ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
  • ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
ข่าวอสังหาริมทรัพย์
Line
26 ม.ค.2558

ชี้ช่องลงทุนปีแพะอสังหาฯ-หุ้น-ไปนอก

Line

โอกาสการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในปี 2558 ซึ่งเป็นปีที่เศรษฐกิจอยู่ในจังหวะค่อยๆ เติบโต อสังหาฯ ที่โดดเด่นมี 3 กลุ่มหลักๆ ประกอบด้วย 1.การลงทุนในที่ดิน 2.ลงทุนคอนโดมิเนียมรีเซลและคอนโดมิเนียมมือสอง และ 3.ลงทุนในอสังหาฯ ชายแดน รองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี)
 
          การลงทุนที่ดินในทำเลที่มีศักยภาพและมีโอกาสในอนาคต แม้จะมีความเสี่ยงสูงสุดแต่ก็มีโอกาสที่จะได้ผลตอบแทนสูงสุดเช่นกัน โดยโฟกัสไปที่ที่ดินแปลงเล็กในเขตเมืองถือว่ามีโอกาสที่น่าสนใจและเหมาะกับ การลงทุนของรายย่อย เพราะมีแนวโน้มความต้องการที่เพิ่มขึ้น
 
          อลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มความต้องการที่ดินแปลงเล็กที่อยู่ในซอยบนถนนใจกลางเมือง ไม่ว่าจะเป็นย่านสุขุมวิท ลุมพินี สาทร ได้รับความสนใจจากกลุ่มนักลงทุนและกลุ่ม ผู้ซื้อเพื่อสร้างที่อยู่อาศัยเองมากขึ้น
 
          ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ราคาที่ดินในซอยปรับสูงขึ้นถึง 20% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ราคาซื้อขายสูงสุดแตะ 7 แสนบาท/ตารางวา (ตร.ว.) จากในอดีตซื้อขายสูงสุด 4-5 แสนบาท/ตร.ว. เพราะราคาที่ดินติดริมถนนย่านใจกลางเมืองและใกล้รถไฟฟ้าขยับขึ้นไปแรงมาก จึงมีผลบวกต่อที่ดินในซอย
 
          ส่วนคอนโดรีเซลหรือคอนโดที่นำมาขายก่อนโอนกรรมสิทธิ์และคอนโดมือสองหรือคอน โดที่นำมาขายหลังโอนกรรมสิทธิ์ไปแล้ว จัดเป็นดาวรุ่งในการลงทุนในอสังหาฯ ปี 2558 เพราะราคาที่ดินในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาปรับขึ้นแรงมาก ส่งผลต่อต้นทุน คอนโดใหม่ที่จะมาเปิดตัวขายในปี 2558 มีราคาสูงขึ้นตามไปด้วย ผลตอบแทนทั้งราคาและค่าเช่าจะลดต่ำลงกว่าคอนโดรีเซลและคอนโดมือสอง
 
          สำหรับทำเลที่เหมาะกับการลงทุนคอนโดรีเซลและคอนโดมือสองในปีนี้คือ กลางเมืองและแนวรถไฟฟ้าเส้นทางปัจจุบัน (ไม่นับส่วนต่อขยาย) ถือว่ามีโอกาสดีสุด เพราะทำเลโซนนี้ราคาขยับแรง
 
          ขณะที่การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในไทยรองรับการเปิดเออีซี ถือเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตที่น่าสนใจ เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติมองว่าไทยเป็นฐานการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน จะทำให้มีความต้องการอสังหาริมทรัพย์ในไทยมากขึ้น
 
          สุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) กล่าวว่า ทำเลที่เหมาะกับการลงทุน อสังหาฯ รับเออีซีส่วนใหญ่จะเป็นทำเลติดชายแดนไทยเป็นหลัก ประกอบด้วย โซนภาคเหนือ จังหวัดที่มีโอกาสในการลงทุน คือ เชียงรายและเชียงใหม่
 
          โซนภาคอีสาน จังหวัดที่มีโอกาสในการลงทุน คือ จ.หนองคาย ขอนแก่น และอุดรธานี โซนภาคใต้ คือ หาดใหญ่และสะเดา จ.สงขลา และโซนกรุงเทพฯ และปริมณฑล คือ ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ส่วนปริมณฑลที่โดดเด่นรับเออีซี คือ บริเวณบางใหญ่ ซึ่งถูกยกระดับเป็นแยกอาเซียนตาม โครงข่ายทางหลวงเอเชีย
 
          ส่วนรูปแบบอสังหาฯ รับเออีซีที่เหมาะกับนักลงทุนรายย่อย ประกอบด้วย 1.ที่ดิน 2.อาคารสำนักงานขนาดเล็ก 3.อาคารพาณิชย์ตามแนวชายแดน 4.โกดังและคลังสินค้า 5.โรงแรมขนาดเล็ก หรือเกสต์เฮาส์ และ 6.คอนโดในกรุงเทพฯ โดยการลงทุนในคอนโดในกรุงเทพฯ จัดว่ามีความเล็ก หรือเกสต์เฮาส์ และ 6.คอนโดในกรุงเทพฯ โดยการลงทุนในคอนโดในกรุงเทพฯ จัดว่ามีความสะดวก คล่องตัว และใช้เงินทุนต่ำสุด
 
          ขณะเดียวกัน การลงทุนในตลาดหุ้นก็จะเป็นโอกาสที่ดีเช่นกัน แม้ว่าในปี 2557 ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยจะให้อัตราผลตอบแทนสูงถึง 15.32% แล้วก็ตาม เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนมากมาย อย่างไรก็ตามนักลงทุนจะต้องเผชิญกับความผันผวนของตลาด เนื่องจากตัวแปรสำคัญจากต่างประเทศ  เช่น การปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศที่อาจจะเขย่าความเชื่อมั่นของนัก ลงทุนได้เป็นระยะๆ
 
          ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นักลงทุนไทยควรจะถือโอกาสนี้ออกไปลงทุนในต่างประเทศ เพราะตลาดในประเทศเริ่มจะจำกัดลง กำลังซื้อในประเทศเริ่มขยายตัวยาก และการออกไปลงทุนต่างประเทศจะช่วยให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงด้วย ปัจจุบันค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเหรียญสหรัฐ แต่ก็ยังแข็งกว่าประเทศอื่นในภูมิภาคนี้เล็กน้อย



ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ( 05 มกราคม 2558 )
http://www.reic.or.th/News/News_Detail.aspx?newsid=48485