ศูนย์ข้อมูลฯเปิดผลสำรวจดัชนีเชื่อมั่นผู้ประกอบการอสังหาฯลดลง เหตุกังวลเรื่องน้ำท่วม และปัจจัยเศรษฐกิจ ส่งผลให้ดัชนีคาดหวังในอีก 6 เดือนข้างหน้ารูดต่ำด้วย บิ๊กอสังหาฯชิงเค้กคอนโดต่ำกว่าล้าน

นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย ประจำไตรมาส 3 ปี 2556 ซึ่งมีผู้ประกอบการตอบแบบสอบถามจำนวน 166 บริษัท เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 30 บริษัท และบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 136 บริษัท พบว่าค่าดัชนีความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบัน มีค่าเท่ากับ 52.5 ปรับตัวลดลงจากไตรมาสที่แล้ว (2/2556) ซึ่งดัชนีมีค่าเท่ากับ 54.7 แต่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (ไตรมาส 3/2555) ซึ่งดัชนีมีค่าเท่ากับ 51.3 อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่มีการปรับลดเนื่องจากผู้ประกอบการมีความกังวลในด้านผลประกอบการ ยอดขาย การลงทุน การจ้างงาน ต้นทุนค่าก่อสร้าง ปัจจัยเศรษฐกิจ ประกอบกับเข้าสู่ช่วงฤดูฝนทำให้มีความกังวลต่อปัญหาอุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้น

นายสัมมากล่าวว่า ส่วนดัชนีความคาดหวังในอีก 6 เดือนข้างหน้า มีค่าเท่ากับ 60.4 ปรับลดลงจากไตรมาสที่แล้ว ซึ่งมีค่าเท่ากับ 67.4 และลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปี 2555 ซึ่งดัชนีมีค่าเท่ากับ 69.6 โดยในส่วนของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีค่าดัชนีความคาดหวังในอีก 6 เดือนข้างหน้า เท่ากับ 64.4 ปรับลดลงจากไตรมาสที่แล้วซึ่งมีค่าดัชนีเท่ากับ 72.0 ส่วนบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีค่าดัชนีความคาดหวังในอีก 6 เดือนข้างหน้า มีค่าดัชนีเท่ากับ 56.4 ปรับลดลงจากไตรมาสที่แล้วซึ่งมีค่าดัชนีเท่ากับ 62.7

ค่าดัชนีความคาดหวังใน 6 เดือนข้างหน้า (มองยาวไปถึงเดือนมีนาคม 2557) ก็ปรับลดลงจากไตรมาสที่แล้วเช่นกัน และเป็นค่าดัชนีต่ำที่สุดในรอบ 5 ไตรมาส โดยผู้ประกอบการมีความกังวลมากขึ้นต่ออนาคต ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สถานการณ์การเมืองที่ส่อเค้าความยุ่งยาก ปัญหาหนี้ภาคครัวเรือน การขาดแคลนแรงงานและผู้รับเหมา ราคาวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มสูง

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตส จำกัด (มหาชน) หรือพีเอส เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์กรุงเทพฯ และปริมณฑลปีนี้คาดว่าจะเติบโต 7% จากปีที่ผ่านมาหรือมีมูลค่ากว่า 335,000 ล้านบาท โดยเป็นสัดส่วนของคอนโดมิเนียม 58% หรือมูลค่า 194,300 ล้านบาท โดยเป็นคอนโดฯระดับราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท ประมาณ 7-8% มูลค่า 14,000-15,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่มีมูลค่า 9,000 ล้านบาท เนื่องจากมีผู้ประกอบการรายใหญ่เข้ามาเล่นในตลาดนี้มากขึ้น เพราะเป็นตลาดทดแทนอพาร์ตเมนต์และทาวน์เฮาส์ระดับกลาง-ล่าง ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ที่ปัจจุบันไม่สามารถพัฒนาได้แล้ว ซึ่งพฤกษาก็จะเข้ามารุกตลาดนี้เช่นกัน โดยครึ่งปีแรกบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดในส่วนนี้แล้วประมาณ 50% จากปีที่แล้วที่ยังไม่ได้เข้ามา โดยครึ่งปีหลังจะเปิดอีก 2 โครงการมูลค่า 2,000 ล้านบาท และปีหน้าจะเปิดอีก 10-15 โครงการมูลค่า 10,000-20,000 ล้านบาท

ที่มาประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันที่4 ต.ค. 2556