หน้าแรก / สาระน่ารู้ / เกร็ดความรู้
เกร็ดความรู้
หน้าแรก / เกร็ดความรู้

30 วิธีทำความสะอาดห้องครัวจัดหนัก ให้สะอาดล้ำลึก

Line

30 วิธีทำความสะอาดห้องครัวจัดหนัก ให้สะอาดล้ำลึก

Line
ทำความสะอาดห้องครัวให้หมดจด ไม่เหลือคราบสกปรกและเชื้อโรค มีวิธีทำความสะอาดห้องครัวอย่างไร ไปดูเคล็ดลับจัดหนักกันเลย

          เบื้องหลังของอาหารอร่อยต้องมาจากครัวที่สะอาดเป็นสำคัญ ถ้าห้องครัวรกไม่เป็นระเบียบ มีคราบสกปรกทุกซอกทุกมุม รับรองเลยว่าอาหารที่อออกจากครัวไปคงไม่สะอาดและจะพาลไม่อร่อยด้วย ถ้าอยากแก้ไขห้องครัวให้กลับมาสะอาดเหมือนใหม่อีกครั้ง ต้องรีบมาดูวิธีการทำความสะอาดชนิดที่ว่าสิ่งสกปรกต้องขอบายไปเกิดใหม่ ที่เว็บไซต์ buzzfeed  รวบรวมเอาไว้ ส่วนจะมีวิธีไหนน่าใช้บ้างลองไปจดวิธีการกันเลยค่ะ

1. ขัดเตาอบด้วยเบกกิ้งโซดาล้างคราบอาหาร


          หลังการทำอาหารเราก็ต้องเก็บล้างอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้เข้าที่ ซึ่งเตาอบก็เช่นกัน แม้ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่เก็บล้างยากก็ตาม แต่ให้ขัดด้วยเบกกิ้งโซดาผสมกับน้ำเปล่าอย่างเข้มข้น ถอดชิ้นส่วนภายในเตาอบออกให้หมด แล้วจัดการขัดให้ทั่วทิ้งไว้ 1 คืน หลังจากนั้นค่อยแซะก้อนที่แห้งแข็งออก และเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำเป็นอันเสร็จ

2. รมควันขาตั้งเตาในแอมโมเนีย เพื่อล้างคราบเหนียว

          เคยลองสังเกตดูไหมว่าขาตั้งเตาที่เราผัด ๆ ทอด ๆ กันอยู่ทุกวันนั้น มีคราบมันเหนียวเกาะติด จนอาจจะเป็นที่ดึงดูดเจ้าเชื้อโรคให้มาเยือนอาหารคุณโดยไม่รู้ตัว ต้องตัดวงจรด้วยการเทแอมโมเนียลงในถุงซิปล็อกประมาณ 4 ช้อน ใส่หัวเตาลงไปแล้วปิดซิปล็อกทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นเช็ดแอมโมเนียออกด้วยผ้าเปียกซะก่อน แล้วค่อยนำไปล้างด้วยน้ำยาล้างจาน แต่ห้ามนำน้ำยาล้างจานมาถูโดนแอมโมเนียโดยตรง เพราะจะทำปฏิกิริยาเคมีจนเกิดสารพิษได้


3. ขจัดคราบอ่างล้างจานด้วยเบกกิ้งโซดาและมะนาว

          เราก็สามารถทำความสะอาดอ่างล้างจานที่มัวหมองได้ เพียงแค่โรยเบกกิ้งโซดาให้ทั่วอ่าง เปิดน้ำหล่อพื้นผิวเล็กน้อย และใช้แปรงสีฟันเก่า ๆ ขัดทุกซอกทุกมุมแล้วล้างออก ส่วนใครที่ปลื้มใจกับผลิตภัณฑ์ธรรมชาติอย่างมะนาวก็ได้เช่นกันค่ะ ให้นำมะนาวมาคลึงแล้วผาครึ่งบีบน้ำเก็บไว้ทำอาหาร จากนั้นโรยเกลือลงอ่างรองเป็นสครับ ใช้เปลือกมะนาวถูให้เกลี้ยงแล้วล้างออก อ่างก็จะใสวิ้งเหมือนใหม่เลย

