ฉบับที่แล้ว เขียนเฉี่ยวเรื่องการเมืองไปเล็กน้อย และก็คาดไม่ถึงว่ามาถึงเดือนธันวาคมนี้ สถานการณ์ทางการเมืองจะร้อนฉ่าขึ้นมาจริงๆ โดยมีการประทะกันของประชาชนในสองฟากฝ่ายการเมือง และจบลงยกแรกด้วยการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ยกต่อๆ ไปก็ยังไม่รู้ว่าแกนนำของสองขั้วอำนาจจะลากพาการเมืองไทยไปในทิศทางใด ซึ่งก็ได้แต่หวังว่าจะไม่เล่นกันเลยเถิดกระทั่งนานาชาติไม่ยอมรับก็แล้วกันนะ ท่านผู้นำทั้งสองขั้วอำนาจทางการเมือง

           ปกติในช่วงเดือนธันวาคมของทุกปีจะมีวันเฉลิมฉลองติดต่อกันหลายวัน แต่สำหรับปีนี้ชาว กทม. จำนวนไม่น้อย จิตใจไม่พร้อมจะมีอารมณ์ร่วมสักเท่าไรนัก ด้วยเพราะเป็นห่วงและกังวลกับสถานการณ์ทางการเมือง รวมทั้งภาคธุรกิจและบรรดาเจ้าของธุรกิจก็ด้วยเช่นกัน ต่างใจจดใจจ่อเฝ้าติดตามสถานการณ์กันอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายที่ “เห็นด้วย” และ “ไม่เห็นด้วย” กับฝ่ายรัฐบาล ทั้งนี้ก็เพราะเริ่มรับรู้ได้แล้วว่าธุรกิจได้รับผลกระทบจากความวุ่นวายทางการเมืองครั้งนี้ หากทุกอย่างจบลงโดยเร็วก็คงจะโล่งอก เพราะจะได้เริ่มต้นทำมาหากินกันต่อไปปีใหม่นี้ แต่ถ้าปัญหาการเมืองยังยืดเยื้อปีใหม่นี้การดำเนินธุรกิจก็คงเหนื่อยหนักแน่ๆ 

           สำหรับ ผู้เขียนเองได้มอบนโยบายและเป้าหมายให้ผู้บริหารไปแล้วเมื่อเร็วๆ นี้ โดยกำชับให้แต่ละฝ่ายจัดทำแผนงานไว้ 2แผน โดยแผนแรกยึดถือตามเป้าหมายหมายสูงสุดที่วางไว้ และจัดทำแผนสำรองเตรียมไว้ด้วย เพราะหากว่าการเมืองและเศรษฐกิจเลวร้ายจะได้รู้ว่าต้องปรับตัวขนาดไหน ซึ่งเมื่อครั้งที่ผู้เขียนบอกกับผู้บริหารว่าเป้ายอดขายบ้านปีนี้  ที่ต้องการคือ 2,000 ล้านบาท แต่ก็ให้ทำแผนสำรองอีกฉบับ  โดยลดเป้ายอดขายบ้านเหลือ 1,200 ล้านบาท หลายท่านก็งงๆ ถามว่า...ทำไม?  ตัวเลขมันต่างกันมาก ซึ่งมาวันนี้หลายๆ ท่านก็ถึง...บางอ้อ กันแล้วล่ะครับ

              ปีใหม่ 2557 นี้ ผู้เขียนขออำนวยอวยพรให้ทุกๆ ท่าน จงประสบแต่สิ่งดีๆ คิดหวังสิ่งใด  ขอให้สำเร็จดังตั้งใจ และขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านจงมีพลังที่จะก้าวไปข้างหน้า ทั้งเรื่องการงานหรือธุรกิจและครอบครัวตลอดไป สวัสดีปีใหม่ ครับ

 นายสิทธิพร สุวรรณสุต
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร