หนึ่งในตัวช่วยตกแต่งบ้านที่นอกเหนือจากมัณฑนากรแล้ว ก็คงจะหนีไม่พ้นหลักฮวงจุ้ย ที่จะช่วยเปิดทางให้พลังงานหมุนเวียนภายในบ้านอย่างสมดุล เช่นเดียวกับวันนี้ที่กระปุกดอทคอมจะมานำเสนอแนวทางการเลือกสีทาบ้านตามฮวงจุ้ยให้เหมาะกับการใช้งานในแต่ละห้อง เพราะถ้าหากเลือกสีทาภายในได้ถูกโฉลกแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็จะช่วยส่งเสริมให้ชีวิตความเป็นอยู่ของเราดีขึ้น ไปดูกันค่ะว่า ฮวงจุ้ยสีทาบ้าน ที่เราควรรู้มีอะไรบ้าง
1. ต้องรู้หน้าที่หลักของสีตามศาสตร์ฮวงจุ้ยก่อนอื่นใด
อยากจะเลือกเฉดสีทาห้องให้ถูกต้องตรงตามหลักฮวงจุ้ย เราก็ต้องรู้ซะก่อนว่าสีในทางศาสตร์ฮวงจุ้ยนั้นมีความสำคัญอย่างไร เพราะสีส่งผลกระทบกับหลาย ๆ สิ่งรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศ สิ่งแวดล้อมรอบข้าง รวมไปถึงอารมณ์และจิตใจของเรา โดยแต่ละโทนสีต่างก็มีพลัง ชี่ (Chi) หมุนเวียนแตกต่างกันออกไป ฉะนั้นแต่ละพื้นที่ในบ้านก็จะใช้สีไม่เหมือนกันหรือปรับสมดุลได้ด้วยเฉดสีที่แตกต่าง ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของผู้อาศัยนั่นเอง
2. สำรวจก่อนเลยว่าใครใช้ห้องนั้นบ่อยมากที่สุด
หลังจากที่เรารู้แล้วว่าเฉดสีมีอิทธิพลต่อสิ่งรอบข้างอย่างไร เราก็ต้องไปสำรวจกันต่อว่า ในแต่ละห้องหรือแต่ละพื้นที่ภายในบ้าน ใครเป็นผู้ที่ใช้งานพื้นที่เหล่านั้นบ่อยที่สุด ตัวอย่างเช่น ห้องนอนของลูกน้อยก็ต้องเป็นเด็ก ๆ ที่ใช้งานบ่อยสุด ดังนั้นควรจะใช้สีแดงในการตกแต่งผนังเป็นหลัก หากต้องการกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก ๆ ส่วนสีเหลือง สีส้ม และสีเขียวน้ำทะเล เป็นสีที่ส่งพลังให้เด็กกระตือรือร้นในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ อย่างมีความสุข
ห้องหรือพื้นที่ในบ้านที่เหมาะกับสีจัด ๆ ได้แก่ ห้องกินข้าว ห้องทำงาน และโถงทางเดิน เพราะความสว่างไสวและความสดใสของสีสันเหล่านี้มีพลังงานหมุนเวียนอยู่มาก เช่น แดง ชมพูสว่าง ม่วง เหลืองสดใส หรือส้มสด ซึ่งจะช่วยกระตุ้นพลังงานในตัวไปพร้อมกับการสร้างแรงบันดาลใจ ที่สำคัญยังช่วยปรับระบบการทำงานของเลือดในร่างกายที่ส่งผลต่อหัวใจอีกด้วย เรียกว่าได้เสริมทั้งโชคทั้งสุขภาพร่างกายกันเลยทีเดียว
4. อย่าคำนึงถึงแต่ความโชคดีเพียงอย่างเดียว
จากคำบอกเล่าที่เคยได้ยินกันมาทำให้เรายึดถือเองเอาว่า สีแดง เป็นสีแห่งความโชคดีมีชัย เลยเลือกที่จะใช้สีแดงทาทั้งห้องซึ่งรวมไปถึงของตกแต่งที่เป็นสีแดง จะพาให้บรรยากาศในห้องดูร้อนแรงจนไม่กล้าจะชายตามองเลยทีเดียว และยิ่งไปกว่านั้นถ้าคุณเป็นคนที่ไม่ชอบสีแดงอยู่แล้วละก็จะยิ่งส่งผลร้ายที่อาจทำลายความสุขภายในบ้านตามไปด้วย เพราะมันจะไปกระตุ้นอารมณ์ในแง่ลบในตัวเรา ดังนั้นหากจะใช้ก็ควรตกแต่งห้องด้วยสีแดงแต่พอดีไม่มากจนเกินไป
