คุณสำราญ กุลกิจ
แบบบ้าน W-128

ช่วงแรกของบั้นปลาย ช่วงสายของการเริ่มต้น ต่างคนต่างวัย ภายใต้หลังคาเดียวกัน

Line
ภาพนี้ถูกบันทึกและเผยแพร่ ก่อนวันที่ 1 มิ.ย. 2565

 

         โดยทั่วไป บ้านสำหรับผู้ที่อยู่ในวัยกำลังเริ่มสร้างเนื้อสร้างตัว กับบ้านสำหรับผู้อยู่ในวัยมีความมั่นคงในชีวิตแล้ว อาจมีความแตกต่างกันอยู่บ้างไม่มากก็น้อย  แต่สำหรับบ้านหลังนี้ที่คุณพ่อในวัยเกษียณอายุ 71 ปี อาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกับคุณลูกสาวในวัยแรกรุ่นอายุเพียง 14 ปี ช่องว่างระหว่างวัยนี้ถูกเติมเต็มด้วย "บ้าน" ของพวกเขาได้อย่างไร คงเป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว 

          เช้าวันที่อากาศไม่ค่อยสดใส ฟ้าไม่ค่อยเป็นใจ แม้จะมีแสงแดดให้เห็นแต่ฝนก็กลับลงเม็ดอยู่ไม่ขาด ทีมงาน บ้านสุขใจ ได้มีโอกาสเดินทางมารบกวนบ้านของ คุณสำราญ กุลกิจ หรือ คุณต๋อย ติดต่อกันเป็นวันที่สอง หลังจากที่ก่อนหน้านี้หนึ่งวันเพิ่งจะได้มาขอรบกวนใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์โฆษณา "ตอบแทน" ของ บริษัท พีดีเฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ที่ได้นำออกสู่สายตาคนทั้งประเทศไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานี้  ซึ่งบ้านของ คุณต๋อย ก็ตั้งอยู่ที่คลองสอง อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานีนี้เอง ใกล้กับสำนักงานใหญ่ของบริษัทขนาดที่ใช้เวลาขับรถเพียงประมาณ 5-10 นาทีเท่านั้น 

          เป็นเรื่องปกติที่หากจะถ่ายภาพบ้านสวยๆ เพื่อนำไปลงในนิตยสาร ทีมงานมักจะต้องเลือกบ้านที่เพิ่งสร้างและตกแต่งเสร็จใหม่ๆ เพื่อให้บ้านอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด ยังไม่เกิดการชำรุดทรุดโทรม  แต่บ้านของ คุณต๋อย นั้นมีอายุถึง 4 ปีกว่าแล้ว หากเราไม่บอกแล้วให้ท่านผู้อ่านเดาเอาเองจากภาพที่เห็นเชื่อว่าส่วนใหญ่ก็คงจะคาดไม่ถึง ซึ่งเราเองเมื่อแรกที่ได้รู้ก็แปลกใจเช่นกัน  ครั้นเมื่อให้ คุณต๋อย บอกเคล็ดลับว่าทำอย่างไรบ้านถึงได้ยังดูสวยงามและใหม่ ใครได้มาเห็นเป็นต้องชื่นชมเช่นนี้ เธอจึงได้ทีอวดกับเราว่า "พี่จะดูและเอง เพราะว่าพื้นค่อนข้างจะดูและรักษายาก แม่บ้านพี่ให้ดูรอบนอก  บางทีเราจ้างแม่บ้านมาซื้อความสบาย แต่บางเรื่องอย่างการใช้ม็อบเนี่ยมันก็ต้องมีเทคนิคนิดนึงนะคะ ถ้าม็อบบิดไม่หมาดเนี่ยถูไปแล้วจะเป็นคลื่น เป็นฝ้า ไม่สะอาด แล้วน้ำก็จะเข้าไปตรงรอยต่อทำให้บวมเป็นสัน”  คุณต๋อย ซึ่งรับหน้าที่เป็นแม่บ้านตัวจริง ได้บอกกับเราเช่นนั้น

