หน้าแรก / สาระน่ารู้ / เกร็ดความรู้
เกร็ดความรู้
หน้าแรก / เกร็ดความรู้

PEARL OF ANDAMAN

Line

PEARL OF ANDAMAN

Line
สิ่งสำคัญสำหรับการท่องเที่ยวบนหาดทราย คงหนีไม่พ้นสภาพแวดล้อมสมบูรณ์ ผู้คนเป็นมิตรและที่สำคัญปลอดภัยจากจากความโกลาหล ซึ่งทั้งหมดยังคงเป็นคุณสมบัติของเกาะภูเก็ตเจ้าของฉายา “ไข่มุกอันดามัน” และ”กรีนโซน
 


THE BEACH

จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่มาเหยียบแดนไข่มุกอันดามันแห่งนี้ คงหนีไม่พ้นการได้มานอนอาบแดด เท้าแตะทรายเนื้อละเอียดและแหวกว่ายน้ำทะเลสีฟ้าสดใสที่ลกล่าวมาทั้งหมดสามารถไปเที่ยวเยี่มชมได้ที่หาดมากมายในจังหวะนี้ไม่ว่าจะเป็นหาดราไวย์ หาดป่าตอง หาดกมลา หาดตะกะ และอื่นๆอีกมากมาย

อย่างพื้นที่ที่ทางทีมงานได้ลงไปสัมผัสคือ “หาดกะรม” เป็นหาดที่ออกห่างจากตัวเมืองประมาณ 20 กิโลเมตร สภาพแวดล้อมนับว่าอยู่ในเกณฑ์สมบูรณ์ นักท่องเที่ยวนิยมมานอนอาบแดดกันจนเต็มหาด ความสะอาดอยู่ในเกณฑ์ดีเพราะมีพนักงานคอยดูแลและมีการออกกฎต่อร้านอาหารที่ค้าขาย ว่าต้องมีการจัดเก็บจานกระดาษและเศษอาหารให้เรียบร้อย ส่งผลให้หาดนี่มีสภาพสมบูรณ์เกือบ 100% (แต่ถ้าให้ดี ควรจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวจะดีมากๆ)กิจกรรมรอบหาดก็มีให้เลือกเล่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เจ็ทสกี บาน่าน่าโบ๊ท พาราเซลลิ่ง หรือ การดำน้ำดูปะการังก็ยังมีให้บริการอยู่ด้วยเช่นกันและถึงว่า ยามค่ำคืนของหาดกะรนจะปลอดสถานบันเทิงอย่างหาดป่าตอง แต่ก็ถูกทดแทนด้วยความสมบูรณ์ทางธรรมชาติไม่แพ้ที่ไหนๆ ดังนั้นหากกำลังมองหาชายหาดนอนตากแดดผักผ่อนรับลมทะเล “กะรน” ก็ถือเป็นจุดที่น่าสนใจทีเดียว การเดินทางก็ไม่ยากเพราะรอบเมืองภูเก็ตก็มีป้ายบอกทางมาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้วจึงขอสรุปอย่างฟันธงว่าหากแห่งนี้เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งที่จะมาพักผ่อนและไม่ต้องการวุ่นวายเท่าใดนักหากเทียบกับหาดป่าตอง


PROMTEP CAPE

หากเปรียบจังหวัดภูเก็ตเป็นเหมือนใบหน้าของมนุษย์เราแล้ว “แหมลพรหมเทพ” ก็คงเหมือนกับสันจมูกที่โด่งขนาดที่ว่าทำใหห้เป็นใบหน้าดูมีมิติได้เลยทีเดียว นักท่องเที่ยวทุกคนที่ได้มาสัมผัสที่แห่งนี้มีต้องหลงเสน่ห์มายาของปลายแหลมที่ยื่นออกมาเป็นโขดหินให้ได้เดินออกมาชมวิวได้ไกลสุดลูกหูลูกตา แลเห็นน้ำทะเลสีเขียวมรกตและเกาะแก้วที่อยู่ข้างๆแหลมอย่างชัดเจน

ไฮไลท์ที่สำคัญของการเที่ยวแหลมพรหมเทพที่จะขาดไม่ได้ก็คือ การชมพระอาทิตย์ตกดินในช่วงเวลาตั้งแต่ 5 โมงเย็นเรื่อยไปจนถึง 1 ทุ่ม ภาพพระอาทิตย์ตกที่สะท้อนผิวน้ำจนเป็นสีส้มแดงสด มองเท่าไหร่ก็ไม่รู้สึกเบื่อ เหมาะแก่การบันทึกความทรงจำอย่างมากและยิ่งพื้นที่ของแหลมพรหมเทพมีมุมกล้องทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพได้โชว์ฝีมือหลากหลายด้วยแล้ว ยิ่งทำให้มีนักท่องเที่ยวนิยมมาเก็บภาพกันวันละไม่ต่ำกว่า 200 คน แหลมพรหมยังมี “ประภาคารกาญจนภิเษก” ที่สร้างขึ้นในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี

