22 เม.ย.2558
ธุรกิจหวัง เออีซี เพิ่มกำลังซื้อดันอสังหาฯภาคเหนือปีนี้โต
การสำรวจข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ของจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงปลายปี 2557 ในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.ดอยสะเก็ด อ.แม่ริม อ.สันกำแพง อ.สันทราย อ.สันป่าตอง อ.สารภี และอ.หางดง พบมีหน่วยที่อยู่อาศัยในผังโครงการของผู้ประกอบการซึ่งอยู่ในระหว่างการขาย เป็นบ้านจัดสรร 145 โครงการ หน่วยในผัง ประมาณ 14,900 หน่วย อาคารชุด 59 โครงการ หน่วยในผังประมาณ 8,400 หน่วย บ้านพัก ตากอากาศ 2 โครงการ หน่วยในผังประมาณ 65 หน่วย
โครงการบ้านจัดสรร อยู่ระหว่างการขาย 145 โครงการ มีหน่วยในผังโครงการรวม ประมาณ 14,900 หน่วย มูลค่าโครงการตาม หน่วยในผังรวมประมาณ 57,300 ล้านบาท เหลือขายประมาณ 6,200 หน่วย มูลค่าเหลือขาย 24,000 ล้านบาท ประเภทอาคารชุด มี โครงการอาคารชุด อยู่ระหว่างการขาย 59 โครงการ มีหน่วยในผังโครงการรวมกัน 8,400 หน่วย มูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้น 25,800 ล้านบาท เหลือขาย 3,100 หน่วย มูลค่า หน่วยเหลือขายรวม 10,100 ล้านบาท
ธอส.ชี้ภาคเหนือปีนี้ยังขยายตัว
นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) กล่าวถึงแนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ปี 2558 คาดว่าจะยังคงขยายตัวได้ โดยเฉพาะในกลุ่มจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย คาดว่าช่วงปลายปีนี้ ซึ่งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) จะเป็นปัจจัยทำให้แนวโน้มของอสังหาฯ สามารถปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น
นอกจากนี้ ที่อ.แม่สอด จ.ตาก เป็นอีกพื้นที่ที่คาดว่าจะมีการขยายตัวด้านอสังหาฯ จากผลพวงของเขตเศรษฐกิจพิเศษ คาดว่า จะมีนักลงทุนเข้าไปในพื้นที่เพิ่มขึ้น มีการขยายตัวด้านเศรษฐกิจ ส่งให้กลุ่มอสังหาฯขยายตัวเพิ่มขึ้น ส่วนที่จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากที่ใบอนุญาติก่อสร้างที่จะหมดลงในเดือนพ.ค.นี้ หากผู้ประกอบการที่ขออนุญาตก่อสร้างคอนโดมิเนียมไว้แต่ยังไม่ได้ดำเนินการ และไม่ได้ยื่นเพื่อขอต่ออายุการก่อสร้างออกไป เชื่อว่าปี2559 คอนโดมิเนียมในเชียงใหม่จะมีหน่วยเหลือขายน้อยมาก
เออีซีดันตลาดคอนโดเชียงใหม่บูม
นายไพศาล ภู่เจริญ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มอรสิริน กรุ๊ป จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ที่ไม่มีการขยายตัวมากนัก ประกอบกับ หนี้ภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น ความเชื่อมั่นของ ผู้บริโภคต่อภาครัฐมีน้อยลง ส่งผลให้ยอดขายอสังหาฯของบริษัทช่วงต้นปีนี้ลดลงประมาณ 20% ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดระบบบริหารจัดการใหม่ เพราะยังมีกลุ่มลูกค้า ที่ยังไม่ได้ติดตามอยู่จำนวนหนึ่ง สำหรับภาพในเชียงใหม่มีโครงการบ้านจัดสรรอยู่ประมาณ 145 โครงการ มีบ้านจัดสรรที่รอการขายประมาณ 6,000 หลัง ทำให้การแข่งขันในตลาดมีค่อนข้างสูง โดยกลุ่มอาคารชุดมีห้องรอการขายอยู่ประมาณ 3,100 หน่วย ช่วงปลายปีนี้ซึ่งจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน น่าจะปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากกลุ่มลูกค้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มสิงคโปร์ และ มาเลเซีย เริ่มให้ความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในอสังหาฯ ประเภทอาคารชุดเพิ่มขึ้น