5. เฉดสีอบอุ่นสบายตาเหมาะกับห้องที่ต้องการความเงียบสงบ
แน่นอนว่าห้องนอนเป็นห้องที่ต้องการความเงียบสงบเพื่อเข้าสู่นิทราและใช้พักผ่อนเป็นหลัก ดังนั้นเราจึงควรปรับบรรยากาศด้วยการเลือกเฉดสีกลาง ๆ หรือโทนสีธรรมชาติ เช่น เขียว ฟ้า ขาวไข่มุก หรือสีแนวเอิร์ธโทนทั้งหลาย พร้อมกับหลีกเลี่ยงเลือกสีในโทนสว่างไสวและมืดครึ้มจนเกินไป เพราะจะทำให้บรรยากาศในห้องนอนไม่น่านอน หากไม่สว่างจ้าเกินไปก็จะทำให้ดูอึดอัดคับแคบจนไปรบกวนการนอนของคุณ
6. เลือกใช้สีดำไม่ผิดแค่ต้องคิดและใช้ให้ถูกวิธี
หากคุณมีรสนิยมชมชอบในการแต่งบ้านด้วยสีดำก็ไม่ผิดอะไรหรอกนะคะ แต่ในทางฮวงจุ้ยแล้วการทาสีดำในห้องนอนและห้องครัวถือว่าไม่ควรโดยเด็ดขาด เนื่องจากสีดำนั้นดูเคร่งขรึมไม่เหมาะกับการพักผ่อน ส่วนการทำครัวก็จำเป็นที่จะต้องใช้ไฟและอุปกรณ์แหลมคม หากใช้สีดำอาจทำให้ได้รับอันตรายเอาง่าย ๆ แต่หากใจมันชอบก็ต้องหาทางออกด้วยการติดตั้งไฟให้ส่องสว่างมองเห็นทุกรายละเอียดอย่างชัดเจน ตกแต่งด้วยสิ่งของสะท้อนแสง หรือภาพวาดที่ดูตัดกับสีห้องเพื่อสร้างความสมดุลในทางธรรมชาติและเพื่อความปลอดภัย
7. คิดทบทวนให้ดีถ้าจะเลือกใช้สีขาว
สีขาว คือตัวแทนแห่งด้านสว่างที่หลายคนอาจมองว่า เป็นสีที่สบายตาแลเป็นดูธรรมชาติ แต่ในทางฮวงจุ้ยแล้วสีขาวนั้นดูสว่างจ้าและกระจายแสงมากจนเกินไป มักจะทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกไม่มั่นใจจนอาจถึงขั้นอึดอัดเลยก็เป็นได้ แต่ถ้าอยากให้ห้องดูโปร่งโล่งและสว่างนั้น แนะนำให้เลือกใช้สีขาวในเฉดสีมุก สีขาว-เทา หรือตกแต่งด้วยสิ่งของที่ดูตัดกันกับสีห้อง เพียงเท่านี้ก็จะทำให้บรรยากาศให้ห้องดูสมดุลมากขึ้นแล้วค่ะ
8. เฉดสีธรรมชาติอีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะสม
ถึงคราวยินดีกับคนที่ชื่นชอบการตกแต่งบ้านในสไตล์ธรรมชาติด้วยสีแนวเอิร์ธโทนแล้วละค่ะ เพราะนอกจากจะเป็นเทรนด์ใหม่มาแรงในปีนี้แล้ว มันยังถูกโฉลกตามหลักฮวงจุ้ยกับการสร้างความสมดุลได้อีกด้วย แต่ถ้าใครที่ไม่ค่อยคลิกกับเฉดสีนี้เท่าไรก็ไม่จำเป็นต้องฝืนใจ สามารถหาของตกแต่งมาใช้แทนก็ได้ เช่น ผ้าม่านทอ ผ้าคลุมเตียงสีเอิร์ธโทน หรือจะใช้พรมขนสัตว์ เป็นต้น
9. ทดลองทาสีก่อนตัดสินใจใช้จริง