ด้วยความสูง 50 ฟุต และแสงไฟที่ส่องจากประภาคารยังส่องได้ไกลถึง 39 กิโลเมตรทีเดียว ภายในประภาคารมีการแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับการสร้าง การคำนวนเวลาพระอาทิตย์ขึ้นและลงอีกด้วย

นอกจากนี้แหลมพรหมเทพยังเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรเขตอุดดมศักดิ์ ที่ชาวภูเก็ตและนักท่องเที่ยวนิยมมากราบไหว้สักการะกัน ขึ้นชื่อเป็นอย่างมากในความศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่ยึดเหนี่ยวใจชาวภูเก็ตมาช้านาน การเดินทางก็ถือว่าไม่ไกลอยู่ห่างจากหาดราไวย์ไปประมาณ 2 กิโลเมตร เท่านั้นเอง


BIG BUDDHA IMAGE
 
ในภูเก็ตหากลองมองขึ้นไปและสังเกตุยอดเขาที่สูงที่สุด (ยอดเขานาคเกิด) เราจะได้เห็นพระพุทธรูปองค์สีขาวประดิษฐานอยู่จนเป็นจุดสังเกตุและข้อสงสัยของนักท่องเที่ยวว่า พระองค์นี้มีนามว่าอะไรและทำไมถึงได้ดูยิ่งใหญ่ขนาดนี้

คำตอบก็คือ องค์พระพุทธรูปมิ่งมงคลเอกเป็นพระประธานของวัดกิตติสังฆาราม (วัดกะตะ) เป็นศิลปะแบบร่วมสมัย ขนาดหน้าตักกว้าง 25.45 เมตร ความสูง 45 เมตร โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ประดับผิวด้วยหินอ่อนหยกขาวจากพม่าน้ำหนักเฉพาะหินอ่อนหยกขาวประมาณ 135 ตัน หรือประมาณ 2,500 ตารางเมตร ใช้งบประมาณในการสร้างราว 30 ล้านบาทเริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 จนมาถึงวันนี้ยังคงไม่แล้วเสร็จเพราะอยู่ในขั้นตอนการประดับตกแต่ง ซึ่งคิดว่าอีกไม่นานก็น่าจะเสร็จสมบูรณ์

“องค์พระพุทธมิ่งมงคลเอกคีรี” ถือว่เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของชาวภูเก็ตอีกด้วย ทุกๆวันจะมีคนมาสักการะไม่ต่ำกว่า 200 คนแน่นอน

ทางขึ้นมาบนเทือกเขานาคเกิดนี้ได้ต้องผ่านโค้งอันตรายมากมายกว่าจะถึง ซึ่งก็เป็นเหมือนการพิสูจน์ความตั้งใจจริงใจการเดินทางมาสักการะ

นอกจากองค์พระที่ควรค่าแก่การขึ้นมาสักการะแล้วในบริเวณโดยรอบฐาน360 องศา ยังเป็นจุดชมวิวที่น่าสนใจอีกจุด เราจะได้เห็นภูเก็ตในมุมที่สูงที่สุด เหมาะเป็นอย่างยิ่งในการเก็บภาพเป็นที่ระลึก รวมทั้งบริเวณโดยรอบยังมีองค์พระอีกมากมายให้ชาวพุทธอย่างเราได้กราบไหว้สักการะอีกด้วย


CHALONG TEMPLE

หากพูดถึงความศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวภูเก็ตให้ความเคารถสักการะหนีไม่พ้น “พระหลวงพ่อแห่งวัดฉลอง” เหรียญและเครื่องรางของหลวงพ่อต่างก็เป็นที่ต้องการของเซียนพระและยิ่งพระพุทธรูปหล่อขององค์หลวงพ่อด้วยแล้วยิ่งได้รับความสนใจในการมาติดทองเสริมมงคล จนตัวองค์พระเป็นสีทองเหลืองอร่ามมาเป็นเวลาช้านาน

