ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
  • ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
ข่าวอสังหาริมทรัพย์
Line
26 ก.พ.2559

อสังหาฯ อีสานส่งสัญญาณฟื้นศูนย์ข้อมูลชี้ระยะยาวมีโอกาสดี

Line
สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยภาคอีสาน จากการสำรวจของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ใน 5 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น นครราชสีมา อุดรธานี อุบลราชธานี และมหาสารคาม ซึ่งสะท้อนภาพตลาดปัจจุบันที่เริ่มผ่อนคลายยิ่งขึ้น หลังจากที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ภาคอีสานบูมมาก เมื่อปี 2555-2556 แต่ชะลอตัวอย่างมากตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา จากการที่ผู้ประกอบการรายใหญ่เข้าไปบุกตลาดหนักในเวลาไล่เลี่ยกัน ทำให้ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ตลาดอสังหาริมทรัพย์ภาคอีสานเข้าสู่ภาวะซัพพลายล้นตลาด

ขณะที่สถานการณ์ในปัจจุบัน สัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ กล่าวว่า ผู้ประกอบการรายใหญ่จากส่วนกลางปรับตัวได้เร็วมาก พร้อมยกเลิกโครงการคอนโดมิเนียมทันทีที่เห็นว่ากำลังซื้อชะลอตัว และ ไม่ลงทุนโครงการใหม่ๆ ต่อ ทำให้ซัพพลายใหม่ที่เข้าสู่ตลาดส่วนใหญ่เป็นของผู้ประกอบการท้องถิ่น ซึ่งมีไม่มาก ซัพพลายที่มีอยู่ ก็ทยอยถูกดูดซับ จนปัจจุบันซัพพลายเหลือขายไม่น่าเป็นห่วงเหมือนเมื่อช่วง 2 ปีก่อนแล้ว

ขณะที่ในระยะยาว ภาพรวมตลาดภาคอีสาน ถือว่ามีแนวโน้มที่ดีจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ที่จะส่งเสริมการค้าขายชายแดนให้ขยายตัวมากขึ้น รวมถึงเรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษในหลายจังหวัดภาคอีสานก็เป็นปัจจัยบวกในอนาคตเช่นกัน อีกทั้งโครงการขยายโครงข่ายคมนาคมในอนาคตยังมีความชัดเจนมากขึ้น เช่น โครงการทางด่วนมอเตอร์เวย์ บางปะอิน-โคราช โครงการรถไฟทางคู่ กรุงเทพฯ-แก่งคอย-โคราช-ขอนแก่น-หนองคาย ก็ทำให้การคมนาคมขนส่งสู่ภาคอีสานดีขึ้น แต่ต้องยอมรับว่าระยะสั้นเศรษฐกิจในภาคอีสานยังได้รับผล กระทบจากราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำและภัยแล้ง ซึ่งอาจทำให้เศรษฐกิจท้องถิ่นเติบโตได้ไม่ดีเท่าที่ควร

อย่างไรก็ตาม แม้ปัจจัยดังกล่าวจะยังน่าเป็นห่วง แต่จากการประเมินนโยบายของภาครัฐ จะเห็นว่าได้เร่งแก้ปัญหาเรื่องราคาพืชผลตกต่ำและปัญหาภัยแล้ง พร้อมมีนโยบายฟื้นกำลังซื้อให้กับเกษตรกรต่อเนื่อง จึงเชื่อว่าปัญหาเหล่านี้จะค่อยๆ คลี่คลายดีขึ้น

ด้านการสำรวจภาคสนามใน 5 จังหวัดภาคอีสาน โดยที่ จ.นครราชสีมา และขอนแก่น ยังคงเป็นตลาดใหญ่สุด สำหรับ จ.นครราชสีมา มีหน่วยที่อยู่อาศัยทั้งบ้านแนวราบ บ้านพักตากอากาศและคอนโดมิเนียมในผังโครงการทั้งหมด 1.78 หมื่นหน่วย ปัจจุบันเหลือขาย 7,850 หน่วย ซึ่งจำนวนเหลือขายในตลาดนี้ ส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ส่วน จ.ขอนแก่น มีหน่วยที่อยู่อาศัยทั้งบ้านแนวราบและคอนโดมิเนียมในผังโครงการทั้งหมด 6,300 หน่วย ปัจจุบันเหลือขาย 2,130 หน่วย มีจำนวนเหลือขายที่ลดลงจากปีที่แล้ว

สำหรับ จ.อุดรธานี มีหน่วยที่อยู่อาศัยทั้งบ้าน แนวราบและคอนโดมิเนียมในผังโครงการทั้งหมด 4,900 หน่วย ปัจจุบันเหลือขาย 1,500 หน่วย โดยบ้านแนวราบเหลือขายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จ.อุบลราชธานี มีหน่วยที่อยู่อาศัยทั้งบ้านแนวราบและคอนโดมิเนียมในผังโครงการทั้งหมด 2,970 หน่วย ปัจจุบันเหลือขาย 1,010 หน่วย และ จ.มหาสารคาม มีหน่วยที่อยู่อาศัยทั้งบ้านแนวราบและคอนโดมิเนียมในผังโครงการทั้งหมด 2,380 หน่วย ปัจจุบันเหลือขาย 1,210 หน่วย

สำหรับความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจในตลาดอสังหาริมทรัพย์ภาคอีสาน คือ แม้ว่าผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่จากส่วนกลางจะถอนตัวแล้ว แต่กลุ่มทุนหนานอกอสังหาริมทรัพย์ เช่น กลุ่มซีพีเอ็นกับกลุ่มซีพีแลนด์ยังคงเดินหน้าลงทุนในตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มซีพีเอ็นเพิ่งเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียม Escent Khon Kaen จำนวน 400 หน่วย มียอดจองค่อนข้างสูงเกิน 60% แล้ว คาดว่าเป็นเพราะมีฐานลูกค้าเฉพาะ มีจำนวนยูนิตไม่มาก และเข้าไปในจังหวะที่ซัพพลายน้อยลงแล้ว จึงเชื่อว่าโอกาส ในตลาดอสังหาอสังหาริมทรัพย์ภาคอีสานจะหวนกลับมาใหม่ในเร็วๆ นี้

 
ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
( วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 )