นายอานนท์ น้อยอ่ำ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท ภานน จำกัด ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ท้องถิ่นในจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า บริษัทได้ดำเนินการโครงการบ้านจัดสรร 2 โครงการคือ โครงการบ้านภานน เหลือหน่วยขายเพียง 1 หน่วยเท่านั้น และโครงการบ้านนนนิภา มีทั้งหมด 300 กว่าหน่วย ปิดการขายไปแล้วเฟส 1-3 ขณะนี้อยู่ระหว่างขึ้นเฟส 4 มียอดการขายไปแล้ว 70% คาดว่าภายในปีนี้จะสามารถปิดการขายของเฟส 4 ได้ และจะดำเนินการเปิดเฟส 5 ต่อไป
อย่างไรก็ตาม มองแนวโน้มตลาด อสังหาฯในเชียงใหม่ยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง จากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน คาดว่าปลายปีนี้ตลาดอสังหาฯ จะคึกคักมากขึ้น ส่วนการแข่งขันในพื้นที่ทางบริษัทไม่ค่อยมีปัญหาเพราะ "ควอลิตี้เฮ้าส์"บุกลงทุนเมืองชายแดน
นายจรินทร์ พงษ์เย็น ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายโครงการบ้าน 12 บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เชียงรายเป็นตลาดที่มีความน่าสนใจ ในการที่จะเข้าไปลงทุนในอสังหาฯ เนื่องจากมีพื้นที่ติดชายแดน เป็นประตูเชื่อมกับกลุ่มประเทศอาเซียน ทั้งลาว และพม่า ในอนาคตอันใกล้ชียงราย จะเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ มีแนวโน้มการเติบโตที่น่าสนใจ ได้ตัดสินใจเข้ามาก่อสร้างคอนโดมิเนียมในเขตเทศบาลเมืองเชียงราย 2 อาคาร รวม 348 หน่วย มูลค่าประมาณ 540 ล้านบาท บนพื้นที่ 3 ไร่ ถือเป็นโครงการแรกของบริษัท
ปัจจุบันการก่อสร้างเสร็จประมาณ 20% มียอดจองแล้วกว่า 40% โดยกลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่มคนในพื้นที่ และกลุ่มผู้บริโภคจากต่างจังหวัดที่ย้ายเข้ามาทำงานในพื้นที่ รวมทั้ง นักศึกษา นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มนักลงทุนจาก เพื่อนบ้านที่เข้ามาติดต่อการค้าในพื้นที่เข้ามา ซื้อเก็บไว้ เพื่อเป็นที่พัก ในอนาคตคาดว่าจะมี การขยายโครงการในพื้นที่เชียงรายเพิ่มเติม
ทั้งนี้ต้องพิจารณาภาวะเศรษฐกิจ และความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก ด้านการแข่งขันเนื่องจากโครงการอสังหาฯในพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นของท้องถิ่น มีหน่วยการ ขายน้อย มีกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน ทำให้การแข่งขันในพื้นที่มีน้อย
ธปท.ระบุพบสินเชื่อยังเติบโต
นางโสภิต พงษ์รัตนานุกูล ผู้บริหารทีมส่วนเศรษฐกิจภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) สำนักงานภาคเหนือ กล่าวว่า ปีที่ผ่านมาอสังหาฯในภาคเหนือเริ่มปรับตัวลดลงตามภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ดัชนีชี้วัดมาจากพื้นที่ที่ได้รับการอนุญาตก่อสร้างในเขตเทศบาล รวมทั้งมูลค่าการซื้อขายที่ดินปรับตัวลดลง โดยเฉพาะ เชียงใหม่ เนื่องจากได้ขยายตัวไปก่อนหน้านี้ ส่วนจังหวัดเชียงรายมีการเติบโตของ อสังหาฯไปในทิศทางที่ดี ได้รับผลดีจากการค้าชายแดน และการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยที่จังหวัดพิษณุโลก และ นครสวรรค์ ถือเป็นศูนย์กลางของภาคเหนือตอนล่าง ที่มีการเติบโตต่อเนื่อง
โดยสินเชื่อที่ปล่อยให้กับผู้ประกอบการอสังหาฯเขตภาคเหนือปี 2557 อยู่ที่ 17,000 ล้านบาท เป็นของเชียงใหม่ 12,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือกระจายอยู่ในเขตภาคเหนือ ส่วนสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย 1 แสนล้านบาท ประมาณ 48% อยู่ใน เชียงใหม่ ส่วนปี 2558 คาดว่าสินเชื่อทั้งในส่วน ของผู้ประกอบการ และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย คาดว่าจะมีการขยายตัวได้บ้าง แต่ผู้ประกอบการต่างรอดูสถานการณ์ทางเศรษฐกิจว่าจะมี ทิศทางอย่าง ส่วนผู้บริโภคยังคงต้องการขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยจำนวนมาก
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
(วันที่ 22 เมษายน 2558 )
(วันที่ 22 เมษายน 2558 )