4. ก้อนน้ำแข็งเปลือกมะนาวดับกลิ่นอับจากท่อน้ำทิ้ง

          หากเดินเข้าครัวแล้วสงสัยว่ากลิ่นอับมาจากไหน ให้ดูที่ท่อน้ำทิ้งอ่างล้างจานก่อนเลย เพราะเศษอาหารนานาชนิดที่ค้างอยู่ในท่อนั้นเราก็ไม่ค่อยหมั่นทำความสะอาดกันเท่าไร หลังจากที่ล้างอ่างตามขั้นตอนด้านบนแล้ว ให้นำน้ำร้อนเทราดรูท่อให้เชื้อโรคตาย จากนั้นนำก้อนน้ำแข็งที่ทำจากน้ำส้มสายชูแช่แข็งรวมกับชิ้นมะนาวมาวางไว้ที่รูท่อสัก 2-3 ชิ้น เพื่อดับกลิ่นให้ราบคาบ แนะนำให้แช่ก้อนน้ำแข็งนี้เผื่อไว้ใช้ในคราวต่อ ๆ ไปด้วยก็จะดี

5. น้ำร้อนและเบกกิ้งโซดาฆ่าเชื้อโรคตู้เย็นสนิท

          จุดประสงค์ในการแช่อาหารไว้ในตู้เย็น คือต้องการรักษาคุณค่าของอาหารไว้ให้นาน แต่ความสกปรกในตู้เย็นกลับกลายเป็นตัวทำลายคุณค่านั้นทิ้งไป เราต้องรักษาคลังอาหารให้ปลอดจากเชื้อโรคโดยการย้ายอาหารไปแช่ไว้ที่อื่น และกดปิดเครื่องซะก่อน ถอดชิ้นส่วนต่าง ๆ ออกมาขัดด้วยน้ำอุ่นที่ผสมเบกกิ้งโซดา และล้างด้วยน้ำยาล้างจานอีกครั้งก่อนนำไปตากแดด ส่วนภายในตู้ให้นำผ้าขนหนูมาซับน้ำร้อนที่ผสมเบกกิ้งโซดาเพื่อขัดให้ทั่ว และใช้ผ้าเปียกเช็ดให้หมดจน เปิดตู้ทิ้งไว้ให้อากาศถ่ายเทสักพัก แล้วค่อยเปิดการทำงานอีกครั้ง แนะนำให้วางถ่านไม้ไว้ในตู้เพื่อดูดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ให้หายไปด้วยถึงจะครบสูตร

6. จัดวางของในตู้เย็นอย่างเป็นระเบียบ

          เคยทานแอปเปิลกลิ่นเนื้อหมูสด ๆ กันไหมคะ ถ้าเคยแสดงว่าตู้เย็นในบ้านคุณจัดวางของอย่างไม่เป็นระเบียบ วางของแห้งให้สัมผัสไอของสด งั้นมาปรับเปลี่ยนจัดเรียงซะใหม่กันเถอะค่ะ อย่างเช่น ผักผลไม้ใช้ช่องที่มีฝาปิด ส่วนเครื่องปรุงอื่น ๆ ให้หากล่องที่มีฝาปิดมาใส่ให้เรียบร้อย เพื่อกันกลิ่นคาวของอาหารสดไปเกาะติดอาหารชนิดอื่น

7. แบ่งอาณาเขตในช่องแช่แข็งให้เข้าพวก

          เรามักจะแช่อาหารสดไว้ในช่องแช่แข็งเพื่อป้องกันการเน่าเสีย และเพื่อไม่ให้กลิ่นของอาหารแต่ละชนิดตีกันวุ่นวาย ฉะนั้นเราควรจะหาถุงซิปล็อกมาใส่วัตถุดิบสด เช่น เนื้อหมู เนื้อไก่ หรืออาหารทะเลแยกไว้ ส่วนอาหารทานเล่นก็แยกใส่กล่อง เพื่อไม่ให้กลิ่นไอความคาวไปเกาะตัวที่น้ำแข็ง และป้องกันเชื้อโรคที่จะตามมาอีกด้วย

8. จดลิสต์อาหารในตู้และหมุนเวียนออกมากิน

          บางครั้งก็ต้องยอมรับว่าซื้ออาหารมาแล้วลืมหยิบออกมากิน ปล่อยให้เน่าเสียอยู่ในตู่ จนกลายเป็นแหล่งเชื้อโรคที่หมุนวนเวียนอยู่ในตู้ ควรหากระดาษเขียนติดไว้หน้าตู้ว่าอาทิตย์นี้ซื้ออะไรมา และจะลงมือทำเมนูอะไรบ้าง ผลัดเปลี่ยนนำอาหารออกมากินก่อนมันจะหมดอายุ



