หนึ่งในจำนวนความสุขของชีวิตที่มีอยู่น้อย ก็คือ การมี “บ้านแห่งความภาคภูมิใจ” ไว้สำหรับผ่อนคลายความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าจากหน้าที่การงาน บ้านสไตล์โมเดิร์นหลังนี้ นอกจากสะท้อนความเป็นตัวตนเจ้าของบ้านได้อย่างเต็มเปี่ยมแล้ว ยังบอกเล่าเรื่องราวชีวิต และตอบไลฟ์สไตล์ รวมถึงแรงบันดาลของคุณคุณธนวรรณ กล่ำกล่อมจิตต์ หรือคุณแบ๋ม ได้เป็นอย่างดี

 

    

 

 

        ถึงจะเป็นคนหัวหินโดยกำเนิด แต่คุณธนวรรณ ล่ำกล่อมจิตต์ หรือคุณแบ๋ม เจ้าหน้าที่สหประชาชาติ โครงการส่งเสริมความร่วมมือในการปราบปรามการก่อการร้ายในภูมิภา เอเชีย และแปซิฟิก ก็ยังไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง ทุกครั้งที่กลับบ้านเกิด เธอ และสามี เลือกที่จะค้างที่บ้านคุณพ่อคุณแม่ หรือโรงแรมที่มีให้เลือกมากมายริดชายหาด

        เมื่อการเดินทางไปพักผ่อนที่หัวหิน ไม่สะดวกสบายเหมือนได้ผ่อนคลายในบ้านของเธอเอง คุณธนวรรณ และสามี จึงตัดสินใจสร้างบ้านหลังแรก บนเนื้อที่ 200 ตร.ว. ด้วยหวังว่าบ้านหลังนี้จะเป็นบ้านที่ช่วยเติมเต็มชีวิตครอบครัว ในวันที่ปลอดจากงาน  แทนที่จะเป็นอย่างที่เธอ และสามีหวัง ทุกอย่างกลับพังทะลายลง เพราะสิ่งที่เสียเงินสร้างไม่สามารถเรียกว่า “บ้านในฝัน”ได้ หลังปล่อยเป็นบ้านเช่าระยะหนึ่ง สุดท้ายทั้งคู่จึงตัดสินใจทุบบ้านหลังแรกของตัวเองทิ้ง ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่สามารถอยู่ในบ้านที่รู้สึกผิดหวังได้อีกต่อไป คุณธนวรรณสรุปบทเรียนราคาแพงนั้นว่ามาจากการตัดสินใจที่ผิดพลาด ขาดการวางแผนที่ดี  ไม่ได้ให้ความสำคัญในขั้นตอนการเลือกสถาปนิก และผู้รับเหมา ของเธอเอง

 

    
 

        คุณแบ๋ม เผยสาเหตุที่ยังยืนจะสร้างบ้านที่บ้านเกิดของเธอเพื่อให้เป็นบ้านที่สามารถพักผ่อนได้อย่างแท้จริง ทั้งๆที่ที่หัวหิน ก็มีบ้านคุณพ่อคุณแม่ และที่กรุงเทพฯก็มีบ้าน และคอนโดฯ อยู่แล้วว่า “แบ๋มเป็นคนหัวหินค่ะ พ่อ แม่ พี่ น้อง อยู่หัวหินกันหมดเลย ก่อนที่จะมีบ้านหลังนี้ หรือหลังที่สั่งทุบ เวลาแบ๋มกลับไปหัวหิน แบ๋มก็จะอยู่บ้านคุณแม่บ้าง บ้านคุณพ่อบ้าง ไม่ได้มีหลักแหล่งที่สามารถอยู่ได้เป็นเรื่องเป็นราว เวลาไปอาศัยพ่อแม่อยู่ ก็เลยรู้สึกว่าไม่ได้รีเล็กซ์เท่าที่ควร จากนั้นจึงค่อยๆหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต จนกระทั่งแฟนได้ติดต่อพูดคุยกับ “คุณป๊อก-วชิรศักดิ์ มณีวัฒนาพฤกษ์” ซึ่งเป็นสถาปนิกผ่านโลกโซเชียล”

        หลังคุยเบื้องต้น และมีโอกาสได้ดูผลงานจริง คุณธนวรรณ จึงตัดสินใจให้คุณป๊อกออกแบบบ้านในฝันให้ภายใต้โจทย์ที่ว่า บ้านหลังไม่ใหญ่ ปลอดโปร่ง สามารถเปิดรับแสง รับลม ที่สำคัญบ้านหลังนี้ไม่ต้องใช้แอร์ ไม่ต้องใช้ไฟโดยไม่จำเป็น และต้องไม่หวือหวา แต่ขอให้มีฟังก์ชั่นในการใช้สอยครบถ้วน


 

    

 

