ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
  • ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
ข่าวอสังหาริมทรัพย์
Line
30 มี.ค.2559

สมาคมนายหน้าเตรียมเสนอขายบ้านมือสองผ่านโครงการบ้านประชารัฐ ราคาไม่เกิน 1.5ล. มีมากกว่าหมื่นยูนิต

Line
สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทยเตรียมเสนออสังหาริมทรัพย์มือสอง เข้าร่วมขายผ่านโครงการบ้านประชารัฐ ยืนยันระดับราคาไม่เกิน 1.5 ล้านมีมากกว่าหมื่นยูนิต มั่นใจหากภาครัฐไฟเขียวจะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ และหนุนตลาดบ้านมือสอง 6 เดือนยอดขายขยับเพิ่ม 5%

สมศักดิ์ มุนีพีระกุล นายกสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย (TREBA)  เปิดเผยถึงโครงการบ้านประชารัฐว่า จากการติดตามข้อมูลโครงการดังกล่าวคิดว่าภาครัฐไม่ได้ปฏิเสธการซื้อขายบ้านเมือสองผ่านโครงการนี้ ในขณะที่จำนวนบ้านมือสองในตลาดระดับราคาไม่เกิน 1.5 ล้านนั้นมีอยู่จำนวนมาก ซึ่งทางสมาคมฯ จึงมีความสนใจจะนำบ้านมือสองเข้าไปเสนอร่วมกับโครงการบ้านประชารัฐ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการเตรียมการที่จะเข้าไปยื่นหนังสือเพื่อเข้ารวมโครงการดังกล่าว ทั้งนี้ เชื่อว่านายหน้าอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่มีความสนใจและต้องการขายบ้านมือสองผ่านโครงการดังกล่าว  เนื่องจากเงื่อนไขทั้งเรื่องการออกค่าธรรมเนียมต่าง ๆ และอัตราดอกเบี้ยนั้นจูงใจให้เกิดการตัดสินใจซื้อจากผู้บริโภค หากภาครัฐไฟเขียวที่จะให้ผู้ซื้อบ้านมือสองผ่านโครงการนี้ได้ ทางสมาคมนายหน้าฯ จะต้องทำหน้าที่แจ้งเงื่อนไขต่าง ๆ กับเจ้าของทรัพย์  ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีความเป็นไปได้เพราะที่ผ่านมาค่าธรรมเนียมต่าง ๆ นั้น มีทั้งผู้ซื้อ-ผู้ขายออกกันคนละครึ่ง และผู้ขายเป็นผู้รับภาระในส่วนนี้  โดยเฉพาะเจ้าของทรัพย์ที่ต้องการขายเร็ว อย่างไรก็ตาม จำนวนอสังหาริมทรัพย์มือสองราคาต่ำกว่า 1.5 ล้าน จากการคาดการณ์น่าจะมีจำนวนมากกว่าหมื่นยูนิต ทั้งทาวน์เฮ้าส์ชานเมืองและคอนโดมิเนียม 
     
นายแพทย์สมศักดิ์ เปิดเผยเพิ่มเติมถึงสถานการณ์ของบ้านมือสองในปัจจุบันนี้ว่า  โดยภาพรวมแล้ว
ตลาดยังอยู่ในทิศทางบวก เนื่องจากอยู่ในช่วงมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐจนถึงสิ้นเดือนเมษายนนี้ ทำให้บรรยากาศการซื้อ-ขายนั้นอยู่ในช่วงที่น่าพอใจ แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจไม่ได้ทำให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจในการตัดสินใจซื้อเท่าใดนัก แต่เชื่อว่าหากภาครัฐบาลเห็นด้วยกับการซื้อบ้านมือสองผ่านโครงการบ้านประชารัฐ เชื่อว่าจะมีส่วนช่วยสนับสนุนให้ตลาดมีความคึกคักเพิ่มขึ้น และน่าจะช่วยผลักดันให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์มือสองในช่วงครึ่งปี 2559 เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 5%
 
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
( วันที่ 29 มีนาคม 2559 )