หน้าแรก / สาระน่ารู้ / เกร็ดความรู้
เกร็ดความรู้
หน้าแรก / เกร็ดความรู้

หลังคา เรื่องใหญ่ที่ไม่ควรมองข้าม

Line

หลังคา เรื่องใหญ่ที่ไม่ควรมองข้าม

Line

หลังคาที่ไม่แข็งแรงเพียงพอไม่สามารถทนต่อความรุนแรงจากภัยธรรมชาติ (ภาพจาก www.wrh.noaa.gov)

 

           จาก ฐานราก เสา คาน ที่ถือเป็นส่วนประกอบหลักของโครงสร้างตัวบ้าน ส่วนประกอบสุดท้ายแต่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากันก็คือ โครงหลังคา ที่ว่าสำคัญก็เนื่องมาจาก หากโครงสร้างหลังคาไม่แข็งแรงพอ อาจก่อให้เกิดความเสียหายตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงขั้นรุนแรงได้ ในฐานะที่หลังคาเปรียบเสมือนหมวก ไว้คอยป้องกันแดดและฝน ความเสียหายเล็กน้อยที่เกิดขึ้นก็อาจจะเป็น การรั่วซึมของน้ำ แต่หากโครงหลังคาไม่แข็งแรง เมื่อเกิดภัยธรรมชาติเช่น ลมพายุที่รุนแรง อาจะทำให้ตัวโครงและวัสดุมุงถูกพัดปลิว หรือพังทลายลงได้ สร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินและเป็นอันตรายต่อผู้พักอาศัยภายในตัวอาคาร หรือต่อผู้ที่อยู่อาศัยข้างเคียง ดังที่เราจะเห็นได้ในข่าวอยู่เป็นประจำเมื่อเข้าสู่ฤดูฝนหรือเมื่อเกิดพายุฤดูร้อน

           ดังนั้นการจะก่อสร้างโครงหลังคาให้มีความแข็งแรง ขึ้นอยู่กับทั้ง การเลือกวัสดุ และ ขั้นตอนในการก่อสร้าง วัสดุที่ใช้ก่อสร้างโครงหลังคามีทั้งจากวัสดุธรรมชาติที่เราใช้กันมานานแล้วคือ ไม้เนื้อแข็ง แต่ปัจจุบันไม้เป็นวัสดุที่หายากและมีข้อจำกัดเนื่องจากเป็นวัสดุจากธรรมชาติ ทั้งเรื่องขนาด ความสมบูรณ์ และความแข็งแรง การนำมาใช้ในการก่อสร้างบ้านพักอาศัยถาวรจึงได้รับความนิยมลดน้อยลงไป


โครงหลังคาไม้ (ภาพจาก www.scgbuildingmaterials.com)

 

           ปัจจุบันวัสดุโครงหลังคาที่นิยมใช้กันมากคือ เหล็กรูปพรรณ มีรูปแบบเป็นเหล็กกล่อง หรือ เหล็กรูปตัวซี เหล็กรูปพรรณมีรูปแบบและขนาดให้เลือกใช้หลากหลายตามมาตรฐานผู้ผลิต โดยการเลือกรูปแบบและขนาดไม่เพียงแต่ส่งผลทางวิศวกรรมเท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างความสวยงานทางสถาปัตยกรรมได้อีกด้วย โครงหลังคาเหล็กรูปพรรณจะประกอบเข้าด้วยกันโดยวิธีการเชื่อม ข้อดีของการใช้เหล็กรูปพรรณคือ สามารถติดตั้งในช่วงจุดรองรับที่มีระยะห่างมาก ๆ ได้ แต่การประกอบติดตั้งก็ต้องระมัดระวังเรื่องความแข็งแรงของรอยเชื่อม และการทาสีป้องกันสนิมด้วย




โครงหลังคาเหล็กรูปพรรณ (ภาพจาก BlogGang.com)

 

           อย่างไรก็ตามโครงหลังคาบ้านที่กำลังเริ่มเป็นที่นิยมอีกรูปแบบหนึ่งคือ โครงหลังคาสำเร็จรูป ซึ่งผลิตจากเหล็กกล้ากำลังดึงสูงกว่าเหล็กรูปพรรณ ผิวของเหล็กจะเคลือบสารป้องกันสนิมด้วยวิธีกัลวาไนซ์ อะลูมิเนียมซิงค์ หรือแมกนีเซียมซิงค์ สามารถป้องกันสนิมได้ดี การประกอบติดตั้งจะใช้สกรูยึดชิ้นส่วนเหล็กประกอบเข้าด้วยกันเป็นโครงหลังคา ไม่มีการเชื่อมที่จะเป็นสาเหตุให้เหล็กเสียความแข็งแรงหรือเป็นจุดอ่อนที่จะทำให้เกิดสนิม โครงหลังคาสำเร็จรูปจะมีน้ำหนักเบากว่าหลังคาเหล็กรูปพรรณ เนื่องจากเหล็กมีกำลังดึงสูงกว่าจึงใช้ความหนาที่น้อยกว่า ทำให้มีน้ำหนักที่เบากว่า
 

 

ครงหลังคาสำเร็จรูป (ภาพจาก บริษัท พีดี เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด)

 

           สุดท้ายแล้วในการเลือกใช้โครงหลังคา ไม่ว่าจะเป็นไม้ เหล็กรูปพรรณ หรือโครงเหล็กสำเร็จรูป สิ่งที่ควรคำนึงถึงเป็นหลักก็คือ อายุการใช้งาน กับ วัสดุที่ใช้มุงหลังคา เท่านี้เราก็จะได้มีโครงหลังคาที่เหมาะกับบ้านและมีความแข็งแรงปลอดภัยแล้วครับ


ผู้จัดการฝ่ายวิศวกรรม1 บริษัท พีดี เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
ขอขอบคุณ :  www.homeandresort.net

                           

ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์
เราสร้างบ้านเพื่ออนาคต

Line