26 ต.ค.2558
มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ปลุกตลาดปี’58โต 10%
สัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จะช่วยดึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับมา และยังก่อให้เกิดการใช้จ่ายเม็ดเงินแบบทวีคูณ (Multiplying Effects) ตามมา เช่น การซื้อเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ในบ้าน รวมทั้งเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยหลังแรก ซึ่งจะส่งผลดีต่อตลาดที่อยู่อาศัยปลายปีนี้ต่อเนื่องถึงไตรมาสแรก ปี 2559
"รัฐต้องการใช้มาตรการแค่พอประมาณ เนื่องจากธุรกิอสังหาริมทรัพย์ไม่ได้อยู่ในขั้นวิกฤต โดยมาตรการจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในช่วงเวลาหนึ่ง เพราะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะมี Multiplying Effects 3-4 เท่า"
ขณะที่สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ใน 3 ไตรมาสที่ผ่านมา ภาพรวมยังอยู่ในภาวะชะลอตัว ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ตลอด 3 ไตรมาส 205 โครงการ รวม 3.2 หมื่นหน่วย เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน บ้านจัดสรรเปิดขายใหม่ 203 โครงการ รวม 3.55 หมื่นหน่วย แม้จำนวนโครงการใกล้เคียงกัน แต่จำนวนหน่วยลดลง 9.8%
ในส่วนของบ้านจัดสรรที่เปิดขายใหม่ใน 3 ไตรมาสแรกของปีนี้ เป็นทาวน์เฮาส์ 58% อีก 28% เป็นบ้านเดี่ยว ที่เหลือเป็นบ้านแฝด หรืออาคารพาณิชย์ โดยบ้านจัดสรรที่เปิดขายไม่มีราคาไม่เกิน 1 ล้านบาทเลย ทั้งนี้ 52% อยู่ในระดับราคา 1.1-3 ล้านบาท สัดส่วน 27% ราคา 3.1-5 ล้านบาท และ 21% ราคาสูงกว่า 5 ล้านบาท
สำหรับโครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ประเภทห้องชุด รวม 3 ไตรมาสแรก เปิดขายใหม่ 105 โครงการ 4.37 หมื่นหน่วย เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2557 ที่มีโครงการอาคารชุดเปิดขายใหม่ 107 โครงการ รวม 4.87 หมื่นหน่วย โดยจำนวนหน่วยลดลง 10.3% ส่วนใหญ่หรือ 63% อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่เหลือเป็นปริมณฑล
ทั้งนี้ สัดส่วนของห้องชุดราคาแพงกว่า 5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 9% ในปี 2557 เป็น 16% ใน 3 ไตรมาสแรกปีนี้ (แต่ลดลงจาก 21% เมื่อสิ้นสุดครึ่งปีแรกปีนี้) เพราะมีห้องชุดราคาแพงเปิดขายมากในไตรมาสแรกต่อเนื่องต้นไตรมาส 2 ขณะที่สัดส่วนห้องชุดราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท ก็ลดลงจาก 53% ในปี 2557 เป็น 39% ใน 3 ไตรมาสแรกปีนี้
ใน 3 ไตรมาสแรกที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ทั้งบ้านและคอนโดมิเนียมเปิดตัวลดลง 10% เนื่องจากผู้ประกอบการชะลอการลงทุนในสถานการณ์เศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย ซึ่งมาตรการที่ออกมาจะเป็นตัวเร่งในการระบายสต๊อกช่วยให้ตลาดปรับสู่ภาวะสมดุลได้ในปีหน้า
ที่มา : posttoday.com
( วันที่ 26 ตุลาคม 2558 )
( วันที่ 26 ตุลาคม 2558 )