเสริมและสร้างมิติของการแข่งขัน ให้เกิดขึ้นในกลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้านชั้นนำในเชิงสร้างสรรค์ดังที่ผ่านมา อาทิ การพัฒนารูปแบบหรือดีไซน์สินค้า การยกระดับมาตรฐานการผลิตสินค้าของผู้ประกอบการ การให้ความสำคัญต่อวัตถุดิบหรือวัสดุที่จะนำมาผลิตหรือก่อสร้าง การสร้างมูลค่าเพิ่มต่อสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคจะได้รับ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้จะส่งผลให้ลูกค้าและผู้บริโภคได้สินค้าที่มีคุณภาพ และคุ้มค่าเมื่อเปรียบเทียบกับเงินที่ได้ลงทุนสร้างบ้าน และแนวทางการแข่งขันในลักษณะนี้จะนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพของผู้ประกอบการ และภาพรวมของตลาดรับสร้างบ้านให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นนโยบายหลักที่สำคัญของบริษัทฯ ในการจะผลิตสินค้าและบริการออกสู่ผู้บริโภคตลอดไป

เราหวังว่า...ผู้ประกอบการที่อยู่ในธุรกิจรับสร้างบ้านจะแข่งขันกันอย่างสร้างสรรค์ เพื่อผู้บริโภคนะครับ

 

นายสิทธิพร สุวรรณสุต
ประธานกรรมการ