24 ก.ย.2558
แห่เปิดโครงการล้นฉุดอสังหาฯ ซึมยาวถึงปี 59-หนุนรัฐเร่งออกมาตรการกระตุ้นแรงซื้อ
นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผยว่า ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปีนี้ คาดจะมีจำนวนยูนิตเปิดใหม่ประมาณ 20,000 ยูนิต ขณะที่ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมามีจำนวนยูนิตเปิดใหม่แล้วประมาณ 42,000 ยูนิต อย่างไรก็ตามคาดว่าทั้งปีจะมีจำนวนยูนิตเปิดใหม่รวม 65,000 ยูนิต ลดลงจากปี 57 เนื่องจากผู้ประกอบการมีการชะลอเปิดตัวโครงการและเลื่อนเปิดโครงการไปเปิดในปี 59ทั้งนี้จากการที่ภาครัฐได้มีอนุมัติในโครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ซึ่งมีพื้นที่แนวก่อสร้างล้ำเข้าไปในพื้นที่ราชการมองว่าในพื้นที่ดังกล่าวจะไม่สามารถพัฒนาโครงการได้ แต่เริ่มเห็นการพัฒนาโครงการได้ช่วง อ.ลำลูกกา เป็นต้นไปแล้ว มองว่าจะสามารถพัฒนาคอนโดมิเนียมได้บ้าง ความสูงไม่เกิน 8 ชั้น เนื่องจากเป็นควบคุมความสูงในเขตพื้นที่การบินส่วนของราคาที่ดินทำเล ลำลูกกา-คูคต คาดว่าจะมีปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วง 3-4 ปีข้างหน้า เนื่องจากจะมีรถไฟฟ้าผ่านทั้งสายสีเขียว และสายสีแดง ปัจจุบันมีจำนวนการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในทำเลดังกล่าวประมาณ 10 โครงการ รวมกว่า 20,000-30,000 ยูนิตราคาขายไม่เกิน 1 ล้านบาท ทั้งนี้คาดว่าเมื่อโครงการรถไฟฟ้าสร้างแล้วเสร็จแนวโน้มราคาคอนโดมิเนียมจะไม่มีปรับเพิ่มขึ้นมากนักเพราะยังมีสินค้าเหลือขายยังมีอยู่มาก
สำหรับกระแสข่าวแผนการออกมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐ เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้ เหมือนอย่างที่เคยออกมาในอดีตซึ่งสามารถช่วยกระตุ้นตลาดได้ร้อยละ 20-30 อย่างไรก็ตามกลางเดือน ต.ค.58 จะมีการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโดมิเนียม ภายในงานผู้ประกอบการจะมีแคมเปญออกมากระตุ้นกำลังซื้อเพื่อจูงใจผู้บริโภค คาดจะเป็นอีกหนึ่งแผนที่จะช่วยผู้ประกอบการได้เป็นอย่างดี
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ หรือ LPN กล่าวว่า โดยรวมซัพพลายของอสังหาฯอาจยังไม่ถึงขึ้นล้นตลาด แต่เป็นเฉพาะบางพื้นที่หรือทำเลที่มีผู้ประกอบการแห่เข้าไปเปิดโครงการจำนวนมาก โดยความเสี่ยงที่ยังเป็นปัจจัยทำให้ภาพรวมอสังหาฯเมืองไทยปีนี้และปีหน้ายังคงชะลอตัวต่อเนื่องคือภาวะเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงความผันผวนค่าเงินบาท รวมถึงตลาดเงินตลาดทุนที่มีผลกับประเทศไทย เป็นต้น
ขณะที่แผนการออกมาตรการกระตุ้นอสังหาฯของภาครัฐ บริษัทอยากให้รัฐบาลเร่งผลักดันมาตรการดังกล่าวออกมาใช้ให้เป็นรูปธรรมและรวดเร็วที่สุด เนื่องจากจะส่งผลดีโดยรวมทั้งกับผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และผู้บริโภค ขณะเดียวกันมั่นใจว่าจะกระตุ้นตลาดอสังหาฯ ให้เติบโตไปได้ในทิศทางที่ดีขึ้น แต่การกระตุ้นจะได้ผลมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับระยะเวลาของมาตรการว่าจะออกมาในระยะสั้น หรือระยะยาว
น.ส.อลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส (ประเทศไทย) จำกัด เป็นตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์กล่าวว่า ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ปัจจุบันมีแนวโน้มล้นตลาดในบางพื้นที่ โดยเฉพาะในทำเลที่จะมีรถไฟฟ้าวิ่งผ่านขึ้นในอนาคตอาทิ สายสีม่วง ปัจจุบันมีสินค้าเหลือขายมากกว่าความต้องการซื้อ และคนซื้อโครงการส่วนใหญ่เป็นคนพื้นที่ ตลาดจึงเป็นของคนซื้อเพื่ออยู่จริงมากกว่าซื้อเพื่อลงทุน อีกทั้งราคาที่สูงเกินไปทำให้ตลาดล่างมีปัญหาการขอกู้จากธนาคารไม่ผ่าน เป็นต้น ทำให้มีสินค้าเหลือขายจากการสร้างเสร็จจำนวนมากในปีนี้ ดังนั้นคาดว่าในไตรมาส 4 ปีนี้ผู้ประกอบการจะนำสินค้าที่เหลือขายมาระบายค่อนข้างมาก ซึ่งถือเป็นโอกาสของนักลงทุนจะเข้ามาทำการซื้อสินค้าที่มีการพรีเซลก่อนโอนจำนวนมาก แต่การซื้อของนักลงทุนดังกล่าวจะเป็นในลักษณะเพื่ออยู่อาศัยและการปล่อยเช่าถึงเป็นลงทุนที่คุ้มค่ามากกว่า
ที่มา : หนังสือพิมพ์สยามรัฐ
( วันที่ 24 กันยายน 2558 )
( วันที่ 24 กันยายน 2558 )
