หลังจากกระแสข่าวที่กลุ่มแสนสิริ ตัดสินใจยกเลิกโครงการ "เดอะเบส เซ็นทรัล อุดรธานี" ซึ่งเป็นคอนโด มิเนียมไฮไรส์ จำนวน 573 ยูนิต ที่เปิดขายช่วงปี 2556  และเป็นโครงการที่ 2 ของกลุ่มแสนสิริใน จ.อุดรธานี ถือว่าตลาดคอนโดมิเนียมต่างจังหวัดถูกส่องสปอตไลต์อีกครั้งว่าจะเข้าสู่ภาวะ ฟองสบู่หรือไม่ โดยโครงการดังกล่าวตัดสินใจยกเลิกโครงการเพราะปัญหาด้านเศรษฐกิจ ซึ่งแหล่งข่าวจากบริษัท แสนสิริ ระบุว่า ที่ดินยังถือเป็นของบริษัท  หากสถานการณ์ดีก็จะกลับมาเปิดตัวอีกครั้ง
 
จากสัญญาณดังกล่าวเมื่อวัดอุณหภูมิคอนโดมิเนียมต่างจังหวัดในเวลานี้ ไม่เพียงแต่อุดรธานีเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ต่างจังหวัด น่าเป็นห่วง เพราะซัพพลายมีการเร่งการเติบโต ส่วนคอนโดมิเนียมก็อยู่ในภาวะเกินความต้องการ ทำให้ตลาดจะต้องใช้เวลาอีกสักระยะในการดูดซับซัพพลายส่วนเกิน ที่เปิดตัวจำนวนมากใน 3-4 ปีที่ผ่านมา
 
ขณะที่ความต้องการมีจำกัด ส่วนปัจจัยบวกที่คาดว่าจะมาจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ถูกประกาศเลื่อนไปเป็นปลายปีนี้ เพราะมีปัญหาเรื่องโครงสร้างของนโยบายการเปิดเออีซีของแต่ละประเทศ
 
นพร  สุนทรจิตต์เจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ กล่าวว่า ปีที่ผ่านมาตลาดอสังหาริมทรัพย์ต่างจังหวัดได้รับผลกระทบจากปัจจัยการเมือง เศรษฐกิจ และราคาพืชผลที่ตกต่ำมาก ส่งผลให้ยอดขายของกลุ่มแลนด์ฯ ในต่างจังหวัดต่ำกว่าเป้าหมายมากถึง 20-25% ซึ่งถือว่าเป็นภาวะที่ตลาดต่างจังหวัดหดตัวมากที่สุดเท่าที่แลนด์ฯ เคยทำทุกตลาดต่างจังหวัด
 
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าสถานการณ์ตลาดต่างจังหวัด ในปีนี้จะดีขึ้น เพราะมองว่าภาครัฐน่าจะมีนโยบายที่กระตุ้นเศรษฐกิจในต่างจังหวัดให้ฟื้นตัว ส่วนการที่มีโครงการคอนโดมิเนียมตัดสินใจยกเลิกขาย เพราะผลจากภาวะเศรษฐกิจก็ถือเป็นแนวทางที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะฟองสบู่ หรือคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ล้นตลาดเหมือนเมื่อวิกฤตปี 2540 จึงไม่ถือว่าตลาดต่างจังหวัดเวลานี้เกิดฟองสบู่ เพราะทุกคนระมัดระวังตัว ถ้าไม่ดีก็แค่ชะลอ
 
ส่วนรายใหญ่วงการคอนโดมิเนียม โอภาส ศรีพยัคฆ์กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ ให้ความเห็นว่า ตลาดคอนโดมิเนียมในต่างจังหวัดหลายจังหวัดเมื่อปีที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องการ ขายและการโอนกรรมสิทธิ์ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ และอีกส่วนหนึ่งเกิดจากซัพพลายในหลายจังหวัดมากเกินไป
 
สำหรับปัจจัยดังกล่าวเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ยอดขายและรายได้ปีที่ผ่านมา ของ แอล.พี.เอ็น.ฯ พลาดเป้า โดยโครงการลุมพินี เพลส ยูดี-โพศรี จ.อุดรธานี ซึ่งมีห้องชุด 1,370 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 2,000 ล้านบาท ถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญของตลาดคอนโดมิเนียมต่างจังหวัดสำหรับ แอล.พี.เอ็น.ฯ โดยในช่วงที่เปิดขายเมื่อประมาณมี.ค. 2556 มียอดขายมากถึง 95%
 
ขณะที่เมื่อตอนสร้างเสร็จในปลายปีที่ผ่านมา กลับโอนกรรมสิทธิ์ได้จริงเพียง 50% หรือมีมูลค่าประมาณ 1,100 ล้านบาท ส่วนปัจจุบันยอดขายเริ่มขยับขึ้นมาเป็น 85% และยอดโอนกรรมสิทธิ์ขยับขึ้นมาเป็น 70% จากการงัด   ทุกกลยุทธ์ที่จะเร่งขายและเร่งโอนในช่วงโค้งสุดท้ายของปีที่แล้ว
 
อนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) กล่าวว่า  เศรษฐกิจในต่างจังหวัดปี ที่ผ่านมาไม่ดี เพราะราคาพืชผลผันผวน ทำให้กำลังซื้อ ต่างจังหวัดชะลอตัวมาก ซึ่งถ้าตลาดไหนที่บริษัทมองว่า ไม่ดีก็ต้องชะลอ โดยเมื่อปีที่ผ่านมาบริษัทตัดสินใจยกเลิกโครงการคูล์ พัทยาใต้ ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมจำนวน 476 ยูนิต พร้อมกับคืนเงินจอง เงินดาวน์ให้กับลูกค้า โดยหากสถานการณ์กลับมาดีก็อาจจะนำกลับมาเปิดตัวอีกครั้ง
 
วิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์การตลาด บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) กล่าวว่า  ที่ผ่านมาตลาดคอนโดมิเนียมอุดรธานีแข่งขันกันรุนแรงมาก เพราะความต้องการของต่างจังหวัดมีจำกัด มีผู้ประกอบการจากส่วนกลางลงไปบุกถึง 3 รายในเวลาใกล้เคียงกัน  ความต้องการคงรับไม่ไหว
 
สำหรับโครงการแอสปาย อุดรธานี ที่มีจำนวน 413 ยูนิต ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 50-60% ซึ่งต้องรอพิสูจน์ ในช่วงการโอนกรรมสิทธิ์อีกครั้งว่าจะเป็นอย่างไร โดยโครงการนี้ก่อสร้างไปประมาณ 80-90% แล้ว คาดว่า จะแล้วเสร็จประมาณเดือน มี.ค.-เม.ย.นี้
 
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเวลานี้ผู้ประกอบการทุกค่ายจะจุกกับโครงการคอนโดมิเนียมในต่างจังหวัด แต่ส่วนใหญ่ยังกล่าวไปในแนวทางเดียวกันว่าระยะยาวแล้วเชื่อว่าจะดีขึ้น รวมถึงตลาดอุดรธานีด้วย เพราะมีปัจจัยเรื่องเออีซี
 
 

ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์วันที่ 19 มกราคม 2558
http://www.reic.or.th/News/News_Detail.aspx?newsid=48612