ตามประวัติ “วัดฉลอง” ถือได้ว่าเก่าแก่เป็นอย่างมาก จนไม่มีประวัติต้นกำเนิดที่แน่ชัด  ทราบแต่เพียงว่าตั้งอยู่ในทุ่งนา ป่านละเมาะ ตามหลักฐานที่ปรากฎมีศาลาเก่าแก่อยู่หลังหนึ่งทางด้านทิศตะวันออก(ของวัดในปัจจุบัน) ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานขององค์พระปฏิมา จากสภาพขององค์ท่านนับว่าเป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นมาช้านานแล้ว จนไม่อาจคำนวนอายุที่แน่นอนได้ชาวบ้านฉลองและคนทั่วไปเรียกท่านว่า “พ่อท่านเจ้าวัด” ด้านซายของพระองค์ท่านมีรูปหล่อของชายชรานั่งถือตะบันหมาก ชาวบ้านเรียกว่า “ตาขี้เหล็ก” ส่วนด้านขวาของ “พ่อท่านเจ้าวัด” นั้น มีรูปหล่เป็นยักษ์แลดูน่ากลัว ชาวบ้านเรียกว่า “นนทรีย์” รูปหล่อทั้ง 3 องค์นี้ ท่านศักดิ์สิทธิ์นักจนเป็นที่โจษขานกันมานานแล้ว

นอกจากชื่อเสียงของหลวงพ่อแช่มแล้ว วัดฉลองยังมีสถาปัตยกรรมโบราณสวยงายอย่าง พระมหาธาตุเจดีย์พระจอมไทยบารมีประกาศ ที่ภายในบรรจุองค์พระพุทธรูปปางต่างๆ ไว้มากมาย แล้วถ้าเดินขึ้นไปถึงยอดแล้วก็จะเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเกาะภูเก็ตอีกด้วย พื้นที่วัดยังประดิษฐานกุฏิจำลองหลวงพ่อแช่มไว้อีกด้วย ซึ่งภายในบรรจุรูปหล่อจำลองและสภาพบ้านเสมือนจริงเอาไว้อย่างสมบรูณ์การเข้ามาชมจำเป็นต้องแต่งกายให้สุภาพเพื่อเป็นการให้ความเคารพต่อหลวงพ่อและห้ามส่งเสียงดังภายในกุฎิจำลองแห่งนี้เป็นอันขาด

โดยรวมแล้ววัดฉลอง (ซึ่งในปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็นไชยธาราราม) ยังคงมนต์เสน่ห์วัดคู่บ้านคู่เมืองภูเก็ตไม่เสื่อมคลาย หากใครที่มีโอกาศได้แวะเวียนมาที่นี่ก็ไม่ควรพลาดที่จะเดินทางไปสักการะเพื่อเสริมดวงและกำลังใจในการเดินทางไปยังสถานที่ต่อๆไป


PHUKET BUTTERFLY GARDEN & INSECT WORLD

ภูเก็ตไม่ได้มีแค่ระบบนิเวศน์ทางทะเลหรือแหล่งวัฒนธรรมอย่างวัดชื่อดังเท่านั้น เหล่าความรู้ทางธรรมชาติก็มีให้ได้เที่ยวชมเหมือนกัน

“สวนผีเสื้อและแมลง” รวบรวมแมลงหาดูได้ยากเอาไว้มากมายจากทั่วทุกมุมโลก ภายในถูกแบ่งแยกเป็นโซนอย่างชัดเจนไม่ว่าจะเป็นแมลงมีพิษอันตรายอย่าง แมงมุม แมงป่อง เป็นต้น โซนแมลงหายากด็ยังให้ได้ชมกัน

แต่สิ่งที่เป็นชุดขายของที่นี่เห็นจะเป็น โซนสวนผีเสื้อ ที่เราจะได้เห็นตั้งแต่ต้นกำเนิด ไปจนถึงการโตเต็มที่ของมัน เดินถัดไปทางด้านในอีกนิดคุณจะได้เห็นผีเสื้อมากมายบินว่อนชนิดเรียกว่าบินเฉียดผิวได้เลย   ธรรมชาติผีเสื้อจะเป็นแมลงที่กลัวคนแต่ไม่ใช่ที่นี่เพราะคุณสามารถยื่นแขนมาให้พวกมันเกาะได้

การเดินทางก็ไม่ลำบากแต่อย่างใด เพราะอยู่ห่างจากตัวเมืองแค่ 3 กิโลเมตรเท่านั้น สวนตั้งอยู่บริเวณสามแยกสามกองไปเล็กน้อย (มีป้ายบอกชัดเจน) นอกจากฝูงผีเสื้อและแมลงหายากแล้วยังมีโซนสวนหย่อมที่ให้นักท่องเที่ยวได้นั่งผักผ่อนและให้อาหารปลาคาร์ฟ ถือได้ว่าเป็นความรู้และเป็นการพักผ่อนไปในตัวได้อีกด้วย


PHUKET FANTASEA
 
เพชรน้ำงามที่ขาดไม่ได้ในจ.ภูเก็ตเห็นจะเป็นที่แห่งนี้ “Phuket Fantasea” สถานที่จัดแสดงแสนอลังการที่ผสมผสานความเป็นไทยให้ออกมาเป็นรูปแบบสากลได้อย่างไม่ขัดเขิน ด้วยพื้นที่กว่า 350 ไร่ ทำให้ที่นี่เป็น “อาณาจักรวัฒนธรรมบันเทิง” ยามราตรีที่ใหญ่ที่สุดรอให้นักเที่ยงเที่ยวได้เข้าไปสัมผัส 

