27 มิ.ย.2558
โตคิวญี่ปุ่นผนึกสหพัฒน์บุกอสังหาฯ ไทย
นายอะคิโตะ โทบะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหโตคิว คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า กลุ่มสหพัฒน์และกลุ่มโตคิว วางแผนการขยายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในไทยมากขึ้นในระยะยาว ซึ่ง โตคิว คอปอเรชั่น มีความเชี่ยวชาญการพัฒนา อสังหาฯ หลากหลายรูปแบบ ทั้งที่อยู่อาศัยแนวรถไฟฟ้า โรงแรม รีสอร์ท ห้างสรรพสินค้า โดย 6 ปีจากนี้ จะใช้เม็ดเงินลงทุนด้านอสังหาฯ ใน
ไทยมากกว่า 1 หมื่นล้านเยน ทั้งนี้ ไทยถือเป็นประเทศที่ 3 ที่กลุ่มโตคิว เข้ามาลงทุน ไม่นับรวมการร่วมทุนกับกลุ่ม ช.การช่าง เมื่อ 34 ปี และห้างสรรพสินค้าโตคิว เมื่อ 28 ปีที่ผ่านมา โดยกลุ่มโตคิว ยังได้ไปลงทุนพัฒนาอสังหาฯ ที่ฮาวาย-ซีแอทเทิล สหรัฐ เมื่อ 30 ปี และเวียดนาม เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา "ไทยมีศักยภาพเป็นศูนย์กลางการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน แม้ที่ผ่านมาจะประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจ การเมือง บ้าง แต่กลุ่มโตคิวมองการลงทุนระยะยาว 30 ปี ที่ผ่านมายังมีชาวญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนและทำงานในไทยเป็นจำนวนมาก จากสถิติของสมาคมหอการค้าญี่ปุ่น เมื่อปี2556 ที่ผ่านมา พบว่ามีชาวญี่ปุ่นเข้ามาทำงานและพักอาศัยในไทย 59,270 คน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง" ประเทศไทยมีความน่าสนใจในการลงทุน
โดยเฉพาะธุรกิจอสังหาฯ ทั้งโรงแรม อาคารสำนักงาน "ธุรกิจหลักของเราที่ญี่ปุ่นพัฒนาและให้บริการระบบรถไฟ มีผลกำไรปีละประมาณ 34% น้อยกว่าธุรกิจอสังหาฯ ที่เป็นธุรกิจรอง แต่ให้ผลกำไรถึงปีละ 48.7% ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 46% จะเป็นผลกำไรจากธุรกิจอื่นๆ"
ในเบื้องต้น จะเน้นโครงการในรูปแบบให้เช่า ในย่านศรีราชา รวมไปถึงธุรกิจอื่นๆ ในอนาคต นายวิชัย กุลสมภพ ตัวแทนผู้บริหารและผู้ถือหุ้นกลุ่มสหพัฒน์ และกรรมการ บริษัท สหโตคิว คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า การลงทุนของสหพัฒน์ให้ความสำคัญกับธุรกิจบริการมากขึ้น รองรับทิศทางธุรกิจไทยที่ขยับสู่ภาคบริการเพิ่มขึ้นในอนาคต ดังนั้น การพัฒนาอสังหาฯ ในรูปแบบเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ถือ
เป็นธุรกิจบริการ จากอดีตบริษัทมุ่งเน้นการผลิตสินค้าเป็นหลัก ล่าสุดร่วมทุนกับกลุ่มโตคิว พัฒนาโครงการ "ฮาโมนิค เรสซิเดนท์ ศรีราชา" ในรูปแบบ เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ การร่วมทุนครั้งนี้ กลุ่มสหพัฒน์ถือหุ้นสัดส่วน 50% กลุ่มโตคิว ถือหุ้น 45% และกลุ่ม ช.การช่าง-โตคิว ถือหุ้น 5% โครงการฮาโมนิค เรสซิเดนท์ ศรีราชา ตั้งอยู่ บนพื้นที่กว่า 30 ไร่ มีจำนวน 3 คลัสเตอร์ แต่ละคลัสเตอร์สูง 2 ชั้น ขนาด 110-130 ตร.ม. จำนวน 180 ยูนิต ราคาเช่า 60,000-70,000 บาทต่อเดือน มูลค่าโครงการ 900 ล้านบาท มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าที่เป็นชาวญี่ปุ่น เปิดตัวอย่างเป็นทางการเดือน ก.ย.นี้ คาดโครงการแล้วเสร็จ เดือน ก.ย. 2559 มั่นใจว่าโครงการดังกล่าวจะสร้างรายได้ 130-150 ล้านบาทต่อปี ถึงจุดคุ้มทุนภายใน 9 ปี
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 26 มิถุนายน 2558
วันที่ 26 มิถุนายน 2558
