29 ก.ค.2558
คอลัมน์ กระจกไร้เงา: ความหวังอสังหาฯ ครึ่งปีหลัง
ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2558 ที่ผ่านมา แม้ตลาดจะมีแรงหนุนใหม่จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมลง แต่เนื่องจากตลาดยังมีความเสี่ยงหลายประการ อาทิ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังอยู่ในระดับที่ค่อยเป็นค่อยไป ทำให้ผู้บริโภคยังชะลอการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย
ขณะที่กำลังซื้อของผู้บริโภคยังไม่กลับมาฟื้นสู่ระดับที่มีศักยภาพ จากภาระรายจ่ายในชีวิตประจำวันที่สูงขึ้น และภาระหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง ประกอบกับราคาที่อยู่อาศัยปรับตัวขึ้นตามกลไกตลาด แต่รายได้ของผู้บริโภคไม่ได้ปรับขึ้นตาม
นอกจากนี้ จากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศให้ลดอัตราดอกเบี้ย จากเดิม 1.75% มาเหลืออยู่ที่ 1.5% คนกู้เงินซื้อบ้านหลังที่ 2 และ 3 เพื่อเก็งกำไรมากขึ้น หลังเศรษฐกิจฟุบ-ดอกเบี้ยต่ำในรอบ 30 ปี ช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ ส่งผลให้เกิดการขยับของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 2558
และเมื่อไม่นานมานี้ กระทรวงการคลังได้มีการให้ดำเนินโครงการสินเชื่อเพื่อสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของประชาชนรายย่อย หรือสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ จะเป็นผลดีต่อการเข้าถึงแหล่งเงินของผู้ใช้บริการ และช่วยแก้ปัญหาหนี้นอกระบบของประชาชนกว่า 6 แสนครัวเรือน และอีก 1 ล้าน 3 แสนครัวเรือน ที่ยังเข้าไม่ถึงแหล่งเงินกู้
ที่สำคัญสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์จากผู้ประกอบการ ปรากฏว่าส่วนใหญ่ฝากความหวังไว้กับช่วงครึ่งปีหลัง โดยอยากเห็นรัฐบาลเร่งเบิกจ่ายงบประมาณและการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากกำลังซื้อที่อยู่อาศัยที่ค่อนข้างชะลอตัว
ซึ่งจากการประเมินแนวโน้มแล้ว พบว่าอสังหาฯ จะทรงตัวไปจนถึงปลายปีนี้ และด้วยปัจจัยเสี่ยงดังกล่าว ได้สะท้อนมายังเครื่องชี้วัดกิจกรรมการลงทุนและการซื้อขายยังอ่อนแรงต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา สุดท้ายแล้วควรระมัดระวังความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นเป็นทางที่ดีที่สุด
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะยังสามารถเติบโตได้ในทิศทางที่ดี ทั้งนี้ นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ระบุว่า ทิศทางอสังหาริมทรัพย์ไทยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ถือว่าชะลอตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าช่วงปี 2557จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมือง และปีนี้จะไม่มีช่วงวิกฤติทางการเมืองก็ตาม
พร้อมทั้งระบุอีกว่า ธุรกิจส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ภาวะหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น ส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดต่ำลง ขณะที่ต่างจังหวัดจะได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำลง ทำให้การเติบโตของอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวลง
