ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
  • ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
ข่าวอสังหาริมทรัพย์
Line
17 ส.ค.2556

หนี้ครัวเรือนพุ่งสัญญาณอันตรายอสังหาฯ

Line

ซีบีริชาร์ดฯ ชี้ตลาดที่อยู่อาศัยไฮเอนด์ครึ่งปีหลัง  ยังไปได้สวย ผู้บริโภคไม่หวั่นกระแสเศรษฐกิจและการเมืองพบกำลังซื้อยังมีเหลือ เผยไตรมาส 3-4 ตลาดคึกคัก แย้มเตรียมเปิดตัวโครงการระดับลักชัวรี่ และซูเปอร์ลักชัวรี่ 6 โครงการรวด มูลค่ากว่า 1.4 หมื่นล้านบาท หวั่นหนี้ครัวเรือนฉุดกำลังซื้อตลาดกลาง-ล่าง

นางสาวอลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส ประเทศไทย จำกัด บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ให้บริการด้านการเป็นตัวแทนในการซื้อขาย และให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงภาพรวมตลาดอสังหาฯระดับไฮเอนด์ ว่าตลาดจะเริ่มกลับมาคึกคักในช่วงไตรมาสที่ 3 ต่อเนื่องไตรมาสที่ 4 ทั้งนี้เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หลังจากไตรมาสที่ 2 กลุ่มผู้บริโภคต้องชะงักการซื้อขาย อันเป็นผลพวงส่วนหนึ่งมาจากความผันผวนของตลาดหุ้น

โดยที่ผู้บริโภคในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติที่ซื้อเพื่อการลงทุน คิดเป็นสัดส่วนถึง 50% และซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง 50% แต่เมื่อสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติผู้บริโภคเกิดความมั่นใจมากขึ้น กำลังซื้อก็จะกลับมาเหมือนเดิม สำหรับสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่ไม่มีความกังวลใดๆ เนื่องจากไม่มีสถานการณ์รุนแรงเกิดขึ้น

สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลัง วางแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่ที่เข้ารับบริหารจำนวนทั้งสิ้น 6 โครงการ รวมมูลค่า1.46 หมื่นล้านบาท ในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม 2556 ประกอบด้วยโครงการคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี่และซูเปอร์ลักชัวรี่ที่กรุงเทพฯ ย่านสาธร,สุขุมวิท จำนวน 3 โครงการ มูลค่าประมาณ 1 หมื่นล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีโครงการบ้านพักตากอากาศและคอนโดมิเนียมโลไรซ์ 8 ชั้น จำนวน 1 โครงการ ภายใต้ชื่อโครงการ"บ้านแสนดาว" ที่เขาใหญ่ บริเวณ กุดคล้า-ผ่านศึก มูลค่า 600 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียมที่พัทยา จำนวน 2 โครงการ บริเวณหาดจอมเทียน มูลค่า 2.5 พันล้านบาท และบริเวณหาดวงศ์อมาตย์ มูลค่าประมาณ 1.5 พันล้านบาท   

นางสาวอลิวัสสา กล่าวย้ำว่า แม้ว่าโครงการใหม่ที่เปิดตัวจะอยู่ในทำเลที่หลายคนเป็นห่วงเรื่องโอเวอร์ซัพพลาย แต่โดยส่วนตัวมองว่าตลาดระดับลักชัวรี่และซูเปอร์ลักชัวรี่ เป็นตลาดเฉพาะกลุ่มที่ยังมีกำลังซื้อคงเหลืออีกจำนวนมาก ขอเพียงเป็นสินค้ามีคุณภาพตั้งอยู่ในทำเลดีแล้ว มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าด้วยดีรวมทั้ง 6 โครงการที่ทางบริษัทเข้ารับบริหารงานขายให้ โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายคอนโดมิเนียมทั้งปีไว้ที่ 1.2-1.4 หมื่นล้านบาท ในขณะที่รายได้รวมทั้งบริษัทจะอยู่ที่ 2.2 หมื่นล้านบาท

เมื่อถามถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลัง นางสาวอลิวัสสา กล่าวว่า สิ่งที่น่าเป็นกังวลคือเรื่องของค่าครองชีพและภาระหนี้สินภาคครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อการผ่อนชำระของผู้ซื้อในอนาคต หากผู้ซื้อไม่มีวินัยทางการเงินที่ดีพอ  ส่วนความกังวลภาวะฟองสบู่นั้น ไม่น่าห่วง เพราะสถาบันการเงินและผู้ประกอบการมีความระมัดระวังมากขึ้น ทั้งในส่วนของการปล่อยสินเชื่อและการพัฒนาโครงการใหม่

 

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 33 ฉบับที่ 2,870 วันที่  15 -17   สิงหาคม  พ.ศ. 2556