ตามมาดู…วิธีคลายร้อนดีๆ ที่ช่วยให้บ้านเย็นกันเถอะ !!!
ถึงเวลาเตรียมบ้านให้พร้อมอย่างจริงจังแล้ว เพราะอากาศที่ร้อนขึ้นทุกวัน ทำให้บ้านก็ยิ่งร้อนขึ้นเรื่อยๆ จนหลายๆ บ้านต้องหาวิธีคลายร้อนให้กับบ้าน วิธีที่ง่ายที่สุดคงจะเป็นวิธีติดตั้งเครื่องปรับอากาศเพิ่ม ไม่ก็เร่งความเย็นของเครื่องปรับอากาศ หรือไม่ก็เปิดไปเลยทั้งวัน เพื่อให้บ้านเย็นสบายดังใจอยาก แต่สิ่งที่ตามมาก็คือ รายจ่ายที่ต้องเพิ่มขึ้นด้วย
เชื่อว่าหลายคนยังไม่รู้ยังไม่รู้ ว่าการเปิดเครื่องปรับอากาศทั้งวัน เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เพราะจริงๆแล้ว ความร้อนจากการทำงานของเครื่องปรับอากาศ จะยิ่งทำให้อากาศรอบๆบ้าน ร้อนยิ่งขึ้นไปอีก เมื่ออากาศร้อนขนาดนี้ บ้านที่เราอยากนอนอืดทั้งวัน เรียกว่าเป็นสถานที่พักผ่อนอย่างดี ในช่วงเวลาเสาร์–อาทิตย์ ที่เหน็ดเหนื่อยจากการทำงานหนักตลอดทั้งสัปดาห์ สำหรับบางบ้าน ที่เป็นสถานที่ทำกิจกรรมร่วมกันกับครอบครัว เช่น อ่านหนังสือ นอนเล่น ทำอาหาร เป็นต้น กลับเริ่มไม่น่าอยู่ เพราะอากาศที่ร้อนเกินจะทนได้ ทำให้หลายคนต้องหนีออกจากบ้าน และไปพึ่งพาห้างสรรพสินค้าแทน
ขอเสนอวิธีคลายร้อน 7 วิธี ที่จะช่วยทำให้บ้านของคุณเย็นขึ้น รับรองว่าแต่ละวิธี ทำได้ง่ายๆ ทุกบ้านสามารถทำได้ และเห็นผลลัพธ์จริง แถมประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า
วิธีที่ 1 : เลือกติดม่านกันแสงแดดในห้องนอนและห้องนั่งเล่น
ส่วนใหญ่ห้องนอนและห้องนั่งเล่น จะตกแต่งด้วยผ้าม่านอยู่แล้ว ไม่เฉพาะบริเวณหน้าต่างเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงบริเวณโดยรอบของห้อง ที่มีส่วนของผนังที่เป็นกระจก ก็มีการตกแต่งด้วยม่านทั้งนั้น เพื่อเป็นการเสริมบรรยากาศของห้อง ไม่ให้ดูเรียบเกินไป แต่อีกเหตุผลหนึ่งของการติดผ้าม่าน คือ กันแดดและปรับแสงภายในห้อง
แนะนำให้เลือกใช้ผ้าม่านกันแสง หรือ ผ้าม่านลดแสงยูวี เป็นผ้าม่านที่จะทอด้วยด้ายสีดำตรงกลาง หรือบางชนิดจะเคลือบโฟมไว้ด้านหลัง ซึ่งจะดูดความร้อนเอาไว้ ไม่ให้แสงแดดผ่านเข้ามามากเกินไป โดยม่านชนิดนี้จะช่วยลดแสงแดดที่เข้ามาในตัวบ้าน จาก 100% เหลือแค่ 10-20% เท่านั้น ซึ่งจะช่วยลดอุณภูมิลงไปได้ถึง 3-4 องศาเลยทีเดียว และยังดูดรังสีที่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง นั่นก็คือ รังสี UVA และ UVB ได้อีกด้วย
