ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
  • ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
ข่าวอสังหาริมทรัพย์
Line
09 ส.ค.2559

ธอส.รุกรับสังคม สูงอายุ ปล่อยกู้บ้าน 7 พันล้าน

Line

        ธอส.เตรียมสินเชื่อรับมือสังคมผู้สูงอายุวงเงิน 7 พันล้านบาท ปล่อยกู้รายย่อยอายุเกิน 50 ปีวงเงิน 3 พันล้าน ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3.50% ส่วนอีก 4 พันล้านปล่อยกู้ผู้ประกอบการสร้างบ้านคอนโดขายผู้สูงวัย

        นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธนาคารเตรียมวงเงิน 7,000 ล้านบาทจัดทำโครงการบ้าน ธอส. เพื่อผู้สูงอายุ แบ่งเป็น สินเชื่อสำหรับผู้กู้รายย่อยวงเงิน 3,000 ล้านบาท ให้เงินกู้ผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปดอกเบี้ยปีที่ 1-4 เท่ากับเอ็มอาร์อาร์ลบ 3.25% ต่อปี หรือเฉลี่ย 3.50% ต่อปี ส่วนปีที่ 5 ตลอดอายุสัญญากู้ กรณีลูกค้าสวัสดิการคิดอัตราดอกเบี้ยเอ็มอาร์อาร์ลบ 1% ต่อปี กรณีลูกค้ารายย่อยอยู่ที่เอ็มอาร์อาร์ลบ 0.5% ต่อปี และกรณีกู้ซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัยคิดเอ็มอาร์อาร์ส่วนระยะเวลาผ่อนชำระพิจารณาจากอายุของผู้กู้รวมกับจำนวนปีที่ขอผ่อนชำระต้องไม่เกิน 70 ปี

        ส่วนที่เหลืออีก 4,000 ล้านบาทเป็นสินเชื่อเพื่อพัฒนาโครงการ เป็นการปล่อยกู้ให้ผู้ประกอบการที่จัดทำโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อผู้สูงอายุ ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ และห้องชุด ไม่น้อยกว่า 40% ของจำนวนหน่วยขายทั้งหมดของโครงการ คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ปีที่ 1-2 เท่ากับ 4% ต่อปี จากนั้นปีที่ 3-5 อัตราดอกเบี้ยของภาระหนี้ส่วนที่เหลือไม่ต่ำกว่าเอ็มแอลอาร์ลบ 1% ต่อปี โดยผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการต้องมีคุณสมบัติคือ เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หรือผู้ประกอบการในโครงการฟาสต์ แทร็ก หรือรีจินัล ฟาสต์ แทร็ก ของธนาคาร เคยมีประสบการณ์และมีความสำเร็จในการทำธุรกิจจัดสรร ผู้สนใจยื่นคำขอกู้และทำนิติกรรมได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 ธันวาคม 2559

        ทั้งนี้ โครงการสินเชื่อเพื่อผู้สูงอายุมี 3 ส่วน โดยส่วนแรกธนาคารจัดสรรวงเงินเอง 3,000 ล้านบาท จากนั้นในส่วนที่ 2 จะเป็นความร่วมมือกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) วงเงิน 1,500 ล้านบาท และส่วนที่ 3 เป็นโครงการของรัฐบาล วงเงินรวม 20,000 ล้านบาท

        นายฉัตรชัย กล่าวถึงผลดำเนินงานในครึ่งปีแรก (มกราคม-มิถุนายน) ของปี 2559 ว่า ธนาคารปล่อยสินเชื่อใหม่ทั้งสิ้น 75,853 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.93% คิดเป็น 45% ของเป้าหมายรวมทั้งปีที่ 170,043 ล้านบาท โดยเป็นการปล่อยสินเชื่อใหม่ที่เป็นวงเงินกู้ไม่เกินรายละ 2 ล้านบาท จำนวน 43,395 ราย สะท้อนให้เห็นถึงธนาคารสามารถสร้างโอกาสให้ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง ได้มีบ้านเป็นของตัวเองได้

        "ยอมรับว่าเอ็นพีแอลเพิ่มขึ้นบ้าง มาจาก 2 ส่วนคือ ลูกหนี้ที่เป็นเอ็นพีแอลอยู่แล้ว อีกส่วนคือลูกหนี้ที่ปรับโครงสร้างหนี้ไปแล้ว แต่กลับมาเป็นเอ็นพีแอลใหม่ ซึ่งส่วนที่เพิ่มขึ้นไม่ได้เกิดจากโครงการของภาครัฐ หรือกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่กระจายๆ กันไป ซึ่งมีเป้าหมายจะควบคุมให้ไม่เกิน 5.2% ก็คาดตั้งแต่ต้นปีแล้วว่า อาจจะทำได้ยากในสถานการณ์เศรษฐกิจเช่นนี้ แต่จะทำให้ได้" นายฉัตรชัย กล่าว
 
ที่มา : หนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก
( วันที่ 9 สิงหาคม 2559 )