นับตั้งแต่ บริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด หรือศูนย์รับสร้างบ้าน พีดีเฮ้าส์ ได้ริเริ่มและต่อยอดธุรกิจเดิมสู่ธุรกิจแฟรนไชส์รับสร้างบ้าน มาตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2552 ที่ผ่านมา กล่าวได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างงดงาม โดยสามารถขยายสาขาได้ครบ 20 สาขาภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว แม้ว่าในระยะแรกๆ อาจออกตัวช้าไปบ้าง เพราะอยู่ในช่วงการพัฒนาระบบ การเตรียมความพร้อม การศึกษาพื้นที่หรือทำเล และตรวจสอบฐานข้อมูลผู้ลงทุนแต่ละรายที่ยื่นความประสงค์ จะเข้าร่วมทำธุรกิจแฟรนไชส์พีดีเฮ้าส์ ซึ่งจังหวัดหัวเมืองหลักๆ มีจำนวนผู้สนใจลงทุนหลายราย ทำให้ทั้ง 20 สาขาขยายครบภายในสิ้นปี 2553 พร้อมเดินหน้ารุกตลาดรับสร้างบ้านทุกภูมิภาค จนก้าวขึ้นแท่นอันดับ 1 สาขามากที่สุด ภายใต้แบรนด์ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ มาตรฐานเดียวกันทั่วไทย สำหรับแผนการขยายตลาดรับสร้างบ้านปี 2554 นายพิศาล ธรรมวิเศษ กรรมการผู้จัดการ  กล่าวว่า บริษัทฯได้ตั้งเป้าไว้จะขยายสาขาจาก  20 สาขาปีที่แล้วเพิ่มเป็น 28 สาขาในปีนี้ เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่บริการมากกว่า 45 จังหวัดของไทย โดยสาขาที่ 21 หรือสาขารังสิต-ปทุมธานี เปิดให้บริการแล้วเมื่อไตรมาส 2 สำหรับสาขาที่ 22-25 ได้แก่ อุบลราชธานี สุราษฎร์ธานี เปิดให้บริการได้ภายในไตรมาส 3 ส่วนสาขาสกลนครและนครสวรรค์ อยู่ระหว่างเซ็ทอัพระบบ เพื่อเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ และสาขาที่ 26-28 ได้แก่ เชียงราย สุรินทร์ สุพรรณบุรีหรือนครศรีธรรมราช คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการไตรมาส 4 หรืออย่างช้าต้นปี 2555 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาข้อตกลงและคัดเลือกผู้ร่วมลงทุนที่มีความพร้อมที่สุด  เช่นเดียวกับแผนการรุกตลาดรับสร้างบ้านปี 2555 บริษัทฯ เตรียมเปิดสาขาในพื้นที่ภาคกลาง เช่น จังหวัดลพบุรี สิงห์บุรี กาญจนบุรี ภาคใต้ที่จังหวัดชุมพร ตรัง และยะลา ฯลฯ เป็นต้น ก่อนที่จะขยายไปสู่จังหวัดอื่น ๆ ทั้งนี้การขยายสาขาต้องการให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศมากกว่า 50 จังหวัด สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายมากที่สุด เพื่อความสะดวกแก่ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการกับพีดีเฮ้าส์ ณ สาขาใกล้บ้าน รวมทั้งสามารถดูแลงานก่อสร้างบ้านได้อย่างใกล้ชิด เพื่อบ้านทุกหลังที่สร้างกับพีดีเฮ้าส์มีคุณภาพและมาตรฐานเดียวกัน 

