รศ.พจน์ชวิทย์ อภินิเวศ
แบบบ้าน ME-122

บ้าน คือ ความอบอุ่น คุณภาพ คือ ความมั่นใจ

Line
ภาพนี้ถูกบันทึกและเผยแพร่ ก่อนวันที่ 1 มิ.ย. 2565
 

          มีหลายคนได้เปรียบเปรยว่า “บ้าน” คือวิมานของผู้อยู่อาศัย เป็นที่พักทั้งใจกายเมื่อยามอ่อนล้า หรือเป็นสถานที่เริ่มต้นของชีวิตสำหรับครอบครัวหลายครอบครัว และยังเป็นสถานที่รวบรวมเหล่าสมาชิกในครอบครัว “บ้าน” จึงกลายเป็นแหล่งรวบรวมความรักความอบอุ่นของทุกครอบครัวไปโดยปริยาย แล้วคุณต้องการให้ “บ้าน”ของคุณเป็นอย่างไร

          ณ บ้านหลังใหญ่ที่สวยงาม ด้วยสไตล์การออกแบบที่ลงตัว และบรรยากาศภายในตัวบ้านที่มีความโปร่ง โล่ง สบาย ดูสะอาดสะอ้านหลังนี้เป็นของ รศ.พจน์ชวิทย์ อภินิเวศ รองคณะบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนามหาวิทยาลัยขอนแก่น เต็มไปด้วยกลิ่นอายความอบอุ่น ด้วยพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านที่มีการตกแต่งไว้อย่างลงตัว ได้บ่งบอกถึงบุคลิกความเป็นเจ้าของบ้านได้อย่างดี ดังนั้น การจะสร้างบ้านให้ตรงตามองค์ประกอบที่กล่าวข้างต้น จึงเป็นเรื่องที่สำคัญไม่น้อย เพราะเราต้องใช้เวลาทั้งชีวิตในการอยู่อาศัยและประกอบกิจกรรมทุกอิริยาบทที่นี่ เช่นเดียวกับ รศ.พจน์ชวิทย์ อภินิเวศ ที่ให้ความไว้วางใจ พีดีเฮ้าส์ เป็นผู้เนรมิตบ้านในฝันให้กับครอบครัว “อภินิเวศ” ที่มีสมาชิกในบ้าน 5 คน อันประกอบด้วย ภรรยา รศ.ชลิดา อภินิเวศ ลูกชายคนโต ด.ช.อภิวิชญ์ (น้องกอล์ฟ) ลูกสาวคนที่สอง ด.ญ. อทิตยา (น้องปิ่น) และลูกชายคนสุดท้อง ด.ช.พีรวิชญ์ (น้องกานต์) 

           บ้านหลังงามนี้เป็นแบบ ME-122 ถูกสร้างขึ้นอยู่บนเนื้อที่ 220 ตร.ว. มีพื้นที่ใช้สอย 540 ตารางเมตร ภายในตัวบ้านเน้นการออกแบบให้มีความโปร่ง โล่ง สบาย ลดซอกมุมเล็กมุมน้อย ที่ทำให้เกิดความรู้สึกว่าคับแคบ และเพื่อช่วยให้อากาศบริสุทธิ์สามารถถ่ายเทเข้าออกได้ดี “รศ.พจน์ชวิทย์” เริ่มต้นพูดคุยเกี่ยวกับที่มาของบ้านหลังนี้ จากการตัดสินใจใช้บริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพอย่าง พีดีเฮ้าส์ โดยเริ่มสร้างเมื่อประมาณเดือนตุลาคม ปี 2552 และเพิ่งได้ฤกษ์ย้ายเข้ามาอยู่อาศัยในช่วงปีใหม่ของปี 2554

 