         โดยปกติบ้านหลังนี้จะมีสมาชิกอยู่ 3 คนได้แก่ ตัวคุณต๋อยเอง อายุ 49 ปี คุณแกรี่ ดูทัวร์ ผู้เป็นสามี อายุ 71 ปี และน้องเจียน่า เกรซ ดูทัวร์ หรือ น้องจีจี้ ลูกสาว อายุ 14 ปี  ส่วนคุณลูกชายคนโตทำงานแล้ว จะมาพัก
บ้างก็เพียงนานๆ ครั้ง ไม่นับแม่บ้านทำความสะอาดกับคนขับรถซึ่งรับหน้าที่ช่วยดูและสวนด้วย  ทว่าครอบครัวนี้ไม่ได้ก่อร่างสร้างขึ้นที่นี่แต่อย่างใด แต่ย้ายถิ่นฐานมาไกลจากทาวน์เฮาส์ในย่านผู้มีฐานะของนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ซึ่งนับถึงเวลานี้ก็ได้ผ่านมา 7 ปีกว่าแล้ว  เนื่องจาก คุณแกรี่ มีความตั้งใจที่จะมาใช้ชีวิตวัยหลังเกษียณที่ประเทศไทย ในขณะที่ตอนย้ายมาลูกสาวคือ น้องจีจี้ นั้นยังเล็กมาก จึงได้มาอาศัยเติบโตบนผืนแผ่นดินไทย ด้วยการเลี้ยงดูอย่างใกล้ชิดจากคุณพ่อที่ใช้ชีวิตในวัยหลังเกษียณ เป็นที่ปรึกษาให้บริษัท GIA กับคุณแม่ที่อยู่เป็นแม่บ้าน ทำให้ทั้งสองมีเวลาให้กับน้องจีจี้อย่างเต็มที่ จะว่าไปก็คงจะมากกว่าพ่อแม่ส่วนใหญ่  คงไม่เป็นการกล่าวเกินไปหากจะบอกว่ายากที่จะหาบ้านไหนที่ “สุขใจ” ไปมากกว่าบ้านนี้



         บ้านของ คุณต๋อย "W-991" ที่ออกแบบและก่อสร้างโดย พีดีเฮ้าส์ นี้เคยได้รับรางวัลจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน ให้เป็น บ้านอนุรักษ์พลังงาน ฉลากรางวัลประเภท ดี มาแล้วเมื่อปี 2554  เป็นแบบ้านที่เดิมมี 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 1 คัน พื้นที่ใช้สอย 203 ตารางเมตร เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาด 72 ตารางวา แต่คุณต๋อยได้ขอปรับแก้แบบบ้านเพื่อให้ตรงกับใจของเธอมากขึ้น โดยชั้นบนลดห้องน้ำลงหนึ่งห้อง เพื่อให้ห้องนอนใหญ่และห้องน้ำอีกห้องใหญ่ขึ้น “จริงๆ มันมี 4 ห้องเล็กๆ นะ แล้วพี่ก็ไปตีให้ห้องนอนใหญ่ขึ้น ห้องน้ำใหญ่ขึ้น มันก็เลยเหลือแค่ 3” เธออธิบาย  ส่วนชั้นล่างที่เคยมีผนังกั้นระหว่างส่วนที่เป็นห้องครัวกับห้องรับแขกเธอก็ขอให้เอาออกเพื่อให้บ้านดูกว้างและโล่งขึ้น แต่ใช้เฟอร์นิเจอร์บิวท์อินในการช่วยแยกสัดส่วนแทน  และด้วยพื้นที่ที่เธอมีซึ่งมีขนาดถึง 200 ตารางวา เธอจึงสามารถขอเพิ่มส่วนขยายด้านข้างของบ้านด้วยการทำให้เป็นห้องรับประทานอาหารสุดหรู พร้อมระเบียงกว้างขวางสำหรับใช้ทำกิจกรรมสังสรรค์ เช่น ปาร์ตี้บาร์บีคิว ซึ่งก็มีเตาบาร์บีคิวขนาดใหญ่แบบที่ชาวอเมริกันมักจะชอบใช้ตั้งอยู่ตรงนั้นด้วยจริงๆ

          โดยก่อนจะมาเป็นเช่นที่เห็นอยู่นี้มันก็มีที่มาที่ไป ซึ่งเธอได้เล่าให้เราฟังว่า “แรกๆ เลยแบบบ้านของพีดีที่ชอบพี่ชอบไทยประยุกต์ สามีพี่ชอบ แต่พอผ่านไปได้กลับมาไทยแล้วเห็นแบบบ้านหลังนี้ใจมันก็เปลี่ยน ก็คิดว่าอยากอยู่บ้านหลังนี้  นอกจากความสวยงามแล้วคุณสามีเค้าต้องการจะมารีไทร์ที่เมืองไทย อยากได้บ้านที่มีบริเวณ จริงๆ พี่อยากได้พื้นที่ 1 ไร่แต่เจ้าของที่เขายอมขายให้แค่นี้  อยากให้เป็นสถานที่ที่ผ่อนคลายในวัยหลังเกษียณ”
 

          ที่พิเศษไม่แพ้ใครคือการตกแต่งภายในบ้าน  เน้นเฟอร์นิเจอร์และบิลท์อินที่ทำจากไม้ และของตกแต่งที่มีความเก่าแก่สืบทอดจากบรรพบุรุษของคุณแกรี่ที่ขนมาจากอเมริกา อายุตั้งแต่หลายสิบปีไปจนถึงกว่า 300 ปี ให้อารมณ์บ้านในสไตล์คลาสสิค  โดยคุณต๋อยเล่าว่า "คุณสามีเขาเป็นคนชอบไม้ ไม้ส่วนใหญ่ที่เห็นก็เป็นไม้โอ๊คที่นำเข้าจากอเมริกา และก็ชอบของตกแต่งแบบโบราณ  เมื่อก่อนพี่อยู่อเมริกา พอย้ายกลับมาก็เอากลับมาด้วย  อย่างของดั้งเดิมของคุณย่า คุณปู่" และยังได้อธิบายเพิ่มเติมอีกว่า “พวกบิวท์-อินบางอย่างไม่ใช่ไม้โอ๊คค่ะ แต่ห้องนั้น ห้องที่ใช้ถ่ายทำเมื่อวานนี้ (ห้องทำงานคุณสามี) เป็นโอ๊คทั้งหมดเลย  ส่วนที่ไม่ใช่ไม้โอ๊คก็จะเป็นไม้สักค่ะ”

   

          เรื่องราวอันเป็นจุดเริ่มต้นของคุณต๋อยกับพีดีเฮ้าส์นั้นค่อนข้างแปลกและน่าสนใจ ทีมงานอยากให้ลองไปฟังเธอเล่าดูครับ "พีดีเฮ้าส์เนี่ยนะ พี่เห็นตั้งแต่อยู่เมกา มีแผนที่จะซื้อ จะสร้างกับเขาอยู่แล้ว  ตอนพี่อยู่ต่างประเทศพี่โทร.เข้ามาเลยว่าบริษัทเนี้ย พีดีเฮ้าส์เนี่ยสร้างบ้านขายอยู่ที่ไหน ตอนแรกพี่ไม่รู้จัก (หัวเราะ)  น้องเขาก็บอกว่าไม่ได้สร้างขายค่ะ แต่เป็นลักษณะสร้างบ้านบนที่ดินของลูกค้า พี่ก็เลยต้องมาซื้อที่ตรงเนี้ย เพื่อจะให้พีดีเฮ้าส์สร้าง"  และเมื่อเราถามว่าหลังจากที่ย้ายกลับมาจากอเมริกาเพื่อจะสร้างบ้าน ระหว่างนั้นอยู่กันอย่างไร เธอจึงได้ตอบว่า "พี่อยู่คอนโดเพื่อจะรอให้บ้านเสร็จ ของพี่ที่ขนมาขึ้นจากท่าเรือคลองเตยแล้วต้องเช่าห้องให้มันอยู่ 2 ปีน่ะ (หัวเราะ) หนึ่งปีซื้อที่ดิน สองสร้างบ้านอีก 1 ปี สองปีกว่าพี่ต้องเช่าห้องที่ท่าเรือคลองเตยนะ  2 ปีกว่าใกล้ๆ 3 ปี  เดือนนึงร่วม 2 หมื่นบาทนะเช่าห้องให้ของอยู่เนี่ย (หัวเราะ) เจ้าของก็ไปอยู่คอนโด เพื่อจะรอให้บ้านเสร็จ"