สำหรับสถานการณ์ของธุรกิจอสังหาฯ ในช่วงครึ่งหลัง เชื่อว่าจะฟื้นตัวไปในทิศทางดีที่ขึ้นจากครึ่งปีแรก เนื่องจากโครงการส่วนใหญ่ที่ผู้ประกอบการชะลอไว้ในช่วงครึ่งปีแรก น่าจะเริ่มเดินหน้าได้ ประกอบกับช่วงไตรมาส 3 เป็นช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีงบประมาณ จึงเชื่อว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนใส่เข้าระบบ ต่อเนื่อง ทำให้กำลังซื้อช่วงครึ่งปีหลังดีขึ้น ประกอบกับยังมีปัจจัยบวกที่ช่วยกระตุ้นตลาด เช่น อัตราดอกเบี้ยทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ แนวโน้มเศรษฐกิจไทยยังเติบโต ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปีนี้จะเติบโตได้ประมาณ 5%
นอกจากนี้ การที่ภาครัฐเร่งงานก่อสร้างโครงข่ายคมนาคมเพื่อให้เปิดใช้ได้เร็วขึ้น ทั้งรถไฟฟ้าสายสีม่วง ที่เปิดให้บริการ ปี 2559 และสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ที่จะเปิดให้บริการในปี 2560-2561 จะมีส่วนผลักดันทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวได้ตามที่คาดการณ์เอาไว้
ด้านผู้ประกอบการได้แสดงความคิดเห็นในช่วงครึ่งปีหลัง โดยนายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์การตลาด บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ครึ่งหลังปี2558 เชื่อว่าการแข่งขันจะสูงมาก ทั้งการเปิดตัวโครงการใหม่และการเร่งโอนโครงการเพื่อรับรู้รายได้ ซึ่งผู้ประกอบการจะมีการจัดแคมเปญเพื่อกระตุ้นการขาย
ซึ่งในส่วนของบริษัทจะจัดแคมเปญใหญ่ทุกเดือน เพื่อกระตุ้นการขายคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์ โดยขณะนี้ลูกค้าไม่มั่นใจภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้ไม่อยากใช้จ่าย ผู้ประกอบการต้องจัดแคมเปญเพื่อกระตุ้นตลาด และหากครึ่งปีหลังเศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้น ยิ่งส่งผลดีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปัจจุบันจะไม่มีปัจจัยลบเพิ่มขึ้น หรือมาบั่นทอนกำลังซื้อของผู้บริโภคให้ลดลงอีก แต่ควรระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอยกันทุกเวลา เนื่องจากเราไม่สามารถคาดการณ์ว่าช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ หรือในอนาคต จะมีเหตุการณ์เลวร้ายอะไรเกิดขึ้น
กันไว้ดีกว่าแก้ จะดีกว่า !
ขณะที่กำลังซื้อของผู้บริโภคยังไม่กลับมาฟื้นสู่ระดับที่มีศักยภาพ จากภาระรายจ่ายในชีวิตประจำวันที่สูงขึ้น และภาระหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง ประกอบกับราคาที่อยู่อาศัยปรับตัวขึ้นตามกลไกตลาด แต่รายได้ของผู้บริโภคไม่ได้ปรับขึ้นตาม
นอกจากนี้ จากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศให้ลดอัตราดอกเบี้ย จากเดิม 1.75% มาเหลืออยู่ที่ 1.5% คนกู้เงินซื้อบ้านหลังที่ 2 และ 3 เพื่อเก็งกำไรมากขึ้น หลังเศรษฐกิจฟุบ-ดอกเบี้ยต่ำในรอบ 30 ปี ช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ ส่งผลให้เกิดการขยับของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 2558
และเมื่อไม่นานมานี้ กระทรวงการคลังได้มีการให้ดำเนินโครงการสินเชื่อเพื่อสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของประชาชนรายย่อย หรือสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ จะเป็นผลดีต่อการเข้าถึงแหล่งเงินของผู้ใช้บริการ และช่วยแก้ปัญหาหนี้นอกระบบของประชาชนกว่า 6 แสนครัวเรือน และอีก 1 ล้าน 3 แสนครัวเรือน ที่ยังเข้าไม่ถึงแหล่งเงินกู้
ที่สำคัญสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์จากผู้ประกอบการ ปรากฏว่าส่วนใหญ่ฝากความหวังไว้กับช่วงครึ่งปีหลัง โดยอยากเห็นรัฐบาลเร่งเบิกจ่ายงบประมาณและการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากกำลังซื้อที่อยู่อาศัยที่ค่อนข้างชะลอตัว