          รศ.พจน์ชวิทย์ เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้เขาได้ซื้อที่ดินเปล่าที่หมู่บ้านราชาซิตี้ หลังจากที่ได้ไปดูบ้านตามโครงการจัดสรรต่างๆ บริเวณถนนรอบนอกมาหลายโครงการ ซึ่งก็ไม่ค่อยถูกใจนัก สำหรับการตัดสินใจที่จะปลูกสร้างบ้านเอง เราใช้ระยะเวลาศึกษาข้อมูลประมาณ 2 เดือน ซึ่งตอนนั้นเราก็มีแบบบ้านในใจอยู่แล้ว เมื่อมาดูแบบบ้านของพีดีเฮ้าส์ ก็เริ่มต้นเลือกดูแบบบ้านที่ใกล้เคียงกับที่กำหนดไว้ก่อน และมีพื้นที่ใช้สอยตามที่ต้องการอย่างเพียงพอ  สิ่งสำคัญในการสร้างบ้านตามแบบฉบับของ รศ.พจน์ชวิทย์ นอกจากได้แบบบ้านตามที่ต้องการแล้ว บ้านก็ควรมีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 350-400 ตารางเมตรขึ้นไป เนื่องจากมีลูก  3 คน ฉะนั้นจึงต้องการห้องที่เพียงพอกับความต้องการ

          รศ.พจน์ชวิทย์ บอกว่ารู้จัก พีดีเฮ้าส์ ผ่านโฆษณาทางหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง จากนั้นก็หาข้อมูลของบริษัทเพื่อดูผลงานที่ผ่านมา จึงได้รู้ว่า พีดีเฮ้าส์ ทำงานอย่างมืออาชีพมีความน่าเชื่อถือ จึงตัดสินใจให้เป็นผู้สร้างบ้านของครอบครัวเรา เนื่องจากเห็นว่าเป็นบริษัทระดับประเทศที่มาเปิดสาขาที่ขอนแก่น โดยเซ็นสัญญาว่าจ้างก่อสร้างประมาณเดือนสิงหาคม ปี 2552

 

          “ตอนนั้นมีคนแนะนำให้ใช้ผู้รับเหมารายย่อยเหมือนกัน เพราะราคาน่าจะถูกกว่า แต่ผมมองว่าถ้าใช้ผู้รับเหมารายย่อยแล้วมานั่งทรมานใจ หรือต้องคอยมานั่งเฝ้าตลอดเวลาคงจะแย่ เลยตัดสินใจจ้างบริษัทรับสร้างบ้านที่น่าเชื่อถือดีกว่า” จากการที่มีแบบบ้านคร่าวๆ อยู่ในใจแล้ว เมื่อเริ่มพูดคุยกับพีดีเฮ้าส์ จึงได้เลือกแบบบ้านที่มีความใกล้เคียง ซึ่งแบบที่เลือกต้นแบบก็คือบ้านของคุณหมอสมศักดิ์ที่รู้จักกัน จากนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอีกเล็กน้อยให้เหมาะสมกับความต้องการของตัวเอง โดยลดซอกมุมห้องให้เป็นพื้นที่โล่งๆ โปร่งสบาย อีกทั้งยังสร้างบรรยากาศให้มีความอบอุ่น เนื่องจากทุกคนสามารถมองเห็นหน้ากันได้

          “รศ.พจน์ชวิทย์” กล่าวถึงความประทับใจที่ใช้บริการสร้างบ้านกับพีดีเฮ้าส์ ว่าดีใจที่ตัดสินใจถูกต้อง เพราะพีดีเฮ้าส์ มีระบบการทำงานเป็นมืออาชีพจริง มีตารางการทำงานหรือเวลาที่ค่อนข้างชัดเจน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องอยู่ที่ความไว้เนื้อเชื่อใจบริษัทด้วย ซึ่งพีดีเฮ้าส์ถือเป็นบริษัทรับสร้างบ้านที่มีมาตรฐานระดับหนึ่ง และยังมีวิศวกรอาชีพเข้ามาควบคุมระบบการทำงานได้เป็นอย่างดี เมื่อพบจุดบกพร่องก็ไม่รีรอที่จะหาหนทางแก้ไข ทำให้ผลงานออกมามีคุณภาพตรงตามความต้องการของเจ้าของบ้านเป็นอย่างดี ด้วยจำนวนพื้นที่ใช้สอยที่มากถึง 540 ตารางเมตร ทำให้สามารถแบ่งสัดส่วนใช้สอยภายในตัวบ้าน ได้อย่างชัดเจนและลงตัวกับจำนวนเหล่าสมาชิกในบ้าน คือ 4 ห้องนอน แบ่งเป็นห้องใหญ่ 1 ห้อง และห้องของลูกๆ อีก 3 ห้อง ด้านล่างอีก 2 ห้อง และห้องแม่บ้าน สำหรับมุมโปรดของครอบครัวก็คือห้องพักผ่อนนี้นั่นเอง “รศ.พจน์ชวิทย์” บอกว่าห้องนี้จะเป็นสถานที่รวบรวมจำนวนสมาชิกในครอบครัวให้มาทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน ซึ่งถือเป็นการเพิ่มสายใยความรักและความอบอุ่นในครอบครัวด้วย