หลังจากที่เลือกเฉดสีได้ตรงตามหลักฮวงจุ้ยตามที่ต้องการแล้ว ก็อย่าเพิ่งตัดสินใจสั่งซื้อสีนั้นตั้งแต่แรกเจอเลยทันที ให้นำมาทดลองทาบนผนังบ้านเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสประมาณ 12x12 นิ้วดูก่อน แล้วคอยสังเกตเมื่อสีสัมผัสกับแสงว่าเฉดสีเปลี่ยนไปหรือไม่ ตรงตามสเปคฮวงจุ้ยที่คาดหวังไว้ตั้งแต่แรกหรือเปล่า เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นภายหลังค่ะ
10. ของตกแต่งก็ปรับเปลี่ยนฮวงจุ้ยแทนการทาสีห้องได้
แม้การทาสีห้องตามหลักฮวงจุ้ยเป็นอีกหนึ่งทางที่จะพาเราไปพบกับเรื่องราวดี ๆ ในชีวิต แต่ก็ยังมีบางคนที่ไม่สามารถใช้วิธีนี้ได้ เนื่องมาจากหลาย ๆ ปัจจัย ดังนั้นการเลือกใช้ของตกแต่งที่มีสีถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยสีทาบ้าน ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ไม่สะดวกทาสีห้องใหม่ ซึ่งสามารถใช้แทนการเปลี่ยนสีห้องได้เลยค่ะ
การเลือกทาบ้านให้ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยนั้นไม่ยาก แค่เราปรับเปลี่ยน คำนึงถึงการใช้งานแต่ละห้อง และผสมผสานความชอบส่วนตัวตามหลักการที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ ก็จะทำให้ห้องของคุณเปิดรับสิ่งดี ๆ เข้ามาได้อย่างเต็มที่แล้วค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก housebeautiful, projectnursery, freshome และ care2
Feng Shui
แนะนำ 9 ทริคง่ายๆ สำหรับการจัด “ฮวงจุ๊ย” เสริมพลังงานด้านบวก ให้ไหลเวียนภายในบ้าน
ความเชื่อเรื่อง “ฮวงจุ๊ย” นั้นอยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน
ฮวงจุ้ยสีทาบ้าน 10 วิธีเลือกสีทาบ้านตามหลักฮวงจุ้ย
ต้อนรับสิ่งดี ๆ ตั้งแต่ต้นปีกับ ฮวงจุ้ยสีทาบ้าน เสริมดวงด้วยวิธีเลือกสีทาบ้านตามหลักฮวงจุ้ย เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่คนในครอบครัว
มาดู “เคล็ดลับการตั้งหิ้งพระ” เสริมโชคลาภและบารมีให้กับชีวิตในบ้าน
บ้านของชาวไทยเชื้อสายพุทธโดยส่วนมากแล้วจะต้องมี “หิ้งพระ” ไว้ในบ้าน
Feng Shui..
-
ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ฤกษ์เปิดร้านค้า ฤกษ์ดีปี 2560 มีวันไหนบ้างมาดูกัน
-
วางชักโครกตรงไหน?? ให้ถูกหลัก “ฮวงจุ้ย” ป้องกันโชคร้าย และอุปสรรคในชีวิต
-
มหัศจรรย์ ! เสริมฮวงจุ้ยบ้านด้วยมะนาว 7 ลูก
-
แนะนำ 9 ทริคง่ายๆ สำหรับการจัด “ฮวงจุ๊ย” เสริมพลังงานด้านบวก ให้ไหลเวียนภายในบ้าน
-
ฮวงจุ้ยสีทาบ้าน 10 วิธีเลือกสีทาบ้านตามหลักฮวงจุ้ย
-
มาดู “เคล็ดลับการตั้งหิ้งพระ” เสริมโชคลาภและบารมีให้กับชีวิตในบ้าน
-
ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ มกราคม 2559
-
5 ฮวงจุ้ย “ประตูบ้าน” ทำอย่างไรให้เฮง เฮง และสตรอง
-
7 หลักฮวงจุ้ยแปลนบ้าน เปิดรับสิ่งดี ๆ ตั้งแต่เริ่มสร้าง