9. อบน้ำกับมะนาวทำความสะอาดไมโครเวฟ

          หากเราไม่มีเวลาทำความสะอาดไมโครเวฟแบบจัดหนัก แนะนำให้ใช้น้ำเปล่าผสมน้ำมะนาวและเปลือก นำไปอบประมาณ 3 นาที แล้วทิ้งไว้ในไมโครเวฟ 5 นาที เพื่อให้ไอน้ำมะนาวกัดคราบอาหาร ที่กระเด็นติดอยู่ภายในให้เช็ดออกง่ายยิ่งขึ้น และอย่าลืมเปิดฝาตู้ระบายอากาศทิ้งไว้ก่อนจะใช้งานครั้งต่อไปด้วย

10. ปัดเกร็ดขนมปังตกค้างในเครื่องปิ้งขนมปัง

          เครื่องปิ้งขนมปัง ถึงจะเร็วทันใจแต่รู้ไหมว่าข้างในเครื่องอาจมีเชื้อราก่อตัวอยู่ก็ได้ เราต้องทำความสะอาดกำจัดเชื้อราบ้าง เพียงแค่นำแปรงมาปัดเศษขนมปังที่ติดค้างอยู่ภายใน ให้ร่วงลงไปในถาดรองแล้วเททิ้ง นำมาล้างและเช็ดให้สะอาดหมดจด

11. ปั่นน้ำยาล้างจานขจัดคราบในเครื่องปั่น

          สำหรับโถเครื่องปั่นจะให้มาล้วงลึกก็เสียวใบมีดบาดมือสวย ๆ หมด ถ้างั้นลองบีบน้ำยาล้างจานลงในโถ เติมน้ำเกือบครึ่งโถแล้วน้ำไปปั่น น้ำจะกระจายตัวไปสะบัดคราบตามซอกลึกให้หลุดออก แล้วค่อยนำไปล้างเขย่าน้ำอีกครั้งจนสะอาดเอี่ยม


12. ขัดครีมออฟทาร์ทาร์ ล้างคราบบนสเตนเลส

          เครื่องใช้ไฟฟ้าสเตนเลสนานวันเข้าก็ดูหมองลงไปบ้าง ดังนั้นลองมาคืนความใหม่ด้วยการผสมครีมออฟทาร์ทาร์กับน้ำเปล่าเล็กน้อยแล้วนำไปขัด เนื่องจากกรดเกลือที่สกัดจากเม็ดองุ่นในครีม จะไปกัดคราบแต่ไม่ทำลายพื้นผิวสเตนเลส ทำให้กลับมาสวยงามดังเดิม


13. น้ำสายชูล้างคราบและกลิ่นอับเครื่องชงกาแฟ

          กลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟในตอนเช้าทำให้เรารู้สึกสดชื่น จนอยากตื่นมาดื่มกันเลยทีเดียว แต่ถ้าดื่มไปแล้วรสชาติของกาแฟแก้วโปรดดันผิดไปจากเดิม แสดงว่าคุณไม่เคยทำความสะอาดเครื่องชงกาแฟอย่างจริงจังเลย รีบไปหยิบน้ำส้มสายชูมาผสมกับน้ำอุ่นอย่างละเท่า ๆ กันแล้วเทผ่านเครื่องระบบการทำงานของเครื่อง ให้น้ำส้มสายชูเข้าไปกัดกลิ่นและคราบกาแฟออก จากนั้นเทน้ำสะอาดให้ไหลผ่านซ้ำที่เดิมจนกว่ากลิ่นน้ำส้มสายชูจะหายไป


14. แช่แผ่นอบแห้งในถาดอบเพื่อลบคราบแข็ง

          การล้างถาดอบอาหารเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร เพราะเศษอาหารเกาะอยู่นั้นทั้งแห้ง แข็ง และเหนียว แต่ถ้าล้างแบบตามมีตามเกิดก็จะยิ่งอันตรายเข้าไปใหญ่ เศษอาหารที่หลงเหลือจะเป็นแหล่งก่อตัวของเชื้อโรคได้ดีเลยทีเดียว ดังนั้นให้นำถาดอบไปแช่น้ำ พร้อมกับหย่อนแผ่นอบแห้งลงไปด้วย ทิ้งไว้ 1 คืน คราบกรังก็จะล้างออกง่ายกว่าเก่าเยอะ

