อสังหาฯ สะท้าน ภาษีที่ดินใหม่ทุบบ้านหลังที่สอง ลงทุน-เก็งกำไรอ่วม บีบปล่อยที่ดินเปล่า

นายอิสระ บุญยัง นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยว่า พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา (ครม.) ในวันที่ 7 มิ.ย.นี้ หากเป็นไปตามที่ระบุว่าจะจัดเก็บภาษีสำหรับที่อยู่อาศัยที่เป็นหลังแรกราคาเกิน 50 ล้านบาทขึ้นไป ก็จะไม่กระทบกับคนส่วนใหญ่ เพราะที่อยู่อาศัยราคาเกินกว่า 50 ล้านบาทขึ้นไป มีเพียงสัดส่วนไม่ถึง 5% ของตลาดที่อยู่อาศัยทั้งหมด แต่ฐานภาษีของรัฐบาลก็จะแคบลง ส่วนบ้านหลังที่สองซึ่งประเมินว่าจะมีสัดส่วนประมาณ 10% ของที่อยู่อาศัยทั่วประเทศ จะต้องเสียภาษีโดยไม่มีการยกเว้นใดๆ แน่นอนว่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุด

“ตลาดบ้านหลังที่สองจะชะลอตัว ทั้งในส่วนซื้อไว้เป็นบ้านพักตากอากาศ หรือซื้อไว้เพื่อลงทุนปล่อยเช่า รวมถึงสกัดการเก็งกำไรได้พอสมควร อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาตลาดเก็งกำไรชะลอตัวมาก่อนแล้วจากภาวะเศรษฐกิจ” นายอิสระ กล่าว

น.ส.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ กล่าวว่า ที่อยู่อาศัยหลังแรกจะไม่กระทบมาก ส่วนบ้านหลังที่สอง และการซื้อเพื่อการลงทุน คาดว่าจะได้รับผลกระทบเชิงจิตวิทยาในระยะสั้น แต่หากมีการประกาศใช้จริงแล้วในระยะยาวก็จะปรับตัวดีขึ้น ส่วนที่ดินรกร้างที่ถูกจัดเก็บในอัตราภาษีที่สูงมาก หากไม่ได้ใช้ประโยชน์ก็อาจจะต้องปล่อยขายออกมา เช่น กลุ่มที่ได้ที่ดินมรดกมาต้องจ่ายเงินสดค่าภาษีทุกปี แม้ที่ดินจะมีมูลค่าสูง แต่ก็มีแต่ที่ดิน ไม่มีตัวเงินเข้ามาจริง ท้ายที่สุดถ้าไม่ไหวก็ต้องปล่อยขาย

นายเลิศมงคล วราเวณุชย์ เลขาธิการสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า กลุ่มผู้ที่ได้รับมรดกที่ดินมีแนวโน้มจะได้รับผลกระทบมากสุด โดยเฉพาะที่ดินมรดกใจกลางเมือง หากไม่มีแผนจะพัฒนาที่ดินเปล่านี้ต้องจ่ายค่าภาษีหนักมาก เช่น ที่ดินรกร้างย่านสาทร ย่านรัชดาฯ ที่ยังเห็นที่ดินแปลงใหญ่อีกมาก อาจได้เห็นการเปลี่ยนมือ เพราะแม้จะเป็นที่ดินที่มีมูลค่าสูง แต่ไม่ได้สร้างรายได้ในปัจจุบันได้จริง ค่าใช้จ่ายจากภาษีจะสูงมาก

นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า การที่ภาครัฐเตรียมประกาศใช้ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้น ประเด็นที่เป็นปัญหาในเวลานี้คือทรัพย์ส่วนกลางหรือสาธารณูปโภคภายในโครงการจะต้องนำมาเสียภาษีด้วยหรือไม่ เนื่องจากเป็นถนนส่วนกลางเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการขายภายในโครงการจัดสรร ซึ่งทางสมาคมได้มีหนังสือชี้แจงไปยังกระทรวงการคลังแล้วว่าไม่ควรเก็บภาษีในส่วนดังกล่าว
 

ที่มา : posttoday.com
( วันที่ 8 มิถุนายน 2559 )