เจาะลึกผู้ลงทุนแฟรนไชส์พีดีเฮ้าส์
 นายพิศาล กล่าวถึงนักลงทุนกลุ่มเป้าที่สนใจทำธุรกิจรับสร้างบ้าน โดยเฉพาะกลุ่มยังเจนเนเรชั่นเฉลี่ยอายุ 30-35 ปี ซึ่งนายพิศาลเล็งเห็นว่ากลุ่มนี้ จะเรียนจบระดับปริญญาตรี-โท สาขาการบริหาร การตลาดหรือการจัดการ วิศวกร สถาปนิก และอาจทำงานหาประสบการณ์มาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งกลุ่มเป้าหมายนี้ต้องการเริ่มต้นทำธุรกิจเอง แต่ยังขาดระบบและประสบการณ์ จึงมองหาธุรกิจที่มีระบบรองรับ ที่สำคัญต้องเป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ เพื่อต้องการลงทุน ฯลฯ  ที่ผ่านมาผู้ร่วมลงทุนกับแฟรนไซส์พีดีเฮ้าส์ มีศักยภาพทุกราย และมีพื้นฐานทางธุรกิจครอบครัวมาแล้วเป็นอย่างดี เหตุผลสำคัญที่ตัดสินใจเบนเข็มหันมาทำธุรกิจรับสร้างบ้าน เพราะพิจารณาเห็นว่าตลาดรับสร้างบ้านยังเปิดกว้าง มีผลตอบแทนที่ดีและมีความก้าวหน้ามั่นคงในระยะยาว และเป็นธุรกิจที่สะท้อนภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือ หากเปรียบเทียบกับแฟรนไชส์อื่นๆ แฟรนไชส์รับสร้างบ้านโดดเด่นกว่า
 “พีดีเฮ้าส์ มีกระบวนการตรวจสอบและคัดเลือก ผู้ที่จะร่วมลงทุนและเข้ามาสู่ธุรกิจรับสร้างบ้านภายใต้แบรนด์พีดีเฮ้าส์ เพราะต้องการเพื่อนร่วมธุรกิจที่มีแนวคิดตรงกัน และพร้อมจะร่วมกันยกระดับธุรกิจรับสร้างบ้านให้เข้มแข็งและขยายออกไปในวงกว้างอย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้มาตรฐานการสร้างบ้านที่พีดีเฮ้าส์กำหนดไว้ ทั้งการให้บริการก่อนการขาย การรับประกัน แบบบ้านสวย คุณภาพวัสดุ คุณภาพผลงาน และภายใต้ราคาเดียวกัน ฯลฯ ทั้งนี้เพื่อให้ลูกค้าที่จะมาใช้บริการมั่นใจได้ว่าบ้านที่สร้างกับพีดีเฮ้าส์ทุกสาขามาตรฐานเดียวกัน”

เหนือกว่าด้วยแนวคิดผู้นำและความเป็นมืออาชีพ
 นายพิศาล ยังได้กล่าวถึงปัจจัยสำคัญที่ปัจจุบัน พีดีเฮ้าส์ เหนือกว่าคู่แข่งทางธุรกิจรายอื่น ๆ โดยเฉพาะพื้นที่ต่างจังหวัด นั่นเป็นเพราะระบบการบริหารจัดการที่เป็นมืออาชีพ และมีความเป็นผู้นำต่อการพัฒนาสินค้าและบริการอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นจึงได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคมาโดยตลอด อย่างไรก็ดีเมื่อลงพื้นที่ศึกษาข้อมูลเชิงลึก พบว่าในต่างจังหวัดผู้บริโภคมีความต้องการที่จะสร้างบ้านในระดับหนึ่ง แต่มืออาชีพรับสร้างบ้านยังมีจำนวนน้อยมากหรือแทบไม่มี
ด้วยจุดเด่นหลายๆ ด้าน ทั้งในแง่ภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือ การบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ เครือข่ายพันธมิตรธุรกิจและซัพพลายเออร์ สินค้าที่มีมาตรฐานและนวัตกรรม และใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม รวมถึงด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของทีมผู้บริหารที่ทำให้ลูกค้าของพีดีเฮ้าส์ ในทุกพื้นที่เกิดจากการบอกต่อ ๆ กันจากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก จากเพื่อนสู่เพื่อน และลูกค้าที่มีประสบการณ์จนประทับใจสู่คนรู้จักต่อๆ กันไป ล้วนก่อให้เกิดความผูกพันที่ดีต่อแบรนด์พีดีเฮ้าส์ในระยะยาว ซึ่งก็ได้ส่งผลให้ยอดขายของพีดีเฮ้าส์ เติบโตต่อเนื่องและยั่งยืน  ปัจจุบันมีลูกค้าเน้นให้ความสนใจและเลือกใช้บริการจากบริษัทรับสร้างบ้าน ที่มีมาตรฐานมากขึ้นในทั่วทุกพื้นที่ทั่วไทย เพราะปัจจัยในเรื่องความสะดวกบวกกับความมั่นใจ ในอดีตหลายคนเคยช้ำใจจากการสร้างบ้านไม่ได้บ้านมาแล้ว เมื่อตัดสินใจสร้างบ้านกับผู้ประกอบการที่ไม่ใช่มืออาชีพ วันนี้ พีดีเฮ้าส์ จึงนับเป็นผู้เปิดทางเลือกใหม่ให้ผู้ต้องการสร้างบ้านกับสาขาที่มีอยู่กว่า 20 แห่งทั่วประเทศ ภายใต้การให้บริการแบบที่เรียกว่าวันสต๊อปเซอร์วิส เพราะแม้ว่า “ไม่มีเงิน ก็สร้างบ้านได้” ด้วยบริการสินเชื่อที่บริษัทฯ ร่วมกับสถาบันการเงินชั้นนำอย่าง ธ.ไทยพาณิชย์ ช่วยให้ผู้บริโภคมีบ้านหลังใหม่ได้ง่ายขึ้น กับอัตราดอกเบี้ยต่ำและผ่อนสบายๆ 