15. มะนาวสครับผิวเขียงให้เกลี้ยงเกลา

          ทุกคนคงรู้ดีว่าเขียงไม้หั่นอาหารนั่นสกปรกแค่ไหน ลองคิดดูว่าถ้าเราหั่นเนื้อดิบ ๆ หั่นผัก หั่นขนมปังบ้าง เชื้อโรคที่ก่อตัวจากเศษอาหารเน่า ๆ คงต้องติดไปกับอาหารที่เรากำลังจะทานอย่างแน่นอน ฉะนั้นควรจะล้างให้ถูกวิธีเพียงแค่ใช้โรยเกลือ และใช้มะนาวครึ่งซีกขัดให้ทั่วก่อนล้างน้ำสะอาด สุดท้ายทาน้ำมันพืชเคลือบผิวหน้าบาง ๆ เพื่อรักษารูปทรงเขียงไม้เอาไว้

16. ลับมีดให้คมก็ลดแบคทีเรีย

          ใครว่าแบคทีเรียและเชื้อโรค จะซุกซ่อนตัวอยู่แต่ในเขียงอย่างเดียวซะเมื่อไหร่ เจ้ามีดทื่อ ๆ นี่แหละตัวดีเลย เพราะเชื้อทั้งหลายมักจะเข้าไปกระจุกตัวอยู่ตามร่องมีดใน 1 สัปดาห์ ควรนำมีดทั้งหมดออกมาลับกับหินลับมีดให้คม เพื่อความสะอาดแล้วยังหั่นอาหารได้ง่ายขึ้นด้วย

17. รองถุงพลาสติกในถังขยะกันเปื้อน

          ถึงครัวคุณจะมีถังขยะอย่างดี แต่บรรดาน้ำขยะ เศษอาหาร หรือฝุ่นผงที่ไปรวมมิตรติดกันอยู่ตามซอกถัง จะก่อกลิ่นเหม็นให้อบอวลอยู่ในครัว หาถุงพลาสติกเหลือใช้ที่ได้จากการซื้อของมาสวมรองถังไว้ด้วย แต่ถ้าถังขยะเปื้อนแล้ว ให้ล้างด้วยน้ำที่ผสมเบกกิ้งโซดา ถังขยะก็จะสะอาดปลอดเชื้อและกลิ่นไม่อายใคร


18. จัดระเบียบตู้กับข้าวตามหมวดหมู่

          รู้ไหมว่าเพียงแค่จัดระเบียบตู้กับข้าวก็เท่ากับห่างไกลความสกปรกแล้ว ข้าวของเครื่องปรุงต่าง ๆ ที่วางอย่าไม่เป็นระเบียบ อาจจะหกเลอะเทอะขณะรีบปรุงอาหาร ดังนั้นควรจะจัดเรียงซะใหม่ว่าเครื่องปรุงใดใช้บ่อยที่สุด วางให้อยู่ในตำแหน่งที่หยิบจับง่ายเป็นหมวดหมู่ เช่น น้ำตาล เกลือ พริกไทย หรือจะเป็นน้ำปลา ซอสปรุงรส และน้ำมันหอย อาจจะเพิ่มฟังก์ชั่นแยกโซนอาหารเช้า กลางวัน ไปจนถึงเย็น ด้วยก็ดีเพื่อความสะดวกในยามเร่งรีบ

19. แยกโซนอุปกรณ์ทำความสะอาดปราศจากสารพิษ

          ร้อยแปดข้ออ้างที่ว่าบ้านแคบ ไม่มีเวลา หรือความสะดวก ในการวางอุปกรณ์ทำความสะอาดไว้ปะปนกับสิ่งของอื่น ๆ ภายในบ้าน เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำอย่างแรง เพราะไอระเหยจากน้ำยาเหล่านั้นจะไปเกาะจับตามอาหาร หรือสิ่งของ เผลอ ๆ คุณอาจจะต้องสูดดมเข้าไปด้วยซ้ำ ควรมองหาตู้ว่าง ๆ อย่างใต้อ่างล้างจานมาติดราวเพื่อแขวนอุปกรณ์ให้เป็นระเบียบ อยู่ในที่ที่มิดชิด ลดการระเหยของสารเคมี


