27 ต.ค.2558
สกู๊ปพิเศษ: นักวิชาการเชื่อ อสังหาฯฟื้นรับมาตรการกระตุ้นของรัฐ
นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) เปิดเผยว่าภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ไตรมาส 4 หรือในช่วง 3 เดือนสุดท้ายจะดีขึ้นกว่าไตรมาสปกติโดยมีปัจจัยบวกมาจากที่รัฐบาลได้ออกมาตรการการเงินการคลังเพื่อกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์เมื่อวันที่19 ต.ค.2558 ที่ผ่านมา ทั้งการปรับลดค่าธรรมเนียมการโอนและการจองเหลือร้อยละ 0.01 จากพร้อมให้ผู้ซื้อบ้านราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท เป็นระยะเวลา6 เดือน, การนำมูลค่าบ้าน ร้อยละ 20 มา ใช้ลดหย่อนภาษีเงินได้เป็นระยะเวลา5ปีและมอบหมายให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ดูแลกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางให้สามารถซื้อที่อยู่อาศัยในวงเงินที่สูงขึ้นด้วยเงื่อนไขที่ผ่อนปรนโดยประมาณการวงเงินให้สินเชื่อรวมเบื้องต้น 10,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังคาดว่ามาตรการดังกล่าวยังจะช่วยผลักดันให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ทั้งปีเติบโตได้ถึงร้อยละ 10"ต้องยอมรับว่าการออกมาตรการการเงินการคลังเพื่อกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐครั้งนี้นั้นถือว่าเป็นมาตรการที่ออกมาพอประมาณ เพราะตลาดที่อยู่อาศัยไม่อยู่ภาวะวิกฤติ แต่เป็นการทำให้ตลาดอสังหาฯมีความคึกคักมากขึ้นและสามารถขยายไปสู่วงจรธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับอสังหาฯ เช่น กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า และเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น"นายสัมมา กล่าว
ด้านสถานการณ์อสังหาฯไตรมาส 9 เดือนแรกของพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลภาพรวมยังคงชะลอตัวโดยมีจำนวนโครงการที่อยู่อาศัยประเภทบ้านจัดสรรเปิดขายใหม่ 205 โครงการ รวม 32,000 ยูนิต ลดลงประมาณร้อยละ10 หากเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวนเปิดที่ 35,500 ยูนิต แต่มีจำนวนโครงการเปิดใหม่ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาที่ 203 โครงการโดยในไตรมาส 3 มีจำนวนโครงการเปิดใหม่ 70 โครงการรวม 11,900 ยูนิต อย่างไรก็ตามในปี2557 มีจำนวนโครงการรวม 258 โครงการ รวมทั้งสิ้น 45,200 ยูนิต
ขณะที่ผู้ประกอบการที่มีการเปิดขายบ้านจัดสรรใหม่มากที่สุดในช่วง 9 เดือน คือ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท จำนวน 27 โครงการ รวม 8,000 ยูนิต บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ จำนวน 10 โครงการ รวม2,300 ยูนิต และ บมจ.เอพี (ไทยแลนด์)จำนวน 11 โครงการ รวม 1,900 ยูนิต
ทั้งนี้ จากจำนวนบ้านจัดสรรเปิดขายใหม่ทั้งหมดแบ่งเป็นสัดส่วนของทาวน์เฮาส์ร้อยละ 58, บ้านเดี่ยวร้อยละ28 และ บ้านแฝด หรือ อาคารพาณิชย์ร้อยละ 14 ขณะที่สัดส่วนระดับราคาบ้านแบ่งเป็น 1.1-3 ล้านบาท ร้อยละ52,ระดับราคา 3.1-5 ล้านบาท ร้อยละ 27 และระดับราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป ร้อยละ21
ส่วนของที่อยู่อาศัยประเภทห้องชุดมีจำนวนโครงการเปิดใหม่รวม 105 โครงการ รวมทั้งสิ้น 43,000 ยูนิต ลดลงร้อยละ 10.3 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่เปิดรวม 107 โครงการ รวม 48,700 ยูนิต แสดงว่าจำนวนโครงการเปิดใหม่ใกล้เคียงกัน แต่จำนวนยูนิตลดลง โดยในไตรมาส 3 มีจำนวนโครงการเปิดใหม่รวม 27 โครงการรวมประมาณ 11,300 ยูนิต อย่างไรก็ ตามในปี 2557 มีจำนวนโครงการเปิดใหม่รวม157 โครงการ รวมทั้งสิ้น73,100 ยูนิต
ด้านผู้ประกอบการที่มีการเปิดขายจำนวนยูนิตห้องชุดมากที่สุดในช่วง 9 เดือน คือ บมจ.แอลพีเอ็น ดีเวลลอปเม้นท์จำนวน 4 โครงการ รวม 4,900 ยูนิตบมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำนวน 6 โครงการ รวม 4,650 ยูนิต และ บมจ.เอพ(ไทยแลนด์) จำนวน 5 โครงการ รวม4,050 ยูนิต ทั้งนี้จากจำนวนห้องชุดเปิดขายใหม่มีห้องชุดระดับราคามากกว่า5 ล้านบาท ลดลงจากร้อยละ 53 ในปีที่ผ่านมาเหลือร้อยละ 16, ระดับราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท ลดลงจากร้อยละ 53,จากปีที่ผ่านมาเหลือร้อยละ 39 อย่างไรก็ตามมูลค่าโครงการใหม่ในครึ่งปีแรกมีจำนวนรวม 156,000 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 80 ของมูลค่าโครงการทั้งปี 2557 ที่ 194,700 ล้านบาท และปีนี้ห้องชุดมีระดับราคาสูงขึ้นบาท ร้อยละ 52 ระดับราคา 3.1-5 ล้านบาท ร้อยละ 27 และ ระดับราคา 5 ล้านบาทขึ้นไปร้อยละ 21
ที่มา : หนังสือพิมพ์สยามรัฐ
( วันที่ 26 ตุลาคม 2558 )
( วันที่ 26 ตุลาคม 2558 )
