15 พ.ค.2558
บ้านมือสอง มาแรงตลาดอสังหาสิงคโปร์
จุดชนวนตลาดแข่งขันรุนแรงขึ้น กดดันราคา บ้านใหม่ร่วง 6 ไตรมาสติดสิงคโปร์ - ยอดขายบ้านมือ 2 ในสิงคโปร์ ทะยานสูงขึ้นอย่างมาก กดดันนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หั่นราคาขาย ในช่วงเวลาที่อพาร์ตเมนต์ใหม่หลั่งไหลเข้ามาในตลาดมากขึ้น
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ราคาเช่าที่พักอาศัย ที่ปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี และปริมาณเงินค่างวดที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย กลายเป็นตัวกระตุ้นให้บรรดาเจ้าของบ้าน และนักลงทุนในสิงคโปร์ นำอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในครอบครอง ออกมาขายกันมากขึ้น
ปัจจุบัน ยอดขายบ้านมือ 2 ในสิงคโปร์ ทะยานขึ้นจนเกือบถึงครึ่งหนึ่ง ของยอดขายที่อยู่อาศัยภาคเอกชนในสิงคโปร์ ประกอบกับจำนวนอพาร์ตเมนต์ใหม่ ที่ออกมาสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง กดดันให้บรรดานักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ต้องหันมาพิจารณาอย่างจริงจัง ถึงการปรับลดราคาขายอสังหาริมทรัพย์
นายเจสัน ยัป นายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ในช่วง 3-4 ปีก่อนหน้านี้ ทุกอย่างสามารถขายได้ด้วยคุณภาพที่อยู่ในตัวเอง แต่สถานการณ์ในขณะนี้แตกต่างไปจากเดิมอย่างมาก จำเป็นต้องมีการสร้างสิ่งที่ดึงดูดความสนใจได้มากขึ้น
ทั้งนี้ นับแต่ปี 2552 เป็นต้นมา ทางการสิงคโปร์ได้มีการออกมาตรการมาหลายครั้ง เพื่อชะลอความร้อนแรงของตลาดอสังหาริมทรัพย์ รวมถึง การขึ้นค่าอากรแสตมป์ และจัด ทำเงื่อนไขในการขอสินเชื่อเพื่อการเคหะ ที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อยอดขายทั้งในตลาดบน และตลาดรอง
ปัจจุบัน ยอดขายบ้านมือ 2 คิดเป็นสัดส่วนราว 45.5% ของยอดขายโดยรวมในตลาดบ้านเอกชน ในช่วงไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นจากระดับ 38.9% เมื่อ 3 ปีก่อน ซึ่งในข้อมูลใหม่ที่ทางการรวบรวมไว้นั้น ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ยอดขายบ้านมือ 2 ขยายตัวขึ้นถึง 47.1% ของยอดขายโดยรวม
แนวโน้มดังกล่าว ส่งผลให้ราคาบ้านพักอาศัยมือ 1 ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ลดลง 1% เป็นการปรับลดลง 6 ไตรมาสติดต่อกัน โดยที่ตลาดบ้านระดับบนได้รับผลกระทบหนักสุด แต่นักวิเคราะห์เตือนด้วยว่า ตลาดบ้านระดับกลาง ถึงระดับล่าง จะเป็นราย ต่อไป ที่รับรู้ถึงผลกระทบในเรื่องนี้
นายเดอร์ริค เฮง นักวิเคราะห์จากเมย์ แบงก์ กิม เอ็ง บริษัทโบรกเกอร์ ชี้ว่า ราคาในตลาดบ้านระดับกลาง ยังปรับลดลงไม่มากนัก ซึ่งเชื่อว่าจะต้องลดลงมามากกว่านี้อีก บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดเล็ก อย่างฮ็อค เหลียน เซ่ง โฮลดิ้งส์ และร็อกซี่ แปซิฟิก โฮลดิ้งส์ มีแนวโน้มที่จะตกอยู่ในความเสี่ยงมากสุด ในกลุ่มตลาดบ้านระดับกลาง โดยบ้านใหม่ที่ยังขายไม่ออก และมีจำนวนเพิ่มขึ้น จะกลายมาเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันให้ราคาขายต้องร่วงลงไปอย่างต่อเนื่อง
ข้อมูลจากทางการสิงคโปร์ ยังแสดงให้เห็นว่า นับถึงช่วงสิ้นไตรมาสแรกปีนี้ สิงคโปร์มีโครงการบ้านที่ยังอยู่ระหว่างก่อสร้างจำนวน 68,201 ยูนิต โดยมากกว่า 1 ใน 3 ของจำนวนนี้ ยังขายไม่ออก
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
( 13 พฤษภาคม 2558 )
( 13 พฤษภาคม 2558 )
