ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
  • ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
ข่าวอสังหาริมทรัพย์
Line
01 ธ.ค.2558

วัดเรตติ้งมาตรการอสังหาฯ กระตุ้นมู้ด แต่ยอดขายไม่กระตุก

Line
ผ่านมา 1 เดือน หลังรัฐคลอดมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ คาดหวังจะเป็นยาแรงทำให้ผู้ประกอบการระบายสต๊อกเก่าที่ลูกค้าชะลอโอนได้ สะดวกโยธิน และกระตุ้นให้เกิดยอดขายจากซัพพลายใหม่ หลังปลดล็อกเรื่องกู้ไม่ผ่าน สำหรับบ้านราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท 

แต่ ดูเหมือนผลตอบรับที่ออกมายังไม่ถึงเป้าอย่างที่คาดเพราะเป็นแค่ยาช่วย กระตุ้นต่อมคนให้อยากมีบ้าน แต่ไม่ช่วยกระตุกยอดขายได้อย่างที่หวัง 

จาก การสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการหลายบริษัท ต่างประสานเสียงว่าลูกค้าคึกคักขึ้น แต่ยอดขายยังเพิ่มไม่มาก ขณะเดียวกันมีผู้เข้าไปค้นหาการซื้อขายบ้านผ่านเว็บไซต์เพิ่มมากขึ้น 

เช่น เว็บไซต์ DDproperty.com สื่อกลางการซื้อขายอสังหาฯ พบว่า ช่วงเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ยอดผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น 32% จากเดือน ก.ย. และ

มีการค้นหาบ้านเดี่ยวสูงสุด 45% 

ส่วน ความเคลื่อนไหวการขอสินเชื่อจาก "ธอส.-ธนาคารอาคารสงเคราะห์" วงเงินกู้ 1 หมื่นล้านบาท ทาง "สุรชัย ดนัยตั้งตระกูล" ประธานกรรมการ ธอส.กล่าวว่า มีผู้ยื่นความจำนงขอกู้สินเชื่อผ่านแพ็กเกจดังกล่าวกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท ถึงสิ้นเดือน พ.ย.นี้ น่าจะอนุมัติได้กว่า 5 พันล้านบาท และได้ครบตามวงเงินปลายเดือน ม.ค. 2559 และยังไม่ปิดรับการยื่นความจำนง เพราะสามารถขยายวงเงินเพิ่มได้อีก 1 หมื่นล้านบาท

ขณะที่ "พนม กาญจนเทียมเท่า" กรรมการผู้จัดการ บจ.ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ภาพรวมทั้งตลาดยังไม่คึกคัก เพราะสิทธิประโยชน์จากรัฐยังไม่จูงใจและให้สิทธิระยะสั้น เป็นการกระตุ้นการโอนให้กับยอดขายมีอยู่แล้วมากกว่า และยิ่งเน้นกลุ่มสินค้าราคาต่ำ จะต้องพิจารณาอัตรารีเจ็กต์เรตที่ยังสูง แม้ ธอส.และธนาคารออมสินจะมีแพ็กเกจสินเชื่อเงื่อนไขผ่อนปรนแห่งละ 1 หมื่นล้านบาท แต่ไม่เพียงพอ ในปีหน้าอาจจะปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะช่วงใกล้หมดมาตรการลดค่าโอน-จดจำนองเหลือ 0.01% ในเดือน เม.ย. แต่ขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจด้วย

ด้าน "วิทการ จันทวิมล" รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์การตลาด บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) กล่าวว่า มาตรการรัฐที่ช่วยลดค่าโอน-จดจำนองมีส่วนทำให้ความต้องการซื้อของลูกค้าดี ขึ้น มีคนเข้าเยี่ยมชมโครงการหลังมาตรการประกาศใช้เพิ่มกว่า 50% เทียบกับไตรมาสก่อน

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการจะต้องให้โปรโมชั่นร่วมด้วยเพื่อจูงใจลูกค้า บริษัทมีโปรโมชั่นแต่ละกลุ่มสินค้า เช่น คอนโดมิเนียมมีแคมเปญ "แพ็กยัวร์แบ็ก" ทาวน์เฮาส์มีแคมเปญ "เอ็กซ์ตร้า ซีโร่" จะสิ้นสุด ธ.ค.นี้ และปีหน้าจะมีโปรโมชั่นใหม่กระตุ้นต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นเดือน เม.ย. ส่วนสต๊อกพร้อมอยู่ของเอพี มี 1,590 ยูนิต มูลค่า 5,900 ล้านบาท เป็นแนวสูง 1,100 ยูนิต มูลค่า 3,900 ล้านบาท และแนวราบ 490 ยูนิต มูลค่า 2,000 ล้านบาท

ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการและกรรมการบริหาร บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ กล่าวว่า ยอดเยี่ยมชมโครงการเพิ่มขึ้น 30-40% จากไตรมาสก่อน สะท้อนว่าลูกค้ามีความสนใจซื้อเพิ่ม แต่ยอดขายเพิ่มขึ้นไม่มาก เพราะมาตรการรัฐด้านสินเชื่อผ่าน ธอส.เจาะกลุ่มผู้มีรายได้ไม่เกิน 3 หมื่นบาท/เดือน ทำให้อัตรากู้ไม่ผ่านของเสนาฯไม่ได้ลดลงจากมีอยู่ 10-20% ขณะที่สต๊อกพร้อมโอนมี 1,000 ยูนิต มูลค่า 2-3 พันล้านบาท เป็นแนวราบ 200 ยูนิต และแนวสูง 800 ยูนิต ไม่ได้ลดลง 

ด้าน "วงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต" ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มพัฒนาธุรกิจ บมจ.พร็อพเพอร์ตี้เพอร์เฟค กล่าวว่า ยอดขายดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพิ่มขึ้น 40-50% ทุกระดับราคาของบ้านแนวราบ เพราะไตรมาสที่ผ่านมามีการชะลอตัว ส่วนคอนโดฯเพิ่มขึ้นบ้าง 

ด้านสต๊อกถึงสิ้นเดือน เม.ย. 2559 มีกว่า 1 หมื่นล้านบาท เป็นแนวราบ 6 พันล้านบาท และแนวสูง 4 พันล้านบาท มีคอนโดฯที่สร้างเสร็จช่วงเวลามาตรการรัฐ คือ เดอะ สกาย สุขุมวิท, เมโทรลักซ์พระราม 4 และเบลล่า คอสต้า หัวหิน

หากนำยอดขายเทียบช่วง เดียวกันปีก่อน ถือว่าดีขึ้นเล็กน้อย ถึงไม่ได้พุ่งแรงมาก แต่ก็เป็นการช่วยเหลือภาคอสังหาฯแล้ว เพราะไตรมาส 3 สัญญาณตลาดเป็นลบ เมื่อมีมาตรการรัฐจึงเป็นแรงหนุนให้ไตรมาส 4 ส่งสัญญาณฟื้นจากลบเป็นบวก

หากไม่มีมาตรการ ยอดขายอาจไหลลงต่อเนื่องไปจนสิ้นปีก็ได้ !
 
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
( วันที่ 29 พฤศจิกายน 2558 )