สำหรับบ้านที่ยังต้องการใช้ม่านโปร่งแสงอยู่ เพราะต้องการรักษาบรรยากาศของภายในห้อง ให้มีความสว่าง และต้องการชมบรรยากาศภายนอกบ้าน Shopback แนะนำให้เลือกติดม่าน 2 ชั้น ซึ่งม่านทั้ง 2 แบบสามารถหาซื้อพร้อมส่องส่วนลดและเงินคืนได้ที่ Lazada เวลาติดม่าน 2 ชั้น ชั้นนอกจะเป็นม่านแบบโปร่งแสง ส่วนชั้นในจะเป็นม่านกันแสง เวลาไหนที่ต้องการแสงมากขึ้น ก็สามารถเปิดม่านธรรมดาออก ให้เหลือม่านแบบโปร่งแสงที่ยังปิดอยู่ ซึ่งจะช่วยบังแดดและความร้อน แถมแสงที่ผ่านเข้ามาจะมีความนุ่มนวล ทำให้ห้องโปร่ง สบายตา และดูไม่อึดอัด ส่วนในเวลาที่ต้องการความเป็นส่วนตัวก็สามารถปิดม่านกันแสงได้
การติดม่าน 2 ชั้น จะเป็นการเพิ่มงบประมาณของคุณให้มากขึ้น เนื่องจากต้องเสียจำนวนเงินมากขึ้นตามจำนวนชั้นของผ้าม่าน เพราะฉะนั้นสำหรับคนที่มีงบประมาณจำกัด Shopback แนะนำให้เลือกใช้ม่านชั้นเดียวแบบโปร่งแสง ซึ่งชนิดที่นิยมใช้ คือ ม่านม้วนซันสกรีน เป็นม่านที่สามารถกันแสง รับลม และกันความร้อนได้ดี คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจผิดว่าม่านที่กันแสงได้ดี จะต้องเป็นม่านชนิดหนาและสีเข้ม แต่แท้จริงแล้วม่านแบบโปร่งแสง ที่เนื้อบางจะช่วยรับลมได้ดีกว่า เพราะไม่กั้นทิศทางของลม
Tips : การเลือกสีของม่าน ก็เป็นวิธีคลายร้อนให้บ้านได้เช่นกัน ผ้าม่านสีอ่อนจะไม่ดูดความร้อนเท่ากับผ้าม่านสีเข้ม และยังช่วยคุมโทนการตกแต่งของห้องได้ง่ายขึ้นอีกด้วย การเลือกใช้สีอ่อนยังเป็นเหมือนการตามเทรนด์ เพราะม่านสีกลางๆหรือสีพาสเทลกำลังได้รับความนิยมอยู่ เพราะช่วยทำให้ห้องดูมีสไตล์และเสน่ห์มากยิ่งขึ้น
วิธีที่ 2 : ปลูกต้นไม้ในห้องครัวหรือห้องน้ำ
ยิ่งเป็นทิศตะวันตก หรือตำแหน่งที่แดดส่องแรงๆ จะยิ่งเห็นผลชัดเจน วิธีนี้มักเป็นวิธีที่เรามองข้ามไป ทั้งๆที่เป็นวิธีคลายร้อนง่ายๆที่สามารถทำได้เลยทันที แถมยังเห็นผลเร็วอีกด้วย อย่างที่เรารู้กันดีอยู่แล้วว่า การปลูกต้นไม้ในบ้านจะช่วยเพิ่มความเย็นให้กับบ้าน เพราะต้นไม้จะช่วยปกป้องแสงแดดที่ส่องลงมาให้น้อยลง นอกจากนี้ต้นไม้ยังมีการคายน้ำบริเวณปากใบ จึงทำให้อากาศชุ่มชื้นขึ้นนั่นเอง