          เมื่อเห็นว่าเธอและครอบครัวต้องใช้ความพยายามไม่น้อยไปกับการที่จะมีบ้านอยู่บนแผ่นดินไทยสักหลังหนึ่งเช่นนี้ เราจึงอยากรู้ว่าความพยายามเหล่านั้นให้ผลตอบแทนอย่างไร เธอจึงตอบเราในทันใดว่า "รู้สึกว่าพี่ภูมิใจมากที่ตัดสินใจให้พีดีเฮ้าส์สร้างบ้านนะ  พูดได้ว่าทุกคนที่มาบ้านพี่แล้วถามว่า บริษัทไหนสร้างบ้านให้ พี่ก็จะบอกเลยว่า พีดีเฮ้าส์ ให้บริษัทนี้สร้างบ้านให้ไม่ผิดหวังหรอก  เพราะว่ามีทีมงาน มีอะไรทุกอย่าง เพอร์เฟคต์หมด  คือพี่พูดตลอดเลยนะ คือไม่ผิดหวังที่ให้บริษัทนี้สร้างบ้าน  ชอบมาก น้องๆ ทุกคนก็น่ารัก เอาใจใส่ดี ดูแลดีทุกคนเลย บริการหลังการสร้างเสร็จก็ดีมาก เขาดูแล เซอร์วิสดีมาก มีปัญหาอะไรสามารถโทร.ได้เลย"
 

          สุดท้าย คำว่า "บ้าน" นั้นแท้จริงแล้วมีความหมายอย่างไร  คงจะหาใช่สิ่งก่อสร้างที่ประกอบไปด้วยห้องนอน ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น เพราะหากเว้นซึ่งผู้อยู่อาศัยก็ไม่อาจเรียกได้ว่ามันคือ "บ้าน"  แต่ครั้นเมื่อมีผู้มาอยู่อาศัยแล้ว ไม่ว่าจะมีห้องหับมากน้อยเพียงใด สวยหรือไม่ อย่างไร ก็คงไม่สำคัญตราบเท่าที่พวกเขาเหล่านั้นยังเรียกว่ามันเป็น "บ้าน"เพราะเมื่อนั้นเองที่มันหมายความว่าสิ่งก่อสร้างนั้นมี ความหมาย กับพวกเขา  ไม่ว่าความหมายนั้นจะเป็น การเติมเต็มช่องว่างระหว่างวัย การยึดเหนี่ยวจิตใจของผู้อยู่ร่วมชายคา หรือจะเป็นการเป็นที่พักพิงพึ่งพายามเหนื่อยล้ากายใจ ก็ตาม

  • เรื่อง : ทศพล สุวรรณสุต, บุษราภรณ์ หวานชอบ
  • ภาพ : ยุทธนา สิงห์สาย
  • เจ้าของ : คุณสำราญ กุลกิจ
  • แบบบ้าน : W-128
  • รางวัลที่บ้านนี้เคยได้รับ : บ้านอนุรักษ์พลังงาน ประจำปี 2554 ฉลากรางวัลประเภท ดี มอบโดย กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน
  • ออกแบบ : บริษัท พีดี เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
  • ก่อสร้าง : ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ ปทุมธานี (รังสิต)