ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
  • ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
ข่าวอสังหาริมทรัพย์
Line
14 ส.ค.2556

เพอร์เฟคหั่นเป้ารายได้ปีนี้ การเมือง-ศก.ทรุด

Line

"พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค" ปรับลดเป้า"รายได้-ยอดขาย"ปีนี้ลงเหลือ 1.4 หมื่นล้าน หลังภาวะเศรษฐกิจชะลอแถมมีปัญหาการเมืองในประเทศ กระทบกำลังซื้อ


นายธีรธัชช์ สิงห์ณรงค์ธร ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มสนับสนุน สายงานลงทุนสัมพันธ์ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค หรือ PF เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับลดเป้ารายได้และยอดขายปีนี้ลง จากเดิมตั้งเป้ายอดรายได้ปีนี้ 1.5 หมื่นล้านบาท ลดลงเหลือ 1.4 หมื่นล้านบาท ส่วนยอดขายเดิมตั้งเป้าไว้ที่ 1.9 หมื่นล้านบาท ลดลงเหลือ 1.7 หมื่นล้านบาท เนื่องจากเป็นเป้าหมายเชิงรุก (Aggressive) มากเกินไป จึงต้องมีการปรับให้เหมาะสม ประกอบกับบริษัทยังมีการขาดทุนจากโรงแรมในญี่ปุ่นอยู่

"ในช่วงที่บริษัทกำหนดเป้าหมายเมื่อช่วงต้นปี ภาพทุกอย่างยังดีอยู่ ไม่ได้มีปัญหา แต่พอผ่านมาครึ่งปี มีการปรับลดเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจ และมีประเด็นทางการเมืองเข้ามา ทำให้บริษัทต้องปรับเป้าการดำเนินงานให้เหมาะสมยิ่งขึ้น"

ส่วนแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว อาจกระทบกับกำลังซื้อบ้าง แต่การตัดสินใจซื้อบ้านมองหลายประเด็น แต่โครงการของบริษัทส่วนใหญ่จับความต้องการที่แท้จริง จึงคาดช่วงครึ่งปีหลังยังเติบโต แต่โตในอัตราที่ชะลอลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ บริษัทมีกำไรสุทธิ 86 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 179 ล้านบาท เฉพาะไตรมาส 2 มีกำไร 2.9 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 53 ล้านบาท

ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากบริษัทยังขาดทุนจากธุรกิจโรงแรมในญี่ปุ่น และคาดว่ายังขาดทุนต่อเนื่องไปถึงครึ่งปีหลังอีก 20-30 ล้านบาท บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับเจ้าของเชนธุรกิจโรงระดับโลกอยู่ 2 รายเพื่อให้มาบริหารโรงแรมในญี่ปุ่น คาดว่าเจรจาเสร็จในช่วงต้นปีหน้า ทำให้บริษัทเริ่มมีกำไรจากการเข้าไปซื้อกิจการโรงแรมดังกล่าว และทำให้ผลการดำเนินงานโดยรวมดีขึ้น

เขากล่าวต่อว่า แม้ภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกจะไม่ค่อยดี แต่ยังเชื่อมั่นว่าทั้งรายได้และยอดขายทั้งปีจะเป็นไปตามเป้าที่ปรับใหม่ เพราะโดยปกติรายได้และยอดขายในช่วงครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก ตามการตัดสินใจจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคที่จะมีมากในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4

นอกจากนี้โครงการของบริษัทยังมีจุดเด่นเรื่องทำเลที่อยู่ใกล้แนวรถไฟฟ้านอกเมือง หรือสายสีน้ำเงิน และสายสีม่วง ซึ่งราคาไม่สูงเหมือนโครงการแนวรถไฟฟ้าในเมือง ทำให้ความต้องการยังมีการเติบโต และเป็นความต้องการที่แท้จริง หรือ เรียลดีมานด์ ไม่ใช้การเก็งกำไร

"ทิศทางของบริษัท ยังคงเน้นที่คอนโดมิเนียม ซึ่งยังมีเรียลดีมานด์อยู่ โดยจะยังคงเน้นในเขตกรุงเทพฯ ไม่ได้รุกออกไปต่างจังหวัดเหมือนผู้ประกอบการรายอื่น ที่มองว่าซัพพลายในกรุงเทพฯมีจำนวนมากแล้ว จึงต้องไปต่างจังหวัด แต่เราเชื่อว่าการออกไปรุกต่างจังหวัดจะเป็นแค่ระยะสั้นๆ อีกไม่นานคงจบ"

 

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 14/8/56