20. แยกประเภทเครื่องเทศใส่ขวดโหล

          บ้านไหนชอบทำอาหารก็ต้องมีเครื่องปรุงและเครื่องเทศรสเด็ดเก็บไว้เป็นเรื่องธรรมดา ฉะนั้นการจัดระเบียบเครื่องเทศแต่ละชนิดก็เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน เพราะความแห้งของเครื่องเทศแต่ละชนิด ที่มาอยู่รวมกันเป็นตัวล่อเชื้อราได้ดีเลยทีเดียว เราต้องหาขวดโหลมาใส่แยกเครื่องเทศแต่ละชนิด และติดป้ายชื่อบอกไว้ให้หยิบถูกกันด้วยนะคะ

21. ติดบอร์ดไม้ในตู้กับข้าวเพื่อจดบันทึก

          วิธีการจดบันทึกไม่จำเป็นต้องใช้กับห้องทำงานอย่างเดียว ในห้องครัวก็สำคัญอยู่ไม่น้อย ไหนจะเครื่องปรุงหลากชนิดที่ต้องใช้ไปและซื้อเข้ามา และยังสามารถจดบันทึกอายุของอาหารเครื่องปรุงแต่ละชนิดว่าจะหมดอายุเมื่อไร เพื่อกันลืมได้ด้วย

22. วางแก้วซ้อนระหว่างถาดหยุดน้ำขัง

          หลังล้างจานควรจะจัดเก็บและแยกหมวดหมู่ให้เข้าที่ และไม่ควรค่ำแก้วน้ำวางซ้อนกันเพราะจะทำให้น้ำจากการล้างแก้วขังอยู่ในช่องว่างระหว่างแก้ว และส่งกลิ่นอับเกิดเชื้อแบคทีเรีย แนะนำให้ค่ำแก้วเรียงไปก่อน 1 ชั้น และวางถาดทับก้นแก้วอีกทีเพื่อจะค่ำแก้วในชั้นต่อไปจะดีกว่านะคะ

23. ทำบอร์ดสำหรับแขวนเครื่องครัวกันเชื้อรา

          เชื่อไหมว่าแค่การจัดเก็บเครื่องแบบเดิม ๆ ก็พาเชื้อรามาให้ได้เช่นกัน เมื่อล้างเครื่องครัวเสร็จแล้วไม่ควรเก็บเข้าตู้ทันทีให้เชื้อรายิ้มหวาน หาผ้ามาเช็ดแห้งซะก่อนก็จะดี แต่หากใครที่ไม่ค่อยมีเวลาเหลือพอที่จะมานั่งเช็ดเครื่องครัวให้แห้งกริบ ก็คงต้องหาบอร์ดที่ใช้แขวนโดยเฉพาะมาติดในครัว เพื่อแขวนเครื่องครัวหลังจากล้างเรียบร้อย ให้ตากอากาศไล่เชื้อราไปในตัว

24. ถูไอน้ำลงพื้นก่อนกวาดกันฝุ่นฟุ้ง

          ขั้นตอนกวาดแล้วถูที่หลายคนคุ้นเคย ก็ไม่ได้ช่วยให้บ้านสะอาดอยู่ดี ฝุ่นแห้ง ๆ น้ำหนักเบาที่โดนเรากวาด จะลอยฟุ้งอยู่ในอากาศรอการวนตกลงมาเกาะที่พื้นอีกครั้ง ฉะนั้นเราควรถูด้วยไม้ถูพื้นแบบไอน้ำจะทำให้ฝุ่นมีน้ำหนักไม่ลอยตัว แถมคราบที่เช็ดออกยากจะค่อย ๆ หลุดคลายตัวออก เมื่อเรากวาดและถูพื้นก็จะสะอาดของจริงเลยทีนี้

25. หมั่นเปลี่ยนผ้าเช็ดอเนกประสงค์ในครัว

          การทำครัวกับผ้าเช็ดอเนกประสงค์ 1 ผืน ก็เอาเชื้อโรคไม่อยู่หรอกนะ ไหนจะเช็ดมือ เช็ดจาน หรือเช็ดเขียง เหมือนจะสะอาดที่แท้ความสกปรกกลับถูกปาดไปทั่ว แค่จัดหาผ้าไว้เป็นชุดของแต่ละวันเลยว่าใช้กับอะไรบ้าง เช่น เช็ดจานที่ล้างแล้ว เช็ดมือ หรือเช็ดคราบอื่น ๆ และควรผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนนำไปซักทำความสะอาดทุกวัน