ภูเก็ตแฟนตาซีแบ่งโซนออกอย่างชัดเจนด้วยกัน 5 โซน ได้แก่ Advanture ที่รวบรวมสัตว์หายกมากมายเอาไว้อาทิ อีการเผือกสีขาว งูหลามเผือก เป็นต้น ซึ่งสัตว์แต่ละชนิดล้วนเป็นสีขาวเผือกด้วยกันทั้งสิ้น ซึ่งเป็นการันตีว่าสัก 10,000 ตัวจะมีสักตัวที่ได้อย่างนี้แล้วยิ่งได้แสงสีเสียงประกอบความอลังการเข้าไปอีก ยิ่งต้องยอมรับในความสวยงาม และโซนที่เหลืออีก 4 โซน ได้แก่ Games, Shopping, Dinner และ Show

อีกโซนที่น่าสนใจอยู่ที่ Dinner ที่เสริ์ฟอาหารนานาชาติภายในภัตตาคาร “นโนราห์ทอง” ท่ากลางบรรยายกาศแห่งป่าหิมพานต์ภายในยังได้รับการต้อนรับอย่างอ่อนน้อมจากเหล่านางกินรีหน้าตางดงาม โดยบุฟเฟ่ต์จะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 18.00 ไปจนถึง 21.00 น.อาหารแนะนำเห็นจะเป็น เป็ดย่าง ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลายักษ์รสเด็ด

แต่ไฮไลท์เด็ดเห็นจะอยู่ที่ Show ที่ใช้คำจำกัดความว่า “มหัศจรรย์กมลา” การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยประยุกต์ที่ผสมผสานเทคโนโลยีระดับโลก ด้วยเทคนิคอิลลูชั่น มิติมายากลลวงตายิ่งใหญ่ ซึ่งทั้งหมดถูกทสอดแทรกด้วยวัฒนธรรมไทยล้วน ดูแล้วยังอึ้งในความเข้าใจนำความเป็นไทยมาปรับให้เกิดความน่าสนใจประตูเปิดตั้งแต่เวลา 21.00 น. เป็นต้นไป เราขอยืนยันเลยว่าที่ภูเก็ต แฟนตาซีแห่งนี้ควรค่าแก่การเข้าชมจริงๆ


PRARL MARKET

ในหาดราไวย์ถือเป็นอีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะเวียนเข้ามาซื้อของมีชื่ออย่างไข่มุก ถูกนำมาแปรรูปเป็นเครื่องประดับต่างๆไม่ว่าจะเป็นสร้อย แหวน หรือว่ากำไร ล้วนแล้วแต่ถูกทำออกมาจำหน่ายด้วยกันทั้งนั้น ราคาเริ่มต้นตั้งที่ 350 บาทเรื่อยไปจนถึงหลักหมื่นก็มี นอกจากตลาดค้ามุกแล้วในหาดไรเวย์นีกท่องเที่ยวยังได้สัมผัสถึงชีวิตความเป็นอยู่ของชาวประมง ที่เรียบง่าย ไม่แน่ถ้ามีโอกาสได้ไปดูแล้ว อาจอยากไปใช้ชีวิตชาวเลเลยก็เป็นได้


OTOP @ PHUKET

สินค้าที่ควรซื้อติดไม้ติดมือกลับไปฝากคนที่บ้าน ร้านค้าของฝากมีให้เห็นมากมายในภูเก็ต แต่ขอแนะนำร้านพรทิพย์ที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะซื้อกลับไปเป็นชองฝากอย่างเช่นน้ำพริกกุ้งเสียบกับน้ำพริกแกงไตปลา ที่ขึ้นชื่อสนนราคาเริ่มต้นที่ 70 บาทเท่านั้น  อย่างน้ำพริกกุ้งเสียบและน้ำพริกแกงไตปลา ที่เราได้ลองชิมแล้วก็ขอการันตีว่าได้รสชาติความอร่อยของอาหารใต้อย่างแท้จริงๆ น่าติดไม้ติดมือกลับไปบ้านไปฝากคนใกล้ชิดก็ดีเหมือนกัน โดยราคาเริ่มต้นที่ 70 บาทเท่านั้น

สุดท้ายสำหรับการเดินทางต้องขอขอบคุณสายการบินไทย สายการบินนอกแอร์และรถเช่า Hertz ที่มอบประสบการณ์สุดประทับใจในครั้งนี้ให้แก่ทาง Runway to paradise Magazine
 
ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์
เราสร้างบ้านเพื่ออนาคต

Line