04 มิ.ย.2559
อสังหาฯ หวังภาครัฐลงทุนต่อ
ใกล้จะหมดครึ่งแรกของปี 2559 แล้ว หลายท่านคงกำลังลุ้นกับเศรษฐกิจของประเทศไทย ที่ ณ เวลานี้เชื่อว่ากำลังเดินหน้า ซึ่งหากมองไปในช่วงไตรมาสแรก สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้ออกมาแถลงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพี
โดย สศช.ระบุว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกปี 2559 ขยายตัว 3.2% ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราสูงสุดในรอบ 12 ไตรมาส และทำให้ปีนี้คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ถึง 3.0-3.5% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐที่ขยายตัวสูง ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มขยายตัวในเกณฑ์สูงต่อเนื่อง ราคาน้ำมันที่คาดว่าจะอยู่ในระดับต่ำ และแนวโน้มการปรับตัวดีขึ้นของการผลิตภาคเกษตรในช่วงครึ่งปีหลัง
รวมไปถึงแรงขับเคลื่อนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ที่ได้จัดทำเพิ่มเติมในช่วงปลายปีจนถึงไตรมาสแรกปีนี้ โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งทำให้ในช่วงเวลาดังกล่าวธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีความคึกคัก และประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก
และเป็นที่แน่นอนว่า เมื่อมีมาตรการมากระตุ้น ย่อมส่งผลโดยตรงต่อการระบายสต็อกสินค้าที่มีอยู่ในตลาด ซึ่งจากผลสำรวจของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ พบว่า ที่อยู่อาศัยในช่วง 6 เดือนที่มีมาตรการกระตุ้นบ้านจัดสรรมียอดโอนกรรมสิทธิ 68,500 ยูนิต 23% ส่วนห้องชุดจดทะเบียนมีจำนวน 63,000 ยูนิต เติบโตขึ้น 106% สำหรับโครงการบ้านจัดสรรเปิดขายใหม่ในปี 2559 จำนวน 17,780 ยูนิตลดลง 11% ส่วนโครงการอาคารชุดเปิดขายใหม่ลดลง 39% แต่คาดว่าในเดือน มิ.ย.นี้ผู้ประกอบการจะเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้หมดมาตรกระตุ้นไปแล้ว ผู้ประกอบการยังคงไม่เปิดตัวโครงการใหม่มากนัก เพราะเชื่อว่าทุกบริษัทรอความชัดเจน และถือว่าเป็นความหวังสำหรับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของทางภาครัฐ ซึ่งจากการที่ภาครัฐได้มีนโยบายในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้าสายต่างๆ ทำให้ผู้ประกอบการมีความสนใจในการลงทุนมากยิ่งขึ้น
โดยในปี 2559 ถือเป็นปีทอง เพราะเป็นปีแห่งการลงทุนครั้งใหญ่ของประเทศไทย หลังจากเมื่อปลายที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบแผนปฏิบัติการด้านคมนาคมขนส่งแบบแผนเร่งด่วน พ.ศ.2559 พร้อมกับวางกรอบวงเงิน 1.78 ล้านล้านบาท ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่งของกระทรวงคมนาคม ระยะเร่งด่วน 20 โครงการตามแผนที่วางไว้ โดยจะทยอยเปิดประมูลต่อเนื่อง มั่นใจว่าจะส่งผลต่อการขับเคลื่อนการลงทุนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในระยะยาว และสร้างความมั่นใจให้กับภาคเอกชน
อย่างไรก็ดี โครงการปี 2559 ส่วนหนึ่งจะเป็นโครงการที่ค้างอยู่ มีทั้งรถไฟทางคู่ รถไฟฟ้าสีส้ม สีชมพู สีเหลือง สีม่วงใต้ สีแดงอ่อน และมอเตอร์เวย์ ที่จะเร่งประมูลให้แล้วเสร็จ โดยเฉพาะรถไฟฟ้า จะให้ได้รับการอนุมัติครบทั้งหมด 10 สายทางภายในปีนี้ด้วยเช่นกัน
ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้มีการจัดปาฐกถาในหัวข้อ “การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานในประเทศไทย” ในงาน Post Forum 2016 ได้แผนระยะเร่งด่วน 20 โครงการด้วย โดยเริ่มจากรถไฟฟ้าทั้ง 10 สายทาง คือ สายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) ซึ่งมีความพร้อมมากสุด โดยกำหนดจะเปิดให้บริการในเดือน ส.ค.นี้ และเป็นที่แน่นอนว่าหากโครงการส่วนต่อขยายเกิดได้ครบทุกเส้นทาง จะทำให้ที่ดินมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ จากข้อมูลของฝ่ายวิจัย บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ระบุว่า เส้นทางรถไฟฟ้า 10 สายที่มีกำหนดแล้วเสร็จทั้งหมดทุกสายภายในปี 2563 หรือบางสายอาจจะล่าช้าออกไปมีผลอย่างมากต่อการเปลี่ยนแปลงในหลายๆ พื้นที่ ตลอดแนวเส้นทางที่รถไฟฟ้าผ่าน เพราะเท่ากับเป็นการเปลี่ยนแปลงศักยภาพของทำเลนั้นๆ ไปในทางที่ดีขึ้น
แต่อาจจะมีบางทำเลที่มีการเปลี่ยนเกิดขึ้นรวดเร็วกว่าทำเลอื่นๆ โดยทำเลที่อาจจะเปลี่ยนแปลงแบบรวดเร็วคือทำเลที่มีความพร้อมในหลายๆ เรื่องอยู่ก่อนแล้ว เช่น ศูนย์การค้า มหาวิทยาลัย หรือเป็นจุดตัดของเส้นทางรถไฟฟ้า 2 สาย รวมทั้งผังเมืองที่อาจมีการเปลี่ยนแปลง เพื่อเอื้อประโยชน์ในการพัฒนา
อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ เชื่อว่าผู้ประกอบการต่างรอความหวัง รอความชัดเจนของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของทางภาครัฐ โดยเฉพาะส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้าสายต่างๆ อย่างน้อยๆ ก็เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการที่จะลงทุนใหม่ในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้อีกด้วย
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
( วันที่ 3 มิถุนายน 2559 )
( วันที่ 3 มิถุนายน 2559 )