        เมื่อความต้องการที่สื่อสารให้กับสถาปนิก และช่างก่อสร้างชัดเจน บ้าน 2 ชั้นสไตล์โมเดิร์น-ลอฟท์ หลังคาฟากไม้ไผ่ สูงโปร่ง หันหน้ารับลมทะเล สะท้อนความเป็นตัวตนของผู้ที่เป็นเจ้าของได้อย่างโดดเด่น และแตกต่าง โครงสร้างภายนอกส่วนใหญ่เน้นคอนกรีต เหล็ก และกระจกบานใหญ่ ที่คุณแบ๋ม และสามีชาวต่างประเทศบอกว่ารักมากที่สุดก็สำเร็จด้วยดี

        ทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ หรือวันว่าง เธอจะใช้พื้นปูนเปลือยที่ถูกยกจากพื้นดินกว่า 70 เซนติเมตร ส่วนหน้าบ้าน ซึ่งเพียงแค่ผลักกระจกบานใหญ่ออกก็สามารถคอนเนกกับโซนที่เป็นห้องรับแขก และห้องครัว ขนาดกะทัดรัด ซึ่งตกแต่งอย่างเรียบง่ายพร้อมฟังก์ชั่นการใช้สอยครบครัน เป็นทั้งที่กินข้าว เอนกายรับลมทะเล กับครอบครัว และกลุ่มเพื่อน

        “บ้านหลังนี้มีลักษณะพิเศษ ตรงที่ส่วนข้างในตัวบ้าน กับลานข้างนอก เป็นพื้นที่เดียวกัน เพราะฉะนั้นเวลาเราอยู่บ้าน ประตูจะถูกเปิดกว้าง เพื่อรับลมเย็นๆได้ตลอดทั้งวัน ส่วนใหญ่เราจะใช้สอยพื้นที่ระหว่างวันบนโซฟา ชั้นล่างหลักๆก็ถูกใช้เป็นที่นั่งเล่น เรียกว่าตั้งแต่ในส่วนโซนนั่งเล่น ไปจนถึงลานหน้าบ้านเลยทีเดียว ส่วนโซนรับประทานอาการ ก็มีโต๊ะกินข้าว และเคาน์เตอร์ ที่พิเศษกว่านั้นคือไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของตัวบ้าน ก็สามารถเชื่อมโยงถึงกันได้หมด อย่างคนที่อยู่ชั้นสอง ก็สามารถมองผ่านตะแกรงเห็นคนที่อยู่ข้างล่างได้เช่นเดียวกัน

        สไตล์การตกแต่งแบ๋มกับแฟนเป็นคนเลือกทั้งหมดค่ะ เราเน้นความเรียบง่าย จะเห็นได้ว่าของตกแต่งเล็กๆน้อยๆ อย่างพรม ก็มาจากจากบ้านที่กรุงเทพฯบางชิ้นแฟนแบ๋ม ซื้อสะสมๆไว้อยู่แล้วจากการเดินทางไปต่างประเทศ เราก็จะนำมาแต่งบ้าง ไม่ได้ซื้ออะไรเป็นพิเศษ ความจริงน่าเรียกว่าเป็นการย้ายของตกแต่งที่มีความทรงจำจากบ้านหลังเก่ามาอยู่บ้านหลังใหม่มากกว่าค่ะ”

        เมื่อก้าวผ่านบันไดที่หล่อโดยช่างฝีมือดี คุณสมปอง ศรีสะอาด ก็ทำให้ขยับเข้าใกล้ความเป็นโมเดิร์น ที่มากเสน่ห์มากขึ้น  ถึงวัสดุหลักที่เลือกใช้จะเป็นตะแกรงเหล็กยาวตลอดตัวบ้าน เชือกเส้นใหญ่ ที่พบเห็นได้ทั่วๆไป ถูกนำมาเป็นม่าน แต่เมื่อนำปะติดปะต่อโดยสถาปนิก และช่างที่มีฝีมือ ก็สะท้อนรสนิยมผู้อยู่อาศัยได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะในส่วนห้องนอนที่ถูกออกแบบ และตกแต่งเพื่อให้เหมาะกับวันพักผ่อนโดยแท้จริง

        ช่วงวีคเอนต์ถ้าไม่ได้มีธุระอะไร วันศุกร์หลังเลิกงานคุณแบ๋ม และสามี จะขับรถกลับบ้านที่หิวหิน บ้านที่เธอได้แรงบันดาลใจมาจากการเดินทาง และจะขับรถกลับเข้ากรุงเทพฯเย็นวันอาทิตย์เพื่อเข้าทำงานตามปกติ “มีความสุขค่ะ มีความสุขมาก ตอนนี้แบ๋มมั่นใจว่าแบ๋มเป็นคนหัวหิน เต็มตัวเสียที เพราะตั้งแต่เกิดมานี่เป็นครั้งงแรกที่เรียกได้ว่ามีบ้านอยู่ที่หัวหินเป็นของตัวเองค่ะ” คุณแบ๋ม –ธนวรรณ บอกเล่าค่ำคืนแรก ที่ได้หลับตาภายใต้ชายคาบ้านของเธอด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม