22 มี.ค.2559
มาตรการภาษีดันอสังหาฯโอนสูงสุดรอบ 18 ปี
ผลจากมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ทั้งการลดหย่อนภาษีบ้านไม่เกิน 3 ล้านบาท ลดค่าธรรมเนียมการโอน 2% เหลือ 0.01% และลดค่าธรรมเนียมการจดจำนอง 1% เหลือ 0.01% มีผลให้ ปี 2558 เป็นปีที่มียอดโอนกรรมสิทธิ์ทั้ง บ้านใหม่และมือสองสูงที่สุดในรอบ 18 ปี ทั้งสิ้น 1.96 แสนยูนิต โต 13% เป็นบ้าน แนวราบ 1.24 แสนยูนิต โต 17% คอนโดขยายตัว 7% ด้วยยอด 7.1 หมื่นยูนิต แม้เศรษฐกิจและการเมืองดูไม่สดใส แต่มาตรการต่างๆ ที่แม้จะมีผลเพียง 2 เดือนสุดท้ายของปี แต่กระตุ้นตลาดได้มาก โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ที่ ยอดขายเติบโตและกำไรพุ่ง
ส่วนปีนี้ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ระบุว่า แนวโน้มการโอนไตรมาสแรกจะปรับตัวสูงขึ้นจาก ช่วงเดียวกันปีที่แล้วค่อนข้างมาก เป็นผล สืบเนื่องมาจากเป็นช่วงสุดท้ายก่อนสิ้นสุดมาตรการลดหย่อนภาษี และผู้ประกอบการออกโปรโมชั่นแรง แม้ว่าช่วงเดือนม.ค. พบว่า ยอดการปริมาณการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย จำนวน 1.13 หมื่นยูนิต ลดลง 59% จากเดือนก่อน เหตุเพราะในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปลายของปี 2558 มีการเร่งปริมาณการโอนที่ยอดเพิ่มสูงขึ้นมาก
แยกเป็น คอนโด 5,062 ยูนิต สัดส่วน 45% ลดลง 44% จากเดือนก่อน แต่เพิ่มขึ้น 23% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ทาวน์เฮ้าส์ โอน 3,625 ยูนิต สัดส่วน 32% ลดลง 62% จากเดือนก่อน และลดลง 22 %จากเดือนเดียวกันของปีก่อน บ้านเดี่ยว 1,480 ยูนิตสัดส่วน 13% ลดลง 74 % จากเดือนก่อน และลดลง 32 % จากเดือนเดียวกันของปีก่อน และอาคารพาณิชย์ 815 ยูนิต สัดส่วน 7% ลดลง 67% จากเดือนก่อน และลดลง 34 % จากเดือนเดียวกัน ของปีก่อน
มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย 3.01 หมื่นล้านบาท ลดลง 62% จากเดือนก่อน แต่เพิ่มขึ้น 5 % จากเดือนเดียวกันปีก่อน แยกเป็น คอนโด 1.03 หมื่นล้านบาท สัดส่วน 34% ลดลง 45% จากเดือนก่อน แต่เพิ่มขึ้น 14% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน บ้านเดี่ยว 7,443 ล้านบาท สัดส่วน 25% ลดลง 78% จากเดือนก่อน และลดลง 16% จากเดือนเดียวกันปีก่อน ทาวน์เฮ้าส์ 6,279 ล้านบาท สัดส่วน 21% ลดลง 59% จาก เดือนก่อน และลดลง 2% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน อาคารพาณิชย์ 4,955 ล้านบาท สัดส่วน 16% ลดลง 49% จากเดือนก่อน และลดลง 40 % จากเดือนเดียวกันปีก่อน บ้านแฝด 1,188 ล้านบาท สัดส่วน 4% ลดลง 55 %จากเดือนก่อน แต่เพิ่มขึ้น 17% จากเดือนเดียวกันปีก่อน
ทั้งนี้หากมาตรการลดหย่อน ค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองไม่มีการขยายระยะเวลา จะเป็นปัจจัยบวกในการเร่งตัดสินใจซื้อและโอนของผู้บริโภคในช่วง 2 เดือนที่เหลือ ขณะที่ผู้ประกอบการคงเร่งทำการตลาดอย่างหนักต่อเนื่อง จากปลายปีที่ผ่านมา เพื่อเร่งกระตุ้น ยอดการซื้อ-โอน โดยนำส่วนลดหย่อน ค่าการโอนและจดจำนองที่ประหยัดลงเกือบ 1% มาเล่นแคมเปญต่างๆ