ขอแนะนำต้นไม้ที่เหมาะกับการปลูกในร่มอย่างห้องนั่งเล่น อย่างกุหลาบหิน และว่านหางจระเข้ ซึ่งทั้ง 2 ชนิด สามารถหาซื้อและรับเงินคืนกันได้ที่ WeLoveShopping เลยค่ะ
ชนิดแรก คือ กุหลาบหิน เป็นไม้พุ่มอวบน้ำ สูงไม่เกิน 1 ฟุต ดอกมีขนาดเล็ก ออกเป็นช่อ มีหลายสีให้เลือก เช่น สีส้ม สีชมพู แลพสีเหลือง เป็นต้น โดยจะออกดอกปีละ 1 ครั้ง ในช่วงหน้าหนาว ในเรื่องของการดูแลก็ไม่ยุ่งยาก ปลูกได้ในดินทุกชนิดที่ระบายน้ำได้ดี รดน้ำแค่สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง และวางในที่แสงดแดดส่องถึง นอกจากจะช่วยคลายร้อนแล้ว สีสันของดอกที่มีความสดใส สะดุดตา ยังช่วยสร้างบรรยากาศภายในบ้าน ให้ดีขึ้นได้อีกด้วย
ชนิดที่สอง คือ ว่านหางจระเข้ ปลูกใส่กระถางเล็กๆ วางไว้ในห้องน้ำ ปลูกด้วยดินทรายแห้ง รดน้ำ 1 ครั้งต่อสองสัปดาห์ รดน้ำลงไปช้าๆ รอจนให้น้ำซึมขึ้นมาแล้วหยุด ยังช่วยดูดสารพิษจนทำให้บ้านสะอาดขึ้นด้วยค่ะ
Tips : บ้านไหนมีบริเวณ อาจจะปลูกต้นไม้ไว้รอบๆตัวบ้านเพิ่มเติม เพราะใบไม้จะเป็นร่มเงาให้แสงแดดไม่ส่องลงมายังตัวบ้านมากเกินไป สำหรับบ้านที่ไม่มีเวลาดูแลต้นไม้มาก อาจจะเลือกเป็นไม้เลื้อย เป็นพืชเติบโตไว ไม่ต้องดูแลอะไรมาก ทนทานต่อสภาพอากาศ ช่วยลดความร้อนไปได้ถึง 50% เลยทีเดียว
วิธีที่ 3 : เปลี่ยนหลอดไฟธรรมดา ให้เป็นหลอดไฟ LED
ในทุกห้องของบ้าน บางบ้านไม่รู้ว่าหลอดไฟที่ติดตั้งอยู่ภายในบ้านนั้น ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้บ้านร้อนจากภายในบ้านเลย เพราะหลอดไฟ LED ใช้พลังงานน้อยกว่าหลอดไฟธรรมดาถึง 90% ทำให้ปลดปล่อยความร้อนมาน้อยมาก แสงดูเย็นตา ไม่ทำให้รู้สึกร้อนเหมือนหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ทั่วไป ที่มีจุดกำเนิดแสงมาจากการทำความร้อน อีกทั้งแผงวงจรภายในเองก็ไม่ร้อนเช่นกัน ทำให้หลอดไฟ LED มีอายุการใช้งานที่นานกว่าด้วย ช่วยประหยัดค่าไฟได้ถึง 90% นอกจากนี้ ยังช่วยให้เครื่องปรับอากาศทำงานเบาลง ทำให้ประหยัดค่าไฟได้ถึง 2 เท่า ทั้งจากตัวหลอดเอง และจากเครื่องปรับอากาศ
