06 ก.ค.2558
รายย่อยชิงซอยกลางเมือง
นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดเผยว่า จากปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวมีผลให้ผู้ประกอบการที่อยู่อาศัยรายเล็กได้รับผลกระทบมาก ทั้งในเชิงการขายและการพัฒนาโครงการใหม่ๆ เพราะธนาคารเข้มปล่อยกู้สินเชื่อโครงการกับผู้ประกอบการรายเล็กมาก ทำให้ผู้ประกอบการรายเล็กต้องปรับตัว หาทำเลใหม่ๆ ที่มั่นใจว่าตลาดจะยอมรับและธนาคารจะปล่อยกู้
ทั้งนี้ จากการสำรวจความเคลื่อนไหวของผู้ประกอบการรายย่อย พบว่าหลายรายหันไปพัฒนาโครงการบนทำเลใจกลางเมือง เช่น เอกมัย ทองหล่อ แต่เลือกทำเลเข้าซอยย่อยในทำเลทองเหล่านี้ และเน้นแปลงเล็ก 200-300 ตารางวา ซึ่งเป็นทำเลและลักษณะแปลงที่ดินที่ ผู้ประกอบการรายใหญ่ไม่สนใจ แต่เป็นทำเลที่กลุ่มผู้ซื้อยังสนใจ และธนาคารเชื่อมั่นในทำเลเหล่านี้จึงปล่อยกู้ขณะเดียวกัน พบว่าเริ่มเห็นโครงการลักษณะดังกล่าว 2-3 โครงการ เป็นอาคารความสูงไม่เกิน 8 ชั้น จำนวนไม่เกิน 79 ยูนิต/โครงการ มูลค่าเฉลี่ยประมาณ 140 ล้านบาท/โครงการ ไม่เน้นใช้พื้นที่มาก เพราะออกแบบให้ที่จอดรถเป็นระบบอัตโนมัติ ราคาขาย 8-9 หมื่นบาท/ตารางเมตร (ตร.ม.)
"ราคาขายต่ำกว่า 1 แสนบาท/ตร.ม. บนทำเลทองดึงดูดกลุ่มผู้ซื้อมาก เพราะปัจจุบันโครงการคอนโดมิเนียมในซอยทองหล่อ เอกมัย ที่ติดถนนใหญ่และ ติดถนนฝั่งสุขุมวิท เสนอขายสูงกว่า 2.5-3 แสนบาท/ตร.ม. บางโครงการขยับราคาขายชั้นบนๆ สูงถึง 4 แสนบาท/ตร.ม. ซึ่งถือว่าสูงมาก"
นายพรนริศ กล่าวว่า ปัจจัยดังกล่าวมีผลให้โครงการบริเวณใกล้เคียงขยับราคาตาม และมีผลให้ราคาที่ดินขยับขึ้นด้วย จึงทำให้ทำเลหลักๆ กลายเป็นตลาดของผู้เล่นกลุ่มทุนหนา ทำให้แนวโน้มที่จะเห็นโครงการขนาดเล็กในซอยย่อยๆ ใจกลางเมืองจะเพิ่มขึ้นจากการปรับตัวของรายเล็กในการหาช่องว่างของตลาดสู้กับรายใหญ่
ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
( วันที่ 6 กรกฎาคม 2558 )
( วันที่ 6 กรกฎาคม 2558 )
