25 พ.ย.2558
ทช.เร่งสร้างถนนเชื่อมเขตศก.พิเศษ
ทางหลวงชนบทกรุยทางพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ตั้งงบปีหน้ากว่า 3 พันล้าน สร้างถนนนำร่องเชื่อม6เส้นทาง สั่งทุกพื้นที่เร่งศึกษาเพิ่ม ยันเตรียมสนับสนุนแผนพัฒนาของทุกจังหวัดเต็มรูปแบบนายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยถึงแผนพัฒนาเส้นทางเชื่อมโยงเขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อเพิ่มโอกาสการขนส่ง โดยระบุว่า ตามแผนงานปี2559 ทางทช.ได้รับงบประมาณกว่า 3,000 ล้านบาท เพื่อดำเนินการก่อสร้างถนนในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งได้เริ่มศึกษาโครงการไปบางส่วนแล้ว จะนำร่องพัฒนาในเส้นทางที่ถือเป็นโครงการเร่งด่วนเพิ่มโอกาสการขนส่ง และลดความแออัด มีทั้งหมด 6 โครงการ ประกอบด้วย 1.ผังเมืองรวมแม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก เป็นการปรุงถนนเลียบแม่น้ำเมย - บ้านวังตะเคียนใต้ ระยะทาง 5 กิโลเมตร ขณะนี้ยังไม่ได้สรุปงบประมาณ
2.ผังเมืองรวมจ.มุกดาหาร ระยะทาง 7.5 กิโลเมตร วงเงินก่อสร้าง 457 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดซื้อจัดจ้าง 3.ทางต่างระดับที่เชื่อมต่อเข้ากับถนนสาย 33 ที่จะวิ่งเข้าไปยังด่านชายแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว วงเงิน 339 ล้านบาท โดยเชื่อมโยงกับโครงการถนนเลี่ยงเมืองอรัญประเทศด้านใต้ ก่อนหน้านี้ได้รับงบประมาณเมื่อปี 2558 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ส่งผลให้ทช.ต้องสร้างจุดเชื่อมต่อกับถนนสาย 33 เพื่อให้รถสามารถใช้ทางเลี่ยงลงมาด้านใต้ ส่งผลให้ในอนาคตเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจชายฝั่งประเทศกัมพูชาสามารถลดการจราจรที่แออัดบนถนนสาย 33 และอำนวยความสะดวกสำหรับการขนส่งสินค้ามากขึ้น
4. เส้นทางสงขลา-ปาดังเบซาร์ ทางทช. ตั้งงบไว้ 130 ล้านบาท เป็นการพัฒนาเส้นทางสงขลาสาย 1027 ไปยังปาดังเบซาร์ โดยขยายถนนให้กว้างขึ้น จากปัจจุบัน 8 - 6 เมตรเป็น 12 เมตร ระยะทาง 10 กิโลเมตร 5.เส้นทางเชียงแสน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย สายแยก ทล. 1098 ไปแยก ทล. 1 อ.เมืองเชียงราย ระยะทาง 28 กิโลเมตร งบประมาณ 1,851 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษา และ 6.เส้นทางหนองคาย ภายใต้ผังเมือง ก ระยะทาง 6.3 กิโลเมตร วงเงิน 273 ล้านบาท ทุกโครงการจะเริ่มเกิดขึ้นในปี 2559 โดยจะจัดสรรใช้ปี 2559 สัดส่วน 20% ปี2560 สัดส่วน 40% และปี 2561 อีก 40%
"การก่อสร้างถนนในเขตเศรษฐกิจพิเศษเกือบทุกเส้นทางเป็นการตัดถนนใหม่ ดังนั้นต้องสำรวจ ออกแบบ ดูแนวเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ด้วยว่าใครได้รับผลกระทบ เวนคืนในส่วนใดบ้าง ก่อนจะเริ่มก่อสร้าง" นายพิศักดิ์ กล่าว
นายพิศักดิ์ กล่าวว่านอกจากเร่งเดินหน้าพัฒนาเส้นทางในปี 2559 แล้ว ขณะนี้ ทช. ยังได้สั่งให้แต่ละหน่วยงานในสังกัดพิจารณาเส้นทางในพื้นที่เขตเศรษฐกิจอื่นๆ ด้วยว่า จะมีเส้นทางใดที่สามารถศึกษาเพื่อรองรับการขยายตัวในเมืองศักยภาพได้อีก เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าออกพื้นที่เขตเศรษฐกิจเพิ่มเติม
สำหรับกระบวนการศึกษาวางแผนงานพัฒนาเส้นทางใหม่ๆ เบื้องต้นจังหวัดจะเป็นผู้พิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร ในเส้นทางใด หลังจากนั้น ทช.จะให้แขวงการทางเข้าไปมีส่วนร่วมเพื่อพิจารณาว่า สมควรพัฒนาเส้นทางไหนในพื้นที่เขตเศรษฐกิจเพื่อให้เส้นทางที่พัฒนาขึ้นใหม่ ตอบสนองการใช้งานจากภาคประชาชน
ที่มา : bangkokbiznews.com
( วันที่ 25 พฤศจิกายน 2558 )
( วันที่ 25 พฤศจิกายน 2558 )
