ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
  • ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
ข่าวประชาสัมพันธ์
Line
23 ก.พ.2553

ท่องเที่ยวประจำปี 2552 (ปาย-แม่ฮ่องสอน)

Line

ขนาดว่ายอดขายปีนี้พลาดเป้า 10% แต่ มาลี สุวรรณสุต บิ๊กบอสตัวจริง ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป หรือ ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ บอกว่าเป็นเพราะการเมืองและเศรษฐกิจไม่เอื้อ หาใช่ความผิดพลาดของทีมงานแต่อย่างใด แถมเมื่อเร็วๆนี้ยังใจปล้ำควักกระเป๋าซื้อตั๋วพาพนักงานกว่า 50 ชีวิตเหิรฟ้าไปสัมผัสลมหนาว จ.เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน และที่ทุกคนอยากไปกันมากที่สุดคือที่ ปาย นั่นเองรวม 3 วัน 3 คืน เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับพนักงานของพีดีเฮ้าส์ที่ร่วมแรง ร่วมใจกันทำงานอย่างทุ่มเทมาตลอดทั้งปี โดยเพื่อให้ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์เป็นที่ยอมรับรับรู้และก็เราก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีที่สามารถสร้างการจดจำได้อย่างรวดเร็วรวมทั้งธุรกิจใหม่ของเรา "แฟรนไชส์ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์" เปิดใบรับจองสิทธิ์กันแทบไม่ทันเลยจริง ๆ ค่ะ

วันที่ 28 พฤศจิกายน 2552
เวลา 7.10 น. ถึงท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ เดินทางต่อโดยรถตู้พร้อมมัคคุเทศน์ของ สแตนดาร์ดทัวร์ เดินทางออกสู่อำเภอปาย ระหว่างทางชมแหล่งท่องเที่ยว น้ำพุร้อนธรรมชาติโป่งเดือด ซึ่งเป็นน้ำพุร้อน ประเภทกีเซอร์ซึ่งใหญ่ที่สุดของเมืองไทย ต่อด้วยพักรับประทานอาหารกลางวันที่ร้าน “ครัวภูสวยน้ำใส”


ช่วงบ่ายไปกันต่อที่ อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ชมธรรมชาติและจุดชมวิว ที่สวยงาม เดินทางไปกันต่อที่สะพานประวัติศาสต์ท่าปาย ซึ่งเป็นเส้นทางลำเลียงกำลังพลและอาวุธสู่พม่าเช่นเดียวกันกับสะพานข้ามแม่น้ำแคว.......และยังเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์เรื่อง “ปาย อิน เลิฟ” จากนั้นเดินทางต่อและต้องมาแวะพักผ่อนดื่มกาแฟอร่อยๆ ที่ขาดไม่ได้ คือที่ “คอฟฟี่ อิน เลิฟ” เป็นสถานที่ถ่ายทำมิวสิค วีดีโอ และละครหลายเรื่อง พวกเราก็พากันถ่ายรูปกันจนเพลินเลยทีเดียว...ก่อนถึงที่พักแวะนมัสการ พระอุ่นเมือง ที่วัดน้ำฮู ซึ่งมีลักษณะพิเศษคือพระเศียรกลวง พระโมฬีปิดเปิดได้และมีน้ำซึมออกมาโดยไม่รู้ที่มา และกลายเป็นน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวปายต่างให้ความนับถือ....สาธุ......
ตกเย็นก็เข้าพักกัน ที่ “บ้านกระทิงปายรีสอร์ท” ซึ่งเป็นรีสอร์ทที่มีบรรยากาศเงียบสงบเหมาะกับผู้ที่ชอบความเรียบง่ายและรักธรรมชาติ ซึ่งตั้งอยู่ตามทางของแม่น้ำปาย ล้อมรอบไปด้วยเนินเขาเล็กๆ และ ความเป็นธรรมชาติของป่าไม้สักอีกด้วย. 
ช่วงค่ำ...รับประทานอาหารกันที่ร้าน “อาหารบ้านปาย” อย่างอิ่มหน่ำ .....รอบๆ ด้าน มีสินค้ามากมายมาวางขาย ที่ต้องแวะหาซื้อของขวัญ ของฝากกันซะหน่อย เค้าเรียก“ถนนคนเดิน” ซึ่ง มีของวางขายหลายประเภท เช่น งานฝีมือ ของที่ระลึก ของแต่งบ้าน สินค้าทำมือ เครื่องประดับรวมทั้ง การแสดงฝีมือของศิลปินอิสระ ได้เจอน้องๆ มานั่งตีขิม ม่วนใจขนาดเจ้า........

