05 พ.ย.2564
รับสร้างบ้านแบกต้นทุนอ่วม เล็งขยับราคาบ้านหลังต้นทุนวัสดุพุ่ง
รับสร้างบ้านแบกต้นทุนไม่ไหว เล็งปรับขึ้นราคาบ้าน 5% หลังราคาวัสดุพุ่งไม่หยุด ชี้โอกาสทองรีบตัดสินใจสร้างบ้านราคาต้นทุนเดิม แจงผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างร่อนหนังสือขอปรับราคาวัสดุก่อสร้างทุกชนิดเฉลี่ย 3-8% ผลกระทบจากราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์จากความต้องการใช้ตู้เพื่อนำเข้าสินค้ากระทบระยะเวลาในการขนส่ง ชี้เป็นโอกาสทองที่ผู้บริโภคต้องรีบตัดสินใจสร้างบ้านในราคาต้นทุนเดิมก่อนราคาบ้านขยับ
น.ส.ถิรพร สุวรรณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท พีดี เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในฐานะผู้บริหารสิทธิและมาตรฐานธุรกิจรับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เปิดเผยว่า ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการปรับขึ้นราคาของวัสดุก่อสร้างหลายประเภท โดยเฉพาะวัสดุกลุ่มเหล็กที่มีความผันผวนของราคาสูงมาก ยอมรับว่าบริษัทฯ พยายามแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นมาตลอด แต่จากสถานการณ์ล่าสุดผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างหลายค่ายได้แจ้งปรับราคาวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 3-8% โดยอ้างเหตุต้นทุนการผลิตและค่าขนส่งที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันดีเซลล์ในตลาดที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะโครงหลังคาเหล็กกันสนิมกึ่งสำเร็จรูป ที่ผู้จำหน่ายมีการแจ้งปรับราคาจากเดิม 25-30% ซึ่งถือเป็นการปปรับขึ้นราคาที่สูงมาก นอกจากนี้กลุ่มผู้จำหน่ายวัสดุนำเข้าจากต่างประเทศ ต่างก็ประสบปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน ทำให้ค่าเช่าตู้คอนเทนเนอร์ปรับตัวสูงขึ้นมาก รวมถึงต้องใช้ระยะเวลาในการขนส่งนานกว่าปกติ ทั้งหมดกระทบต่อต้นทุนและต่อเนื่องถึงบริษัทฯ อย่างเลี่ยงไม่ได้
การปรับราคาบ้านในครั้งนี้ถือเป็นการปรับราคาครั้งแรกในรอบ 2 ปีเศษ เพราะจากสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน ราคาวัสดุที่ทยอยปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง กระทั่งบริษัทฯ ไม่อาจแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นต่อไปได้อีก จึงจำเป็นต้องปรับราคาบ้านเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2-5%จากราคาเดิม อย่างไรก็ตามบริษัทฯ จะยังไม่ปรับราคาในทันทีในช่วงนี้ิหรือจะเริ่มใช้ราคาใหม่ 1 มค. 2565 เป็นต้นไป ทั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคที่กำลังจะตัดสินใจสร้างบ้านได้มีเวลาไตร่ตรองก่อนในช่วงนี้ (พ.ย. - ธ.ค.) และหากตัดสินใจสร้างบ้านได้ทันก็จะสร้างบ้านได้ในราคาเดิม ถือได้ว่าเป็นช่วงโอกาสทองของผู้บริโภคส่งท้ายปีเก่า น.ส.ถิรพร กล่าวทิ้งท้าย