ซึ่งจากการประเมินแนวโน้มแล้ว พบว่าอสังหาฯ จะทรงตัวไปจนถึงปลายปีนี้ และด้วยปัจจัยเสี่ยงดังกล่าว ได้สะท้อนมายังเครื่องชี้วัดกิจกรรมการลงทุนและการซื้อขายยังอ่อนแรงต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา สุดท้ายแล้วควรระมัดระวังความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นเป็นทางที่ดีที่สุด
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะยังสามารถเติบโตได้ในทิศทางที่ดี ทั้งนี้ นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ระบุว่า ทิศทางอสังหาริมทรัพย์ไทยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ถือว่าชะลอตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าช่วงปี 2557จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมือง และปีนี้จะไม่มีช่วงวิกฤติทางการเมืองก็ตาม
พร้อมทั้งระบุอีกว่า ธุรกิจส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ภาวะหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น ส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดต่ำลง ขณะที่ต่างจังหวัดจะได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำลง ทำให้การเติบโตของอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวลง
สำหรับสถานการณ์ของธุรกิจอสังหาฯ ในช่วงครึ่งหลัง เชื่อว่าจะฟื้นตัวไปในทิศทางดีที่ขึ้นจากครึ่งปีแรก เนื่องจากโครงการส่วนใหญ่ที่ผู้ประกอบการชะลอไว้ในช่วงครึ่งปีแรก น่าจะเริ่มเดินหน้าได้ ประกอบกับช่วงไตรมาส 3 เป็นช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีงบประมาณ จึงเชื่อว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนใส่เข้าระบบ ต่อเนื่อง ทำให้กำลังซื้อช่วงครึ่งปีหลังดีขึ้น ประกอบกับยังมีปัจจัยบวกที่ช่วยกระตุ้นตลาด เช่น อัตราดอกเบี้ยทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ แนวโน้มเศรษฐกิจไทยยังเติบโต ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปีนี้จะเติบโตได้ประมาณ 5%
นอกจากนี้ การที่ภาครัฐเร่งงานก่อสร้างโครงข่ายคมนาคมเพื่อให้เปิดใช้ได้เร็วขึ้น ทั้งรถไฟฟ้าสายสีม่วง ที่เปิดให้บริการ ปี 2559 และสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ที่จะเปิดให้บริการในปี 2560-2561 จะมีส่วนผลักดันทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวได้ตามที่คาดการณ์เอาไว้
ด้านผู้ประกอบการได้แสดงความคิดเห็นในช่วงครึ่งปีหลัง โดยนายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์การตลาด บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ครึ่งหลังปี2558 เชื่อว่าการแข่งขันจะสูงมาก ทั้งการเปิดตัวโครงการใหม่และการเร่งโอนโครงการเพื่อรับรู้รายได้ ซึ่งผู้ประกอบการจะมีการจัดแคมเปญเพื่อกระตุ้นการขาย
ซึ่งในส่วนของบริษัทจะจัดแคมเปญใหญ่ทุกเดือน เพื่อกระตุ้นการขายคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์ โดยขณะนี้ลูกค้าไม่มั่นใจภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้ไม่อยากใช้จ่าย ผู้ประกอบการต้องจัดแคมเปญเพื่อกระตุ้นตลาด และหากครึ่งปีหลังเศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้น ยิ่งส่งผลดีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปัจจุบันจะไม่มีปัจจัยลบเพิ่มขึ้น หรือมาบั่นทอนกำลังซื้อของผู้บริโภคให้ลดลงอีก แต่ควรระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอยกันทุกเวลา เนื่องจากเราไม่สามารถคาดการณ์ว่าช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ หรือในอนาคต จะมีเหตุการณ์เลวร้ายอะไรเกิดขึ้น
กันไว้ดีกว่าแก้ จะดีกว่า !
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
( วันที่ 29 กรกฎาคม 2558 )
( วันที่ 29 กรกฎาคม 2558 )