          “จุดที่ผมคิดว่าตัดสินใจถูกต้อง คือ การจ้างบริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพ เพราะหลายๆ คนมองว่าเมื่อพูดถึงบริษัทแล้วจะคิดว่าแพง และกลัวว่าจะสิ้นเปลืองมากกว่ารับเหมา แต่ถ้าจะมานั่งคำนวนกันจริงๆ เราต้องคำนึงถึงด้วยว่า การใช้ผู้รับเหมาอาจจะดูราคาถูกในเบื้องต้น แต่ถ้าคิดถึงระยะเวลาที่เราต้องเสียไปกับการสร้างบ้านหนึ่งหลัง ซึ่งต้องใช้เวลาเป็นปีๆ ต้องคิดเรื่องค่าใช้จ่ายที่อาจบานปลายคือ ค่าแรง ซึ่งราคารวมแล้วอาจจะแพงกว่าจ้างบริษัทที่ตกลงตามสัญญา นอกจากนี้ต้องดูด้วยว่าบริษัทรับสร้างบ้านใช้เทคโนโลยีอะไร อย่างพีดีเฮ้าส์เราประทับใจตรงที่ว่าเป็นบริษัทที่สร้างบ้าน โดยใช้เทคโนโลยีกึ่งพรีคาสคือ โครงสร้างเสาและคานหล่อสำเร็จจากโรงงาน โดยนำมาประกอบติดตั้งได้อย่างมีมาตรฐานและรวดเร็วกว่าเทโครงสร้างในที่

 


          ในตอนท้าย รศ.พจน์ชวิทย์ ฝากข้อแนะนำไว้ว่า การทำงานของพีดีเฮ้าส์อาจจะแตกต่างจากผู้รับเหมาโดยทั่วไป  หากใช้ผู้รับเหมาทั่วไป เราจะสามารถเห็นความคืบหน้าของงานได้ทุกวัน แต่สำหรับพีดีเฮ้าส์อาจจะเห็นความคืบหน้าที่ชัดเจนในระยะเวลา 1 เดือนขึ้นไป เพราะงานระยะแรกๆ ผลิตอยู่ที่โรงงาน แต่ท้ายสุดแล้วก็สามารถส่งงานได้ตามกำหนดเวลา  “ถ้าเรามั่นใจในเรื่องคุณภาพของบริษัทแล้วก็อย่าไปกังวลอะไรมาก ดูตามสัญญาว่ากำหนดระยะเวลาเท่าไร และเรามาดูว่าเป็นไปตามระยะเวลานั้นหรือไม่ อีกอย่างหนึ่ง คือความชัดเจน เวลาที่เราทำสัญญากับบริษัท เราต้องเข้าใจก่อนว่าบริษัทเองก็ต้องมีการดำเนินการตามขั้นตอน เพราะฉะนั้นถ้าตัดสินใจอะไรแล้วเราต้องมั่นใจต่อการตัดสินใจของเรา”    

  • เรื่อง : กองบรรณาธิการ บ้านสุขใจ
  • ภาพ : บ้านสุขใจ
  • เจ้าของ : รศ.พจน์ชวิทย์ อภินิเวศ
  • แบบบ้าน : ME-122
  • รางวัลที่บ้านนี้เคยได้รับ : -
  • ออกแบบ : บริษัท พีดี เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
  • ก่อสร้าง : ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ นครราชสีมา