เพื่อรับอากาศในช่วงหัวค่ำ ช่วงหน้าร้อน อุณหภูมิในตอนกลางวันจะสูงมาก แต่อุณหภูมิจะเริ่มเย็นลงในช่วงกลางคืน และในช่วงเวลานี้จะเริ่มมีลมเย็น ทำให้ต้องรีบเปิดหน้าต่างอย่างด่วน ปล่อยให้ลมเย็นพัดเข้ามาในห้อง เพื่อถ่ายเทความร้อนภายในห้อง ที่เก็บสะสมมาตลอดทั้งวัน ในช่วงฤดูร้อน ลมมีทิศทางหลักจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ จึงควรเปิดหน้าต่างที่อยู่ในทิศนั้น เพื่อรับลมได้อย่างเต็มที่ แต่ต้องมีทางออกให้ลมอีกด้านหนึ่ง เพราะถ้าไม่สร้างทางออกให้ลมแล้ว ลมจะผ่านเข้ามาได้น้อย
ในกรณีที่หน้าต่างสามารถเปิดได้ทั้งชั้นบนและชั้นล่างของบ้าน ให้เปิดไว้ทั้ง 2 ชั้น เนื่องจากลมที่พัดเข้ามาจะพัดลงสู่ด้านล่าง และพัดเอาความร้อนขึ้นสู่เพดาน และพัดออกไปจากช่องว่างด้านบน
Tips : ทิศทางการตั้งพัดลมก็สำคัญไม่แพ้กันค่ะ เพราะถ้าเราเปิดหน้าต่างรับลม แต่พัดลมเรากลับหันหน้าไปทิศที่สวนทางกับลม เราจะได้ประโยชน์จากลมน้อยลงเช่นกัน หรือถ้าบ้านไหนต้องการซื้อพัดลมใหม่ ทางเลือกที่น่าสนใจ คือ พัดลมไอน้ำ เพราะจะมีระบบทำความเย็นผ่านการพ่นละอองน้ำออกมา และจะกระจายตัวเพื่อสร้างความชื้น จึงทำให้บ้านเย็นลง
วิธีที่ 5 : หลีกเลี่ยงการใช้พรมหรือขนสัตว์
แน่นนอนว่าการตกแต่งบ้านด้วยพรมหรือขนสัตว์ จะช่วยเสริมบ้านให้ดูน่าอยู่และหรูหราขึ้น แต่ในขณะเดียวกันพรมและขนสัตว์เป็นตัวกักเก็บความร้อนอย่างดี นั่นคือสาเหตุว่าทำไมบ้านในประเทศที่มีอากาศหนาว ถึงชอบมีพรมและขนสัตว์ประดับไว้มากมาย แต่ประเทศหน้าร้อนแบบเรา จึงควรหลีกเลี่ยงเป็นอย่างมาก ถ้ามีก็ควรนำออกมาใช้ในหน้าหนาวเท่านั้น
Tips : ถ้าต้องการใช้พรมหรือขนสัตว์จริงๆ Shopback แนะนำให้เลือกพรมที่ทำมาจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น คอตตอน เพราะวัสดุนี้จะช่วยกักเก็บความชื้นในอากาศไว้ ทำให้บ้านไม่ร้อนขึ้นแน่นอน
วิธีที่ 6 ทำอาหารนอกบ้าน
เพราะการทำอาหารส่วนใหญ่ต้องใช้ความร้อนเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเตาแก๊ส, เตาไฟฟ้า, ไมโครเวฟ และหม้อหุงข้าว เป็นต้น เครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ล้วนกักเก็บความร้อน และแผ่ความร้อนออกมาเป็นระยะ ยิ่งถ้าเป็นการประกอบอาหารจำพวกปิ้งย่าง ที่ต้องใช้ความร้อนสูงเป็นเวลานาน ยิ่งทำภายในบ้าน ซึ่งเป็นส่วนที่ปิดทึบแล้วนั้น ก็ยิ่งทำให้บ้ายร้อนไปกันใหญ่ จึงควรเลือกการทำอาหารนอกบ้าน หรือบริเวณที่เปิดโล่ง อย่างริมบ้าน หรือหลังบ้าน ถ้าเป็นไปได้ เพราะจะช่วยลดความร้อนภายในบ้าน และยังช่วยเรื่องกลิ่นรบกวนได้อีกด้วย
