หน้าแรก / สาระน่ารู้ / เกร็ดความรู้
เกร็ดความรู้
หน้าแรก / เกร็ดความรู้

โลกใบใหม่ภายใต้ร่มเงาไม้ “ครอบครัวศรีโรจนันท์”

Line

โลกใบใหม่ภายใต้ร่มเงาไม้ “ครอบครัวศรีโรจนันท์”

Line

  

        ต้นก้ามปูต้นใหญ่เร่งแผ่กิ่งก้านสาขาปกคลุมพื้นที่ราวกับเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัว ปกป้องไม่ให้แสงแดดส่องผ่านเข้ามาภายในบ้าน ซึ่งนั่นก็คงเป็นความภาคภูมิใจของผู้เป็นเจ้าของยิ่งนัก เพราะเจ้าต้นก้ามปูต้นใหญ่นี้ถูกเพาะเลี้ยงเอาไว้ก่อนที่จะสร้างบ้านหลังนี้เสียอีก และยิ่งเมื่อบ้านหลังงามหลังนี้แล้วเสร็จต้นไม้สีเขียวถูกนำเข้ามาแต่งเติมจนเต็มพื้นที่ ทำให้ทั่วบริเวณบ้านดูร่มรื่นมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที 

        ภายในอ้อมกอดของต้นไม้น้อยใหญ่ที่อยู่รายล้อม บ้านสไตล์ยุโรปสีขาวหลังใหญ่ของคุณรัตนพงศ์  ศรีโรจนันท์ ผู้บริหารหนุ่ม บริษัทสหไทยพัฒนภัณฑ์ จำกัด ผู้ผลิตสินค้าแบรนด์คาร์สัน กับคุณสิริพร ศรีโรจนันท์ ผู้เป็นภรรยา พร้อมลูกน้อยวัยน่ารักอย่างน้องรดาและน้องคีรี ช่างดูโดดเด่นยิ่งนัก ราวกับเป็นโลกส่วนตัวที่ถูกเนรมิตขึ้น

        “บ้านหลังนี้ถูกสร้างขึ้นบนที่ดินที่คุณพ่อซื้อไว้เพื่อให้ลูกๆมาปลูกสร้างบ้านอยู่ร่วมกันในหมู่บ้านเดียวกัน โดยที่ดินแปลงนี้ผมนำต้นก้ามปู 2 ต้นมาปลูกไว้ก่อนที่จะสร้างบ้านประมาณ 5 ปี ซึ่งตอนนั้นยังอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ แต่พอผมแต่งมีมีครอบครัวก็อยากมีบ้านสำหรับครอบครัวของเราก็เลยมาสร้างบ้านหลังนี้ขึ้น ซึ่งตอนแรกเลยก็เลือกแบบบ้านอยู่หลายแบบ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเลือกเป็นแบบสไตล์ยุโรปเพราะให้ความเป็นส่วนตัว ผสานกับการใช้กระจกบานสูง เพื่อให้แสงส่องผ่านและสามารถชื่นชมกับธรรมชาติภายนอกได้”

        สำหรับการออกแบบภายในนั้นได้วางคอนเซ็ปต์ไว้ว่าอยากให้อยู่แล้วอบอุ่นออกแนวเอิร์ธโทน ดูแล้วสบายตา น่าอยู่ดี โดยแต่ละพื้นที่สามารถใช้งานได้อย่างเหมาะสม ในส่วนของพื้นที่ชั้นล่างถูกออกแบบให้มีระยะความสูงจากพื้นถึงฝ้ามากเป็นพิเศษทำให้บ้านดูโปร่ง โล่ง สะดุดตาโถงหน้าบ้านใช้โทนสีดำ ตกแต่งด้วยภาพวาดของอาจารย์ ถวัลย์ ดัชนี เชื่อมต่อกับห้องรับแขกที่ออกแบบให้มีเพดานสูง ตกแต่งด้วยกระจกรอบด้านสามารถมองเห็นสวนสไตล์ทรอปิคอลด้านนอกได้อย่างสบายๆ 


 
    
 

        นอกจากนี้ยังมีห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องทานอาหาร ห้องของเล่น ห้องเก็บของใต้บันได และห้องน้ำ 2 ห้อง  ส่วนพื้นที่ชั้นบนนั้นถูกออกแบบให้มีโถงกว้าง พร้อมห้องนอน 3 ห้องที่มีห้องน้ำในตัว ซึ่งการตกแต่งจะใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นเพื่อให้ห้องดูโปร่งโล่งพื้นปูด้วยไม้สีดำ ยกเว้นห้องนอนลูกสาวที่เป็นสีธรรมชาติ และทุกห้องจะมีระเบียงส่วนตัว