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2552
บรรยากาศยามเช้าค่อนข้างหนาว ขนาดเวลาพูดยังมีควันออกจากปากเลย.. หลังจากรับประทานอาหารเช้าแล้ว พวกเราก็ออกเดินทางไปหมู่บ้านรักไทย ระหว่างทางพวกเราแวะถ่ายรูปที่กิ่วลม พร้อมชมวิวทะเลหมอกที่สวยงาม มีเด็กดอย (ชาวเขาเผ่าลีซู) ที่คอยให้บริการถ่ายรูปพร้อมของสนับสนุนทุนการศึกษา
เมื่อมาถึงที่หมู่บ้านรักไทยเราได้เห็นวิถีชีวิตของคนจีนยูนาน บ้านที่นี่สร้างจากดินผสมฟางทั้งหมด พวกเราได้ชิมชาเลิศรส และลิ้มลองอาหารของคนจีนยูนาน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อ ไม่ค่อยมีผัก เพราะความเชื่อที่ว่าคนรวยเท่านั้นที่จะได้กินเนื้อ คนจนจะกินผัก แต่พอได้รับประทานแล้วทำให้คิดถึงข้าวเหนียว ส้มตำขึ้นมาทันที. อาหารที่อร่อยที่สุดในความรู้สึกน่าจะเป็นหมั่นโถว ..
ปัจจุบันชาวยูนานยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมดั้งเดิมไว้ ทั้งเรื่องการสร้างบ้าน, ยาสมุนไพรจีน, เครื่องแต่งกาย, เครื่องดนตรี

 

   

 

   

 

   

 

หลังจากที่พวกเราได้เดินช๊อปปิ้งชิมชากันพอสมควรแล้ว เดินทางกันต่อไปปางอุ๋งซึ่งเป็นโครงการในพระราชดำริ เราต้องต่อรถสองแถวขึ้นไปเพราะรถตู้ไม่สามารถขึ้นได้ พอไปถึงจุดหมายก็พากันถ่ายรูป เราเห็นเวิ้งน้ำ มีห่านอยู่หนึ่งตัวเป็นนางแบบคอยให้เราถ่ายรูปด้วย แต่ก่อนกลับพวกเราก็ได้ทำบุญที่วัด แล้วก็ขึ้นรถตู้ต่อไปยังภูโคลน แหล่งโคลนที่มีคุณภาพที่ดีที่สุดในภาคเหนือ บางคนก็พักผ่อนด้วยการพอกโคลน บ้างก็แช่เท้าในน้ำร้อนเพื่อจะให้รู้สึกผ่อนคลาย ต่อจากนั้นก็เดินทางต่อไปยังหมู่บ้านกระเหรี่ยงคอยาว ที่บ้านห้วยเสือเฒ่า พอมาถึงก็เริ่มค่ำแล้ว ต่างพากันถ่ายรูปคู่กับสาวชาวกระเหรี่ยงที่ทอผ้า,เล่นดนตรี กันอย่างสนุกสนาน

พอตอนเย็นเราก็ไปรับประทานอาหารที่ “ ร้านไข่มุก ” แล้วก็แยกย้ายกันไปเดินช๊อปปิ้งที่ “ถนนคนเดิน เมืองแม่ฮ่องสอน” มีทั้งของกินของใช้ มีการเล่นดนตรีพื้นบ้านและร้านที่จำหน่ายโปสการ์ด เดินไปจนสุดทางถนนคนเดิน พวกเราก็ได้ทำบุญที่วัดจองกลาง เป็นวัดที่กลางคืนสวยงามมาก บางคนก็ลอยโคม บ้างก็ไปเวียนเทียนประจำวันเกิด คืนนี้เราได้พักที่ “โรงแรมอิมพีเรียล ธารา แม่ฮ่องสอน” ซึ่งเป็นโรงแรมเก่า พื้นไม้ แต่ก็มีเสน่ห์อยู่ในตัว ค่ำคืนนี้ก็เป็นอีกหนึ่งคืนพิเศษ เพราะว่าเป็นวันคล้ายวันเกิดของทีมงานเราท่านหนึ่ง  ต่างก็พากันไปร้องเพลงที่ห้องคาราโอเกะของโรงแรม บรรยากาศเป็นไปอย่างสนุกสนาน แต่ก็มีการแย่งซีนกันเห็น ๆ โดยเพื่อนบางคนแอบทำเซอร์ไพรส์กันนิดหน่อย.