วิธีที่ 7 : ติดสปริงเกอร์บนหลังคาบ้าน
ถือว่าเป็นไอเดียที่ดีมาก ที่หลายบ้านควรทำตาม โดยเฉพาะบ้านที่มีอายุหลายสิบปี มักจะไม่มีฉนวนความร้อนอยู่ใต้หลังคาบ้าน ทำให้หลังคาบ้านได้รับแสงแดดเต็มๆ และร้อนกว่าบ้านที่มีฉนวนกันความร้อน การติดสปริงเกอร์ที่ใช้รดน้ำต้นไม้หรือสนามหญ้า ขึ้นไปติดบนหลังคาบ้าน แล้วเปิดในช่วงกลางวันที่แดดร้อนมากๆ น้ำจะช่วยดูดซับความร้อนที่สะสมออกจากหลังคาบ้าน การเติมน้ำให้กับหลังคาจะเป็นการระบายความร้อน ซึ่งจะช่วยลดอุณหภูมิได้ถึง 5-10 องศาเลยทีเดียว นอกจากนี้น้ำที่ไหลลงมาจากหลังคา จะไหลลงมารอบๆตัวบ้าน ทำให้ดินคลายความร้อน ช่วยให้อากาศรอบๆบ้านเย็นขึ้นอีกด้วย แค่ใช้สปริงเกอร์ประมาณ 2 ตัว ก็น่าจะเอาอยู่แล้ว ยังสามารถติดตั้งเองได้ผ่านระบบประปา โดยไม่ต้องเสียเงินในการจ้างคน
ที่มา : shopback.co.th
Home's Tips
เทคนิคการตรวจสอบน้ำรั่ว น้ำซึมภายในบ้านเพื่อลดรายจ่ายไม่จำเป็น
เทคนิคการตรวจสอบน้ำรั่ว น้ำซึม ภายในบ้าน เพื่อลดรายจ่ายไม่จำเป็น
หน้าร้อนต้องรู้!! 7 วิธีคลายร้อนดีๆ ที่ช่วยให้บ้านเย็น
ถึงเวลาเตรียมบ้านให้พร้อมอย่างจริงจังแล้ว เพราะอากาศที่ร้อนขึ้นทุกวัน ทำให้บ้านก็ยิ่งร้อนขึ้นเรื่อยๆ
7 วิธีใช้แอร์ที่มักถูกเข้าใจผิด เพราะแบบนี้ไงเลยจ่ายค่าไฟแพงกว่าเดิม
เข้าหน้าร้อนทีไรค่าไฟพุ่งกระฉูดทุกที แต่อากาศร้อนซะขนาดนี้ไม่ให้เปิดเครื่องปรับอากาศเลยก็ไม่ได้ ซึ่งจริง ๆ แล้วที่ค่าไฟแพงหูฉี่อาจไม่ได้เป็นเพราะเปิดแอร์เพียงอย่างเดียว
Home's Tips..
-
“บ้านประหยัดพลังงาน”...เรื่องบ้าน ๆ ที่สร้างสรรค์แต่สิ่งดี
-
5 ข้อควรคำนึงก่อนเริ่มสร้างบ้านเพื่อ “ประหยัดพลังงาน” และ “ลดความร้อน” ให้กับที่อยู่อาศัย
-
แนะนำ 10 เคล็ดลับดีๆ ในการแต่งบ้าน ที่ช่วยทำให้บ้านเย็นขึ้น แบบที่หลายๆ คนยังไม่รู้
-
เทคนิคการตรวจสอบน้ำรั่ว น้ำซึมภายในบ้านเพื่อลดรายจ่ายไม่จำเป็น
-
หน้าร้อนต้องรู้!! 7 วิธีคลายร้อนดีๆ ที่ช่วยให้บ้านเย็น
-
7 วิธีใช้แอร์ที่มักถูกเข้าใจผิด เพราะแบบนี้ไงเลยจ่ายค่าไฟแพงกว่าเดิม
-
15 Fact about PDHouse
-
10 วิธีนอนหลับสบาย ในหน้าร้อน แบบไม่เปิดแอร์
-
"เตรียมตัว เตรียมบ้าน ก่อนหนีเที่ยววันหยุดยาว"