        “ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่าบ้านหลังนี้เน้นใช้วัสดุหลักอยู่ 2 ชนิด คือไม้ เพราะไม้เป็นของมีค่า ซึ่งมูลค่าของมันไม่มีลด มีแต่จะเพิ่มขึ้นอยู่เรื่อยๆเหมือนเราเก็บของที่มีมูลค่าไว้ภายในบ้านนอกจากนี้ด้วยลวดลายของตัวมันเองก็มีเสน่ห์ดึงดูดใจด้วย ส่วนวัสดุอีกชิ้นก็คือกระจก เพราะกระจกทำให้บ้านดูกว้างขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถชื่นชมกับธรรมชาติด้านนอกได้อีกด้วย ” คุณรัตนพงศ์ อธิบายรายละเอียดพร้อมเพิ่มเติมว่า  ตอนแรกที่เห็นโครงสร้างผมมีความรู้สึกว่าทำไมมันใหญ่ขนาดนี้ มันมากกว่าที่เราคิดไว้ในกระดาษเสียอีก ซึ่งวันแรกที่ย้ายเข้ามาอยู่ เรารู้สึกว่ามันยังไม่ 100% เพราะของตกแต่งของใช้ต่างๆก็ยังไม่ครบซึ่งเราเองก็ค่อยๆแต่งเติมไปเรื่อยๆ  อีกอย่างเราเองก็รู้สึกว่ามันยังไม่คุ้นชินด้วย แต่ปัจจุบันผมบอกได้เลยว่ามีความสุขและอุ่นใจมากกับบ้านหลังนี้

 
    

 

        เพราะความต้องการที่จะมีบ้านไม่เหมือนคนอื่นสถาปนิกจึงมีส่วนสำคัญในการออกแบบ ซึ่งเราเองก็ได้ให้ข้อมูลกับสถาปนิก บอกถึงความต้องการให้ทราบ แม้กระทั่งในเรื่องของสีที่ใช้ก็คงต้องดูคุณสมบัติของสีด้วย เพราะสีที่เราเลือกนั้นจะช่วยลดภาระในการดูแลด้วยอย่างสีขาวที่ใช้ทาภายนอกก็เป็นสี TOA ซุปเปอร์ชิลด์ ที่มีโมเลกุลไททาเนียมพิเศษที่ผ่านการเคลือบเสริมความแข็งแกร่งถึง 3 ชั้น เสมือนเกราะปกป้องบ้าน ซึ่งทำความสะอาดตัวเองได้ สลายฝุ่นและคราบที่เกาะบนแผ่นฟิล์มสีได้ด้วยฝนธรรมชาติ (หรือการฉีดล้างด้วยน้ำ) สีจึงสวย สะอาด โดยไม่ต้องเช็ดทำความสะอาด ส่วนสีที่ใช้ทาภายในก็เลือกเป็นสี TOA ซุปเปอร์ชิลด์ ดูราคลีน สีอะครีลิค เช็ดล้างคราบสกปรกได้ง่ายแม้คราบที่เช็ดออกยาก ทนทานต่อการเช็ดถู ไม่ทิ้งรอยด่างหลังจากเช็ดคราบสกปรก และมีความปลอดภัยต่อผู้อยู่อาศัยและสัตว์เลี้ยง ซึ่งตรงนี้ก็เป็นเรื่องที่เราต้องให้ความสำคัญด้วย

        เพราะบ้านคือที่อยู่อาศัยของครอบครัว และมีความเป็นส่วนตัวมากที่สุด เมื่อใดก็ตามที่เรารู้สึกเหน็ดเหนื่อย ท้อแท้เพียงแค่เราก้าวเข้าสู่บริเวณบ้าน ความรู้สึกเหล่านั้นมันหมดไป ความสบายใจหรือความสุขจะกลับเข้ามาแทนที่ทันที ซึ่งมันก็เหมือนเป็นโลกใบเล็กของเราและครอบครัวก็ว่าได้
ที่มา : นิตยสารโฮม แอนด์ รีสอร์ต
 
ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์
เราสร้างบ้านเพื่ออนาคต

Line