วันที่ 30 พฤศจิกายน 2552
หลังจากที่รับประทานอาหารเช้า ก็ขึ้นรถมุ่งหน้าขึ้นดอยไปไหว้พระประจำวันเกิดที่วัดพระธาตุดอยกองมู    เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอน  ตั้งอยู่บนดอยกองมูทางทิศตะวันตกของตัวเมือง เดิมมีชื่อเรียกว่า “วัดปลายดอยพระธาตุเจดีย์ที่สวยงาม 2 องค์ พระเจดีย์องค์ใหญ่ เป็นที่บรรจุพระธาตุของพระโมคคัลลานะเถระ ซึ่งนำมาจากประเทศพม่า ส่วนพระธาตุเจดีย์องค์เล็ก วิหารวัดธาตุดอยกองมู ก็คือ จุดชมวิว ที่สวยงามมาก” 

           จุดหมายต่อไปคือ....” ทุ่งดอกบัวตอง “ ซึ่งมีดอกบัวตองที่บานสะพรั่งพร้อมๆ กัน เหลืองอร่ามปกคลุมทั่วทั้งภูเขา มีความสวยงามดูเป็นธรรมชาติมาก

         เราไปรับประทานอาหารกลางวัน ที่ “ร้านอาหารอินทิรา”     อ.แม่สะเรียง เป็นร้านอาหารเก่าแก่และใหญ่ที่สุดในเมือง  อาหารก็อร่อยมากและมีหลายหลายเมนูให้เลือก   หลังจากที่รับประทานอาหารกลางวันอิ่มหนำสำราญแล้วก็เริมออกเดินทางจากแม่ฮ่องสอนสู่เชียงใหม่ ชมอุทยานแห่งชาติ “ออบหลวง” หรือ แกรนด์แคนย่อนเมืองไทย มีลักษณะเป็นช่องแคบเขาขาด ที่มีหน้าผาหินขนาบสองข้างของลำน้ำ ที่มีความสวยงาม และเป็นพื้นที่อีกแห่งหนึ่งของเมืองไทยที่มีหลักฐานของการอาศัยอยู่ของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์       นอกจากพบกระดูกมนุษย์โบราณแล้วยังมีภาพเขียนโบราณที่บริเวณผาหินด้วย
          หลังจากเที่ยวชมธรรมชาติและถ่ายรูปภาพบรรยากาศอันสวยงามแล้ว พอมีเวลาเหลืออยู่บ้าง จึงได้แวะซื้อของฝากติดไม้ติดมือมาฝากคนที่บ้านและที่ทำงาน   ที่ “ร้านวนัสนันท์” ของฝากเยอะแยะไปหมดเลย พอซื้อของเสร็จแล้วก็รีบขึ้นรถและได้ออกเดินทางกันต่อ ซึ่งสถานที่ที่เราจะไปต่อนี้เป็นสถานที่สุดท้ายแล้วที่จะต้องไป นั่นก็คือ “ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ “ พวกเราชาวพีดี เฮ้าส์
            วันสุดท้ายนี่ เราต้องนั่งรถผ่าน 1,864 โค้งเลยทีเดียว และยังได้รับใบประกาศนียบัตร “ผู้พิชิต 1,864 โค้ง” กันมาถ้วนหน้า
           เวลา 21.25 น. ก็เดินได้เดินทางกลับสู่ท่าอากาศยานดอนเมืองอย่างสวัสดิภาพ...บ๊าย.บ๊าย.ปาย..