ตุลาคม 2549 ครั้งที่ 2
เดือนตุลาคม 2549(ครั้งที่ 2)
สัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสพบกับเจ้าของบ้านท่านหนึ่ง ซึ่งได้รับความเดือดร้อนและมาขอคำปรึกษา โดยเล่าให้กระผมฟังว่าได้เซ็นสัญญาว่าจ้างผู้ประกอบการรายหนึ่งที่อ้างตัวว่าเป็นบริษัทรับสร้างบ้านให้เป็นผู้ก่อสร้างบ้านของตัวเอง ปัจจุบันงานก่อสร้างดำเนินการถึงขั้นตอนเตรียมเทคานชั้นล่าง
เมื่อได้รับฟังปัญหาและความขัดแย้งจากเจ้าของบ้านที่รวมตัวกันฟ้องร้องผู้ประกอบการรายนี้แล้ว จึงได้กลับมาเปิดสัญญาว่าจ้างอ่านโดยละเอียดอีกครั้ง และเริ่มเห็นแววว่าตัวเองก็จะโดนเหมือนกับเจ้าของบ้านรายที่กำลังฟ้องกับผู้ประกอบการอยู่เหมือนกัน ดังนั้นจึงพยายามจะแก้ไขสัญญาและหาทางต่อรองเงื่อนไขให้รัดกุมยิ่งขึ้น |
แต่...เหตุไฉนจึงมีผู้ว่าจ้างยอมเซ็นสัญญา และตกเป็นเหยื่อผู้ประกอบการรายนี้มีจำนวนนับร้อยราย(เจ้าของบ้านรายนี้รวบรวมหลักฐานมาให้ครับ) ทำให้กระผมต้องทบทวนอ่านสัญญาอยู่ 2 – 3 รอบ กระทั่งมาถึงบางอ้อ..ก็ตรงราคาค่าก่อสร้างบ้านที่ตกลงว่าจ้างกันและระบุไว้ในสัญญาเป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่ง พื้นที่ใช้สอยประมาณ 132 ตารางเมตร ราคา 6 แสนบาทเศษ ซึ่งเมื่อพิจารณาดูจากแบบบ้าน ขนาดและพื้นที่ใช้สอยของบ้านแล้ว ฟันธงได้เลยว่า...ราคาค่าก่อสร้างที่ตกลงกันมันเป็นกลลวง จากเรื่องที่รับฟังมาจากเจ้าของบ้านและวิธีการของผู้รับจ้างรายนี้ สามารถเปรียบเทียบได้กับวิธีการเดียวกับ “แก๊งค์ตกทอง” จะต่างกันก็ตรงที่มีกระบวนการทำงานที่ดูน่าเชื่อถือในขั้นต้น และการใช้กฎหมายมาเป็นเครื่องมือป้องกันตัวและเอารัดเอาเปรียบ ซึ่งหากผู้ใดเกิดความโลภอยากได้ในสิ่งที่ไม่ใช่ของตัวเอง หรือหวังจะได้ในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ หรือหวังจะเอาเปรียบอีกฝ่ายหนึ่งโดยคิดว่าตัวเองฉลาดกว่า(แต่ไม่เฉลียว) หรือจะด้วยไมรู้เท่าทันก็ตามที สุดท้ายก็จะตกเป็นเหยื่อให้กลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้ โดยเฉพาะกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้แฝงตัวเข้ามาอยู่ในธุรกิจรับสร้างบ้าน ซึ่งสร้างความเสียหายต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องและสังคม โดยที่ผู้รักษากฎหมายและกระบวนการทางกฎหมาย ยังไม่สามารถเอาผิดและเอาตัวมาลงโทษตามกฎหมายได้ และเรื่องนี้คงต้องใช้เวลาและกระบวนการที่จะจัดการอีกสักระยะหนึ่ง |
นายสิทธิพร สุวรรณสุต
ประธานกรรมการ