26. เบกกิ้งโซดากำจัดกลิ่นเหม็น

          ไม่ใช่แค่สิ่งของเท่านั้นที่เราต้องทำความสะอาดให้ล้ำลึก เพราะอากาศในครัวก็ต้องบริสุทธิ์แบบล้ำลึกเช่นกัน ลองมาทำเครื่องหอมกำจัดกลิ่นใช้เองจะดีกว่า เพียงแค่นำเบกกิ้งโซดา และหยดน้ำหอมกลิ่นที่เราชอบใส่ขวดโหลที่มีฝาปิดแบบเจาะไว้ วางไว้ตามบริเวณที่ส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์บ่อยเท่านี้ก็สดชื่นแล้ว

27. น้ำยาขัดลบรอยเซรามิก

          จานชามเซรามิกที่ผ่านการใช้งานมายาวนาน ต่างก็มีรอยขีดข่วนให้กวนใจ สีไม่สดใสไม่เหมาะที่จะใส่อาหารรับแขกจริง ๆ ไม่ต้องยกเซตซื้อจานชามใหม่ให้เปลือง แค่หาซื้อน้ำยาขัดลบรอยเซรามิกมาขัดออก รอยนั้นจะค่อย ๆ จางหายไป

28. แยกตะกร้าเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดครัว

          แม้ว่าครัวจะเป็นส่วนหนึ่งของบ้าน ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดอันเดียวกันทั้งบ้านได้ เพราะเคมีเข้มข้นในน้ำยาทั่วไปอาจจะระเหยไปจับตัวที่อาหารหรือเครื่องครัว ฉะนั้นเราต้องหาซื้ออุปกรณ์แยกไว้ และจัดเก็บไว้ในตะกร้าให้เป็นของครัวไปเลย

29. เช็ดล้างเครื่องดูดควันลดการอุดตัน

          เพื่อสุขลักษณะของบ้านที่ดี เราจึงจำเป็นที่จะต้องติดเครื่องดูดควันอาหารไว้ และเมื่อลองส่องดี ๆ เราจะเห็นคราบเหนียว ๆ จากควันอาหารเกาะติดแน่ ทำให้ครัวดูหมองไม่น่ามองขึ้นมาเลย เพื่อไม่ให้ครัวสกปรกมาไปกว่านี้ ต้องผสมน้ำอุ่นกับน้ำยาล้างจานแล้วเช็ดทุกซอกทุกมุมของเครื่องดูดควันให้เกลี้ยง ที่สำคัญต้องถอดฟิลเตอร์ออกมาล้างทุกสัปดาห์ เพื่อป้องกันการอุดตัน

30. ทำความสะอาดหม้อหุงข้าวทุกสัปดาห์

          หม้อหุงข้าวที่ว่าปลอดภัยเรื่องไฟฟ้า ยังไม่น่ากังวลเท่าเรื่องความสะอาด ถ้าลองหมุนหม้อดูให้ดีคุณจะเห็นช่องรองน้ำหยด และเจ้านี่แหละที่เพาะเชื้อรานำพาแบคทีเรียมาได้ดีเลยทีเดียว แม้กระทั่งฝารองหม้อชั้นในอีก ภายใน 1 สัปดาห์ เราต้องถอดช่องกรองน้ำกับฝารองออกมาล้าง และใช้ผ้าหมาด ๆ เช็ดตามรูน้ำ ขอบฝาหม้อทั้งด้านนอกและในให้สะอาด ปราศจากการทานเชื้อโรคเป็นอาหารด้วยนะคะ



          งานนี้เชื้อโรคและความสกปรกมีร้อน ๆ หนาว ๆ บ้างแล้วล่ะ อย่าปล่อยให้ครัวของคุณโดนคุกคามอยู่ฝ่ายเดียว ดังนั้นควรจะลองเอาวิธีเจ๋ง ๆ ที่เรานำมาฝากกันไปใช้กับครัวที่บ้านดู จะได้ปราบคราบสกปรกให้เกลี้ยงไปเลย

ที่มา : kapook.com
( วันที่ 11 พฤษภาคม 2558 )
ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์
เราสร้างบ้านเพื่ออนาคต

Line