ชูจุดขายบ้านอนุรักษ์พลังงาน
 ณ วันนี้ต้องยอมรับว่ากระแสตื่นตัวของผู้บริโภค ในเรื่องการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม ได้ขยายเป็นวงกว้างออกไปทั่วประเทศและทั่วโลก สำหรับ พีดีเฮ้าส์ ในฐานะบริษัทรับสร้างบ้านที่เป็นผู้นำ “สร้างบ้านประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” ซึ่งมิใช่การเอ่ยอ้างกันลอยๆ เหมือนรายอื่น แต่พีดีเฮ้าส์สามารถยืนยันได้ด้วยรางวัล “ฉลากบ้านอนุรักษ์พลังงาน” ปี 2552 และปี 2554 ประเภทดี และประเภทดีมาก จำนวนถึง 21 รางวัล จากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน และผลของการนำเสนอสิ่งที่มีคุณค่าต่อผู้บริโภค ส่งผลให้ยอดขายบ้านของพีดีเฮ้าส์ เติบโตอย่างที่เรียกว่าฉุดไม่อยู่เสียแล้ว เพราะพิสูจน์ได้ด้วยผลงานจริงทั้งด้านการออกแบบ การเลือกใช้วัสดุ และผลงานการก่อสร้างที่ผ่านมา

การตลาดกับเป้าหมายยอดขาย 1,000 ล้านบาท
สำหรับการประกาศรุกตลาดรับสร้างบ้านในปี 2554 ช่วงครึ่งปีหลัง นายพิศาล กล่าวว่ายังจะผลักดันและมุ่งสู่เป้าหมายยอดขาย 1,000 ล้านบาทโดยปีนี้บริษัทฯ ได้เตรียมงบประมาณทางการตลาดไว้กว่า 110 ล้านบาท แบ่งเป็น 80% จะใช้สำหรับการจัดรายการส่งเสริมการขาย หรือคืนกำไรให้ลูกค้า และอีก 20% ใช้สำหรับการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ซึ่งปีนี้บริษัทฯ ใช้งบการตลาดสูงกว่าปีที่แล้วมาก โดยยังคงเลือกใช้สื่อสิ่งพิมพ์เป็นหลัก เช่น หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ  Free Magazine “บ้านสุขใจ” และ “DROOM” ที่บริษัทฯ จัดทำขึ้นเอง เพื่อแจกฟรีให้ผู้อ่านที่สนใจ เรื่องสร้างบ้านและวงการรับสร้างบ้าน ทั้งนี้สามารถขอรับได้ทั้ง 20 สาขาของพีดีเฮ้าส์ และวางตามจุดอ่านต่าง ๆ ที่ตรงกลุ่มเป้าหมายของบริษัทฯ ทั่วประเทศ เช่น ร้านกาแฟอะเมซอน วุฒิ-ศักดิ์คลีนิค บ้านไร่กาแฟ โรงพยาบาลชั้นนำทั่วประเทศ ฯลฯ นอกจากนี้สื่ออินเตอร์เน็ตและเว็บไซต์ก็เป็นเครื่องมือที่บริษัทฯ เน้นเจาะเข้าถึงผู้บริโภคด้วยเช่นกัน ปัจจุบันพบว่าเวบไซต์ของบริษัทฯ มีผู้สนใจและลูกค้าเข้าชมไม่น้อยกว่า 600 รายในแต่ละวัน และคลิ๊กเข้าชมเนื้อหาเวบมากกว่า 4,000-5,000 หน้าต่อวัน โดยมีทั้งลูกค้าและผู้เข้าชมในประเทศและต่างประเทศ

 นายพิศาล ยังกล่าวถึงในช่วงครึ่งปีหลัง 2554 ว่าการแข่งขันน่าจะเข้มข้นกว่าครึ่งปีแรก อย่างไรก็ดีบริษัทยังคงยึดมั่นการแข่งขันที่ถูกต้องและรับผิดชอบต่อสังคม อย่างเช่น ไม่หลบเลี่ยงภาษี ไม่ก่อสร้างผิดเทศบัญญัติ ฯลฯ การสร้างบ้านทุกหลังจะคำนึงถึงสภาพแวดล้อม สภาพสังคม เพื่อพัฒนาความเป็นอยู่ของผู้คนในสังคมให้ดีขึ้นโดยไม่กระทบสิทธิ์ของผู้อื่น ล่าสุดยังได้เตรียมร่วมมือกับผู้ผลิตอุปกรณ์หลอดไฟฟ้ารายใหญ่สนับสนุนโครงการติดตั้งหลอดไฟฟ้าประหยัดพลังงานในรูปแบบการจัดโปรโมชั่นพิเศษให้กับลูกค้าที่สร้างบ้านกับพีดีเฮ้าส์ นอกเหนือจากการแถมเครื่องปรับอากาศเบอร์ 5 และเครื่องทำน้ำร้อนพลังงานโซล่าเซลล์ แต่สิทธิพิเศษนี้เฉพาะ 50 หลังแรกที่จองบ้านกับพีดีเฮ้าส์ในช่วงนี้เท่านั้นนะครับ