จากการสำรวจข้อมูลของบริษัท ในตลาดหลักทรัพย์ พบว่า ผลประกอบการในช่วง 2 เดือนแรกปีนี้ มีแนวโน้มการเติบโต ทั้งยอดขายและยอดโอน
เลอศักดิ์ จุลเทศ รองประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท พฤกษา จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ในช่วง 2 เดือนแรกทำยอดขายได้ 5,200 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วมาก และเชื่อว่าถึงสิ้นปีจะได้ยอดขายตามเป้า 5.1 หมื่นล้านบาท ขณะที่ยอดการโอนเพิ่มขึ้น เช่นกัน และจะเพิ่มขึ้นอย่างมากในเดือน มี.ค.-เม.ย. เพราะใกล้จะหมดมาตรการ รวมทั้งบริษัทได้จัดแคมเปญกระตุ้น
ทั้งนี้ยอดขายดังกล่าว เติบโตต่อเนื่อง จากช่วง พ.ย.-ธ.ค. 2558 หลังจากมาตรการเริ่มมีผลใช้ บริษัททำยอดขายและยอดโอนกรรมสิทธิ์ 2,347 ยูนิต มูลค่ารวม 6,665 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนเกือบ 100% โดยปี 2558 พฤกษาทำยอดขายใหม่ 4.23 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าปี 2557 ที่มียอดขาย 9.9 หมื่นล้านบาท ขณะที่ยอดรายได้จากการโอนสูงสุดปี 2558 อยู่ที่ 5.06 หมื่นล้านบาท เติบโต 18.7% จากปีก่อนมีรายได้ 4.27 หมื่นล้านบาท
ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ยอดขายในช่วง 2 เดือนแรก 3,130 ล้านบาท เติบโต 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ไม่มีโครงการเปิดใหม่ โดยเป็นยอดขายจากโครงการแนวราบ 2,400 ล้านบาท ทำให้บริษัทคาดว่าไตรมาส 1 ปีนี้ จะทำยอดขายได้ 5,000 ล้านบาท โดยปัจจัยที่ทำให้ยอดขายปรับตัวดีขึ้นนั้น มาจากโครงการแนวราบที่ได้รับแรงหนุนจากนโยบายกระตุ้นอสังหาฯ
เช่นเดียวกับ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด มีผลการดำเนินงาน ไตรมาส 4 ของปี 2558 มีรายได้ 5,426 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
สมเชาว์ ตัณฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีที่ผ่านมาสร้างยอดขายได้กว่า 2,500 ล้านบาท และมียอดโอน 2,107 ล้านบาท สูงกว่าการประมาณการเนื่องจากในช่วงปลายปีรัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านธุรกิจอสังหาฯ ส่งผลให้ยอดขาย และยอดโอนในปลายปีปรับตัวดีขึ้น
ปัจจุบัน เอ็น.ซี.ฯ มีสต็อกบ้านอยู่ระหว่างการขาย 3,000 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้เป็นบ้าน และคอนโดพร้อมโอนใน กทม. และต่างจังหวัด ประมาณ 600 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถโอน ได้หมดในไตรมาสแรก ก่อนสิ้นสุดมาตรการภาษีรัฐ
สำหรับยอดขายไตรมาสแรกมั่นใจว่า จะทำได้ 600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่มียอดขาย 500 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าช่วงนี้การขาย การโอนจะคึกคักแต่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ประเมินว่าภาพรวมเดือนพ.ค.-มิ.ย.จะชะลอตัวหลังจากจบมาตรการกระตุ้น
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
( วันที่ 22 มีนาคม 2559 )
( วันที่ 22 มีนาคม 2559 )